Australian black
ชื่อสามัญ: Australian blackwood, Tasmanian blackwood, Acacia blackwood
ชื่อวิทยาศาสตร์: Acacia melanoxylon
การกระจายพันธุ์: มีถิ่นกำเนิดในแทสเมเนียและออสเตรเลียตะวันออก ได้รู้จักกับแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชียใต้ด้วย
ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 40.0 lbf/ft3 (640 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.54, 0.64
ความแข็ง : 1,160 lbf (5,180 N)
การแตกหัก : 15,020 lbf/in2 (103.6 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,148,000 lbf/in2 (14.82 Gpa)
แรงอัดแตก: 7,770 lbf/in2 (53.6 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.9%, Tangential: 7.9%, Volumetric: 11.9%, T/R Ratio: 2.0
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลทอง ในบางครั้งริ้วลายและเส้นสีเทาจนถึงสีดำ ไม้ที่มีพื้นผิวสีเข้มนี้เรียกว่า Black Limba และไม้ที่มีพื้นผิวสีเรียเรียกว่า White Limba ในส่วนของกระพี้มีสีเทาอ่อนถึงสีน้ำตาลอมเหลือง กระพี้ไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนจากแก่นไม้ สีของกระพี้มักจะเข้มขึ้นตามอายุ
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เกรนมักจะตรงถึงประสานกันเล็กน้อย และบางครั้งก็เป็นคลื่น เนื้อละเอียดถึงปานกลางสม่ำเสมอ
ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลางเกี่ยวกับความต้านทานการผุ แม้ว่าจะไวต่อการโจมตีของแมลง
ความสามารถในการใช้: แบล็ควูดของออสเตรเลียใช้งานได้ง่ายทั้งด้วยมือและเครื่องมือกล แม้ว่าไม้ที่ทำจากไม้และชิ้นส่วนที่มีเกรนที่ประสานกันอาจทำให้เกิดการฉีกขาดได้ ไม้แบล็กวูดของออสเตรเลียเปลี่ยน กาว คราบ และจบงานได้ดี แม้ว่าการเคลือบด้วยตัวเร่งปฏิกิริยาสองส่วนในบางครั้งอาจทำให้การบ่มช้าลง ตอบสนองการรีดด้วยไอน้ำได้ดี รายงานว่าทนต่อแรงกระแทกได้ดี
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างผิดปกติ แต่มีรายงานว่าไม้แบล็กวูดของออสเตรเลียเป็นสารกระตุ้นความรู้สึก ปฏิกิริยาทั่วไปส่วนใหญ่มักรวมถึงการระคายเคืองตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ รวมทั้งอาการคล้ายโรคหอบหืด ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: แม้ว่าไม้แบล็ควูดของออสเตรเลียจะถือเป็นสายพันธุ์ที่รุกรานและเป็นศัตรูพืชในบางพื้นที่ แต่ไม้แปรรูปก็ยังค่อนข้างแพง และไม้แปรรูปก็มีราคาแพงมาก อย่างไรก็ตาม มันถูกใช้เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำกว่าสำหรับ Hawaiian koa (Acacia koa) ที่มีราคาแพงกว่า
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นพันธุ์รุกรานในบ้างพื้นที่
การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี ด้ามปืน งานกลึง และรายการไม้พิเศษอื่นๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/australian-blackwood/
Australian buloke
เป็นไม้พื้นเมืองของออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นต้นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โดยทั่วไปจะมีความสูงประมาณ 5-15 เมตร มีเปลือกที่หนาและแตกเป็นร่อง สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินที่แห้งและมีการระบายน้ำดี
ไม้ชนิดนี้นิยมใช้ในงานไม้และการปลูกเป็นพืชประดับ เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาหารสำหรับสัตว์ป่า โดยเฉพาะนกและแมลงต่างๆ ที่มาเก็บกินเมล็ดของมัน
- การเจริญเติบโต: ไม้นี้มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรง และสามารถเจริญเติบโตได้ในดินที่มีสารอาหารน้อย
- เนื้อไม้: มักมีสีที่เป็นสีน้ำตาลแดงถึงน้ำตาลเข้ม โดยจะมีลวดลายที่เด่นชัดและมีความสวยงาม
- เปลือก: เปลือกไม้มีสีเทาเข้มถึงสีน้ำตาลอ่อน และมีลักษณะหนาและแตกเป็นร่อง
- การใช้งาน: Australian Buloke นิยมใช้ในงานไม้ เช่น ทำเฟอร์นิเจอร์หรือของประดับ และมักปลูกเพื่อการจัดสวน เพราะมีความสวยงามและดูแลรักษาง่าย
- คุณสมบัติอื่นๆ: Australian Buloke เป็นไม้ที่มีความทนทานต่อแมลงและเชื้อรา ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นต่ำ
