ไม้เเอช : ข้อเสีย

ข้อเสียของ : ไม้แอช

ไม้แอช (Ash wood) ถือเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีชื่อเสียงด้านความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และลวดลายที่สวยงาม นิยมใช้ทำ โต๊ะไม้แอช (ash wood table) หรือ พื้นไม้แอช (ash wood floors) แต่ถึงแม้จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ไม้แอชก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ และมีข้อเสียที่ต้องพิจารณาก่อนนำมาใช้งานหรือสะสม บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจกับข้อเสียของไม้แอชในมุมมองที่เป็นธรรมชาติและเข้าใจง่าย

ความไวต่อความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

หนึ่งในข้อเสียที่เห็นได้ชัดเจนของไม้แอชคือความไวต่อความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ซึ่งอาจทำให้เนื้อไม้เกิดการบวม หดตัว หรือแตกร้าวได้

การบวมจากความชื้น: ไม้แอชสามารถดูดซับความชื้นได้ง่าย หากใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ หรือพื้นที่ใกล้ทะเล อาจเกิดการบวมและเสียรูปทรง
การหดตัวจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง: ในสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ไม้แอชอาจเกิดการหดตัวหรือขยายตัว ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้
วิธีป้องกัน: ควรใช้สารเคลือบกันน้ำหรือวางไม้ในพื้นที่ที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น

ความไวต่อรอยขีดข่วน

แม้ว่าไม้แอชจะเป็นไม้เนื้อแข็ง แต่ผิวหน้าของมันสามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น พื้นไม้หรือโต๊ะรับประทานอาหาร

ปัญหาจากการใช้งานหนัก: หากไม่ได้ใช้แผ่นรองใต้เฟอร์นิเจอร์หรือวางสิ่งของที่มีขอบคมบน โต๊ะไม้แอช อาจเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยกระแทกที่ชัดเจน
ความจำเป็นในการบำรุงรักษา: การขัดและเคลือบผิวไม้ใหม่เพื่อซ่อมแซมรอยขีดข่วนอาจเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

วิธีป้องกัน: ใช้แผ่นรองเฟอร์นิเจอร์ แผ่นรองแก้ว หรือพรมในพื้นที่ที่มีการใช้งานบ่อย

สีของไม้ไวต่อแสงแดด

ไม้แอชมีสีธรรมชาติที่สวยงาม แต่สีของมันค่อนข้างไวต่อแสงแดดและรังสี UV ซึ่งอาจทำให้สีจางลงเมื่อใช้งานในพื้นที่ที่ได้รับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน

สีซีดจาง: การตั้งเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้แอชในพื้นที่ที่แสงแดดส่องถึง เช่น ใกล้หน้าต่าง อาจทำให้ไม้เกิดการซีดจางหรือเปลี่ยนสีไปจากเดิม
ปัญหาการเปลี่ยนสี: นอกจากสีจางแล้ว บางครั้งสีของไม้แอชอาจเหลืองหรือหมองคล้ำ ซึ่งลดความสวยงามของเฟอร์นิเจอร์

วิธีป้องกัน: ใช้ม่านกรองแสง หรือเคลือบน้ำยาป้องกันรังสี UV บนผิวไม้

ความซับซ้อนในการแปรรูปและงานช่าง

ไม้แอชเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความแข็งแรงสูง ซึ่งแม้จะเป็นข้อดีสำหรับการใช้งาน แต่ในด้านการแปรรูปอาจเป็นข้อเสียสำหรับช่างไม้ที่ไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสม

การตัดและเจาะยาก: ไม้แอชต้องการเครื่องมือที่มีความแข็งแรงสูงและความชำนาญของช่างไม้ในการตัด เจาะ หรือขัด เนื่องจากความหนาแน่นของเนื้อไม้
ไม่เหมาะกับงาน DIY: สำหรับผู้ที่ต้องการทำงานไม้ด้วยตัวเอง ไม้แอชอาจเป็นตัวเลือกที่ยาก เนื่องจากต้องใช้เครื่องมือเฉพาะและมีน้ำหนักมาก

วิธีแก้ไข: ควรให้ช่างไม้มืออาชีพเป็นผู้แปรรูปหรือประกอบชิ้นงานจากไม้แอช

น้ำหนักที่มากกว่าปกติ

ไม้แอชมีความหนาแน่นและน้ำหนักที่มากกว่าไม้เนื้อแข็งหลายชนิด ทำให้การขนย้ายและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้แอชเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก

การขนย้ายยาก: เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้แอช เช่น โต๊ะไม้แอชแผ่นใหญ่ มีน้ำหนักมากและต้องใช้แรงงานหลายคนในการขนย้าย
ส่งผลต่อโครงสร้างพื้น: สำหรับพื้นไม้แอชที่ติดตั้งในบ้านหรืออาคารเก่า น้ำหนักของไม้ที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้างพื้น

วิธีแก้ไข: เลือกใช้ไม้แอชในส่วนที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย และวางแผนการขนย้ายอย่างเหมาะสม

ราคาที่ค่อนข้างสูง

ไม้แอช โดยเฉพาะไม้แอชนำเข้า (imported ash wood) หรือไม้แอชแผ่นใหญ่ มักมีราคาสูงกว่าชนิดอื่นในกลุ่มไม้เนื้อแข็ง

ไม้แอชนำเข้า: ไม้แอชที่มาจากยุโรปหรืออเมริกาเหนือมักมีราคาสูง เนื่องจากต้นทุนการขนส่งและคุณภาพที่ดี
ความคุ้มค่าในการลงทุน: แม้ว่าไม้แอชจะมีความสวยงามและทนทาน แต่ราคาที่สูงอาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด

วิธีแก้ไข: พิจารณาเลือกใช้ไม้แอชในชิ้นงานที่ต้องการความหรูหราหรือความคงทนในระยะยาว เช่น พื้นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไฮไลต์ในบ้าน

ความเสี่ยงจากปลวกและแมลง

แม้ว่าไม้แอชจะมีความแข็งแรง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานปลวกหรือแมลงกินไม้ได้ดีเท่ากับไม้บางชนิด เช่น ไม้สัก

ความเสียหายจากปลวก: หากไม่ได้เคลือบน้ำยาป้องกันปลวก ไม้แอชอาจถูกปลวกทำลายได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้น
ความจำเป็นในการบำรุงรักษา: การป้องกันปลวกต้องใช้สารเคมีหรือการดูแลรักษาเพิ่มเติม ซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

วิธีป้องกัน: ใช้สารเคลือบป้องกันแมลงและตรวจสอบสภาพไม้เป็นระยะ

สรุป

ไม้แอช (Ash wood) แม้จะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในด้านความแข็งแรงและความสวยงาม แต่ก็มีข้อเสียที่ควรคำนึงถึง เช่น ความไวต่อความชื้น การบำรุงรักษาที่ต้องใส่ใจ น้ำหนักที่มาก และราคาที่ค่อนข้างสูง การเลือกใช้ไม้แอชในงานต่างๆ เช่น โต๊ะไม้แอช หรือ พื้นไม้แอช จึงควรพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่และงบประมาณอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจากไม้ชนิดนี้

icon story 1 1
icon story 2
icon story 3
icon story 4
icon story 5
icon story home
หน้าหลัก เมนู แชร์