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน รัศมีมวลรวมขนาดใหญ่มากทำให้เกิดลวดลายคล้ายลูกไม้บนพื้นผิวที่ตัดเป็นไม้ผ่าสี่ รัศมีที่มีขนาดใหญ่มาก บางชิ้นมีรัศมีที่มองเห็นได้บนพื้นผิวไม้ผ่าแบน
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงถึงเสี้ยนสนเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางมีความมันวาวตามธรรมชาติที่ดี
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล
ความสามารถในการใช้: อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำงานเนื่องจากความแข็งของมัน การฉีกขาดอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการไสหรือพื้นผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นผิวไม้ผ่าสี่ แต่สามารถใช้ได้ดีกับกาว
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Australian buloke ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม่ค่อยมีจำหน่ายนอกออสเตรเลีย มีจำหน่ายเป็นบล็อกกลึงขนาดเล็ก สำหรับงานฝีมือเป็นครั้งคราว ราคาไม้นำเข้าค่อนข้างสูง
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสายพันธุ์ของต้นไม้เองอาจไม่ถูกคุกคามโดยตรงจากการสูญพันธุ์ แต่พื้นที่บางแห่งในรัฐวิกตอเรียและนิวเซาธ์เวลส์ก็ถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์โดยรัฐบาลออสเตรเลีย
การใช้งานทั่วไป: ด้ามมีด พื้นไม้ เฟอร์นิเจอร์ และงานกลึง
ชื่อสามัญ: Australian buloke, bull oak
ชื่อวิทยาศาสตร์: Allocasuarina luehmannii (formerly Casuarina luehmannii)
การกระจายพันธุ์: ออสเตรเลียตะวันออก
ขนาดต้นไม้: สูง 30-50 ฟุต หรือ 9-15 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 69.9 lbf/ft3 (1,085 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.86, 1.09
ความแข็ง : 3,760 lbf (16,740 N)
การแตกหัก : 18,850 lbf/in2 (130.0 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,682,500 lbf/in2 (18.50 Gpa)
แรงอัดแตก: 10,150 lbf/in2 (70.0 Mpa)
การหดตัว: Radial: ~5%, Tangential: ~9%,Volumetric: ~14%, T/R Ratio: ~1.8
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/australian-buloke/
Australian Cypress
ชื่อสามัญ: Australian Cypress, White Cypress Pine
ชื่อวิทยาศาสตร์: Callitris columellaris (= C. glaucophylla)
ถิ่นกำเนิด: ประเทศออสเตเรีย
ความสูงลำต้น: 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1.5-2 ฟุต หรือ .5-.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 41 lbf/ft3 (650 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.56, 0.65
ความแข็ง : 1,360 lbf (6,060 N)
การแตกหัก : 11,550 lbf/in2 (79.6 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,351,000 lbf/in2 (9.32 Gpa)
แรงอัดแตก: 7,460 lbf/in2 (51.5 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.7%, Tangential: 4.9%, Volumetric: 8.7%, T/R Ratio: 1.3
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนต่อตารางนิ้ว
lbs/ft3 = ปอนต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีไม้แก่นอาจแตกต่างกัน ตั้งแต่สีแทนอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยทั่วไปมีลายริ้วสีน้ำตาลแดงเข้ม กระพี้สีเหลืองอ่อนหรือชมพู โดยทั่วไปจะมีตาไม้ขนาดเล็กอยู่ทั่วไม้
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและมีความเงาให้ความรู้สึกมันวาวแล็กน้อย
ความทนทาน: ทนทานมากในด้านความต้านทานการผุผังและยังทนทานต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย
ความสามารถในการใช้: ทำงานได้ง่าย แม้ว่าบางครั้งมีตาไม้อยู่ทั่วไป อาจทำให้มีรอยขาดหรือมีปัญหาในการตัดไม้ ใช้ในงานกาวได้ดี
กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายไม้ Camphor
การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Australian Cypress มีรายงานว่าก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่นเดียวกับอาการที่พบได้น้อยกว่า เช่น ฝี เปลือกตาบวม และอาการคล้ายโรคหอบหืด ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ราคาไม้แปรรูปที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้า
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด
การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้อัด พื้น เฟอร์นิเจอร์ และงานไม้อื่น ๆ ในการก่อสร้างทั่วไป
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/australian-cypress/
Australian red cedar
ชื่อสามัญ: Australian Red Cedar, Toona
ชื่อวิทยาศาสตร์: Toona ciliata (syn. Cedrela toona)
การกระจายพันธุ์: เอเชียใต้และออสเตรเลีย
ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 30 lbf/ft3 (485 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.40, 0.49
ความแข็ง : 700 (lbf) 3,130 (N)
การแตกหัก : 10,370 lbf/in2 (71.5 Mpa)
การยืดหยุ่น : 1,336,000 lbf/in2 (9.22 Gpa)
แรงอัดแตก : 5,240 lbf/in2 (36.1 Mpa)
การหดตัว : Radial: 3.8%, Tangential: 6.3%, Volumetric: 10.8%, T/R Ratio: 1.7
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีแก่นไม้มีตั้งแต่สีชมพูจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม กระพี้สีซีดมีการแบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปเป็นเสี้ยนตรงไปจนถึงเป็นเสี้ยนสนเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ ไม่สม่ำเสมอ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติดี
ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานระดับปานกลาง ความต้านทานแมลงปานกลางถึงต่ำ
ความสามารถในการใช้: ใช้งานง่ายทั้งกับมือและเครื่องจักร ความยากลำบากบางอย่างอาจเกิดขึ้นได้เมื่อทำบริเวณพื้นผิวไม้ผ่าสี่กับเสี้ยนสน ใช้ได้ดีกับกาว
กลิ่น: กลิ่นเฉพาะตัวเหมือนไม้ซีดาร์ (Cedar)
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่มีรายงานว่า Australian Red Cedar ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ เช่นเดียวกับผลกระทบอื่นๆ เช่น อาการคล้ายหืด ไมเกรน อาการวิงเวียนศีรษะ หลอดลมอักเสบ และตะคริวในกระเพาะอาหาร ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม่ค่อยมีการส่งออก บางครั้ง Australian Red Cedar มีจำหน่ายเป็นไม้แปรรูปหรือเครื่องดนตรี ราคาเป็นไปได้ที่จะอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ไม้วีเนียร์ เครื่องดนตรี (ไม้หน้าของกีตาร์) และการต่อเรือ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/australian-red-cedar/
Austrian Pine
ชื่อสามัญ: Austrian Pine, European Black Pine
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pinus nigra
ถิ่นกำเนิด: ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนของยุโรปและเอเชียไมเนอร์
ความสูงลำต้น: 65-115 ฟุต หรือ 20-35 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 30 lbf/ft3 (475 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.39, 0.48
ความแข็ง : 660 lbf (2,920 N)
การแตกหัก : 9,340 lbf/in2 (64.4 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,568,000 lbf/in2 (10.81 Gpa)
แรงอัดแตก: 5,570 lbf/in2 (38.4 Mpa)
การหดตัว: Radial: 4.1%, Tangential: 7.3%, Volumetric: 11.4%, T/R Ratio: 1.8
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อน กระพี้กว้างมีสีเหลืองอ่อนเกือบขาว
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง
ความทนทาน: มีความทนทานปานกลางถึงไม่ทนทาน
ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยเครื่องมือทั้งแบบมือและแบบเครื่องจักร ใช้กับงานกาวได้ดี
กลิ่น: มีกลิ่นยางอ่อนๆ เมื่อใช้งาน
การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Austrian Pine ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังหรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ใช้เป็นไม้โครงสร้างและไม้สำหรับงานก่อสร้าง คาดว่าราคาจะอยู่ในระดับปานกลางในช่วงการเจริญเติบโตตามธรรมชาติ
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด
การใช้งานทั่วไป: กระดาษ (เนื้อไม้หรือวัสดุทำเยื่อกระดาษ), กล่อง/ลัง และไม้สำหรับงานก่อสร้าง
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/austrian-pine/
Avodire
ชื่อสามัญ: Avodire
ชื่อวิทยาศาสตร์: Turraeanthus africanus
การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันตกและภาคกลางของแอฟริกาใกล้ทะเลสาบและลำธาร
ขนาดต้นไม้: สูง 80-115 ฟุต หรือ 25-35 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 35.9 lbf/ft3 (575 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.48, 0.58
ความแข็ง : 1,170 lbf (5,180 N)
การแตกหัก : 15,400 lbf/in2 (106.2 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,614,000 lbf/in2 (11.13 Gpa)
แรงอัดแตก: 7,490 lbf/in2 (51.7 Mpa)
การหดตัว: Radial: 4.2%, Tangential: 6.6%, Volumetric: 11.3%, T/R Ratio: 1.6
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: มีสีเหลืองอ่อนหรือครีม เข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีเหลืองทอง แก่นไม้และกระพี้มักจะแยกไม่ออก ไม้ Avodire สามารถแสดงลวดลายได้หลากหลาย เช่น หยัก รอยด่าง และคลื่นเล็กๆ ด้วยความแวววาว ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเคลือบวีเนียร์
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็น เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง คลื่น ไม่สม่ำเสมอ หรือเป็นเสี้ยนสน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและเป็นมันวาวสูง
ความทนทาน: ไม่ทนทานและยังไวต่อการรุกรานของแมลง
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้ว Avodire ถือว่ามีลักษณะการทำงานที่ดีและใช้งานได้ง่ายด้วยมือ เครื่องมือและ กาวได้ดี แม้ว่าเป็นเสี้ยนเนื้อไม้ที่ประสานกันอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ไม้ยังมีเอฟเฟกต์ทื่อเล็กน้อยต่อเครื่องมือตัด
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Avodire ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เลือดกำเดาไหล เลือดออกภายใน และอาการคล้ายโรคหอบหืด บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปแล้ว Avodire จะขายเป็นแผ่นไม้บางในราคาปานกลาง แม้ว่าจะมีไม้กระดานขายอยู่ด้วย ไม้แปรรูป Avodire มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในช่วงราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า แม้ว่าไม้วีเนียร์หรือไม้จริงที่มีลวดลายมากจะมีราคาแพงกว่ามาก
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 30% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง, ตู้เก็บของ, เฟอร์นิเจอร์, งานสีและไม้อัด
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/avodire/
Balau
ชื่อสามัญ: Balau
ชื่อวิทยาศาสตร์: Shorea spp.
การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขนาดต้นไม้: สูง 150-200 ฟุต หรือ 45-60 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 ฟุต หรือ 1.0-2.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 53 lbf/ft3 (850 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.69, 0.85
ความแข็ง : 1,600 lbf (7,120 N)
การแตกหัก : 17,730 lbf/in2 (122.3 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,457,000 lbf/in2 (16.95 Gpa)
ความสามารถในการบด: 10,280 lbf/in2 (70.9 Mpa)
การหดตัว: Radial: 5.5%, Tangential: 10.1%, Volumetric: 15.7%, T/R Ratio: 1.8
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีสามารถเปลี่ยนแปลงได้สูงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์: ตั้งแต่สีฟางอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีพอร์ปานกลางถึงใหญ่ ในบางครั้งเสี้ยนเนื้อไม้เป็น เสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ
ความทนทาน: ไม่ทนทานต่อการผุพังและยังไวต่อการรุกรานของแมลง
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปจะทำงานค่อนข้างยากเนื่องจากไม้มีมีความหนาแน่นสูง บางสายพันธุ์อาจมีผลกระทบเล็กน้อยต่อเครื่องเนื่องจากไม้มีความแข็งแรงของผนังเซลล์ในระดับเล็กน้อย แต่ใช้กับกาว และการย้อมสีได้ดี
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Balau ในสกุล Shorea ได้รับรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองตา คอ และผิวหนัง บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: Balau ได้รับการเก็บเกี่ยวอย่างกว้างขวางและมีจำหน่ายทั่วโลก ราคาปานกลางแม้ว่าจะนำเข้าก็ตาม
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่หลายชนิดในสกุล Shorea ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
การใช้งานทั่วไป: ไม้อัด ไม้แผ่นบาง งานทั่วไป งานปูพื้น และงานอเนกประสงค์อื่นๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balau/
Bald Cypress
ชื่อสามัญ: Bald cypress, swamp cypress, sinker cypress, pecky cypress, and tidewater red cypress
ชื่อวิทยาศาสตร์: Taxodium distichum
ถิ่นกำเนิด: ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
ความสูงลำต้น: 80-120 ฟุต หรือ 24-37 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 32.0 lbf/ft3 (515 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.42, 0.51
ความแข็ง : 510 lbf (2,270 N)
การแตกหัก : 10,600 lbf/in2 (73.1 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,440,000 lbf/in2 (9.93 Gpa)
แรงอัดแตก: 6,360 lbf/in2 (43.9 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.8%, Tangential: 6.2%,
Volumetric: 10.5%, T/R Ratio: 1.6
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีมักจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง กระพี้เกือบเป็นสีขาว ไม้บางชิ้นอาจมีช่องสีดำและโพรงที่ไม้ถูกเชื้อราเข้าทำลาย ซึ่งเรียกว่า pecky cypress นอกจากนี้มีไม้บางส่วนของต้นไซเปรสที่อายุมากๆซึ่งกู้มาจากก้นแม่น้ำ เรียกว่า sinker cypress มักจะมีสีแก่นไม้ที่มีโทนสีอุ่นกว่าและเข้มกว่าเล็กน้อย
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ พื้นผิวไม้ที่ยังไม่ได้ลงสีเคลือบจะให้ความรู้สึกมันวาว
ความทนทาน: ไม้ Bald cypress ที่มีอายุเก่าแก่ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานถึงทนทานมากในแง่ของความต้านทานการผุกร่อน ในขณะที่ไม้จากต้นไม้อายุน้อยได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลางเท่านั้น
ความสามารถในการใช้: แนะนำให้ใช้ใบมีดที่คมเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาด นอกจากนี้บางแหล่งรายงานว่าไม้มีผลทำให้คมตัดทื่อในระดับปานกลาง ไม้ Bald Cypress มีคุณสมบัติในการติดกาว การตอกตะปู การตกแต่ง และการยึดสีที่ดี
กลิ่น: ไม้ Bald cypress มีกลิ่นที่ค่อนข้างเปรี้ยวในขณะที่กำลังทำงาน
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่ไม้ Bald cypress ได้รับการรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ โดยปกติแล้วปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ราคาควรอยู่ในระดับกลางสำหรับไม้ในประเทศ โดยแผ่นไม้เรียบไร้ปมสำหรับงานไม้จะมีราคาสูงกว่าไม้เกรดก่อสร้าง นอกจากนี้ ไม้แปรรูปชนิดพิเศษ เช่น ไม้ cypress สำหรับทำอ่างล้างจานหรือไม้ pecky cypress มีราคาสูงกว่ามาก
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด
การใช้งานทั่วไป: การก่อสร้างภายนอก เฟอร์นิเจอร์ภายนอก ท่าเทียบเรือ การต่อเรือ ตกแต่งภายใน และไม้อัด
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bald-cypress/
Balsa
ชื่อสามัญ: Balsa
ชื่อวิทยาศาสตร์: Ochroma pyramidale
การกระจายพันธุ์: เขตร้อนของทวีปอเมริกา
ขนาดต้นไม้: สูง 60-90 ฟุต หรือ 18-28 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 1.01.2 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 9 lbf/ft3 (150 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.12, 0.15
ความแข็ง : 67 lbf (300 N)
การแตกหัก : 2,840 lbf/in2 (19.6 Mpa)
การยืดหยุ่น: 538,000 lbf/in2 (3.71 Gpa)
ความสามารถในการบด: 1,690 lbf/in2 (11.6 Mpa)
การหดตัว: Radial: 2.3%, Tangential: 6.0%, Volumetric: 8.5%, T/R Ratio: 2.6
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลอมแดงอ่อน ไม่พบเห็นได้ทั่วไปในไม้แปรรูปเชิงพาณิชย์ แผ่นไม้/บล็อกของไม้บัลซ่าส่วนใหญ่มาจากกระพี้ซึ่งมีสีขาวถึงสีขาวนวลหรือสีแทน บางครั้งมีสีชมพูหรือสีเหลือง
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบและมีความมันวาวต่ำ
ความทนทาน: กระพี้ของไม้บัลซ่าจัดอยู่ในประเภทที่เน่าเสียง่าย และยังไวต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปใช้งานง่ายมากโดยแทบไม่มีผลกระทบต่อใบมีด แต่เนื่องจากความหนาแน่นต่ำมาก พื้นผิวที่เป็นขุยอาจเป็นปัญหาได้เมื่อใช้เครื่องตัดที่ทื่อ โดยทั่วไปไม่ควรใช้ตะปูในการยึด โดยควรใช้วิธีการต่อด้วยกาว ไม้บัลซ่าใช้วิธีการย้อมสีได้ดี แม้ว่าจะมีแนวโน้มที่จะดูดซับวัสดุเคลือบจำนวนมากในชั้นเริ่มแรก
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้บัลซ่าได้รับรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม้ Balsa คุณภาพสูง (นั่นคือไม้ Balsa ที่มีความหนาแน่นต่ำมาก) อาจค่อนข้างแพงเมื่อซื้อที่ร้านหรือร้านค้าพิเศษอื่นๆ ไม้กระดานและไม้แปรรูปขนาดใหญ่ที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายไม้เนื้อแข็งทั่วไปนั้นหายาก
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: ทุ่น แพ กระดานโต้คลื่น เครื่องบินจำลอง เครื่องดนตรี กล่องบรรจุ/ขนส่ง วัสดุผสม และเหยื่อตกปลา
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balsa/
Balsam Fir
ชื่อสามัญ: Balsam fir
ชื่อวิทยาศาสตร์: Abies balsamea
ถิ่นกำเนิด: ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ
ความสูงลำต้น: 40-65 ฟุต หรือ 12-20 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 25.0 lbf/ft3 (400 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.33, 0.4
ความแข็ง : 400 lbf (1,780 N)
การแตกหัก : 8,800 lbf/in2 (60.7 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,387,000 lbf/in2 (9.57 Gpa)
แรงอัดแตก: 5,000 lbf/in2 (34.5 Mpa)
การหดตัว: Radial: 2.9%, Tangential: 6.9%,
Volumetric: 11.2%, T/R Ratio: 2.4
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มักมีสีขาวถึงน้ำตาลแดง โดยมีกระพี้สีซีดซึ่งไม่แตกต่างจากแก่นไม้อย่างชัดเจน สีมักจะเข้มขึ้นตามอายุ
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้ตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและสม่ำเสมอ
ความทนทาน: ไม่ทนทานต่อการผุพังถึงผุพังง่าย และมีความต้านทานแมลงต่ำ
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการทำงานด้วยเครื่องมือ ทั้งแบบมือและแบบเครื่องจักร ใช้กับงานกาวได้ดี
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว
การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า fir ไม้ในสกุล Abies ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: มักใช้เป็นไม้สำหรับงานก่อสร้าง และมักถูกจัดกลุ่มร่วมกับไม้spruce และไม้pineชนิดอื่น ๆ ขายภายใต้ฉลากทั่วไปว่า spruce-pine-fir หรือเรียกง่าย ๆ ว่า SPF ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เอนกประสงค์ แต่ไม้แบบพิเศษอื่นๆ มีแนวโน้มที่จะมีราคาแพงกว่า
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด
การใช้งานทั่วไป: ไม้สำหรับงานก่อนสร้าง, กระดาษ (เยื่อกระดาษ), ไม้อัด และไม้เอนกประสงค์อื่น ๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balsam-fir/
Balsam Poplar
ชื่อสามัญ: Balsam Poplar
ชื่อวิทยาศาสตร์: Populus balsamifera
การกระจายพันธุ์: แคนาดาและสหรัฐอเมริกาตอนเหนือ
ขนาดต้นไม้: สูง 80-100 ฟุต หรือ 25-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1.0-1.5 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 23 lbf/ft3 (370 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.31, 0.37
ความแข็ง : 300 lbf (1,330 N)
การแตกหัก : 6,800 lbf/in2 (46.9 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,100,000 lbf/in2 (7.59 Gpa)
แรงอัดแตก: 4,020 lbf/in2 (27.7 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.0%, Tangential: 7.1%, Volumetric: 10.5%, T/R Ratio: 2.4
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: ไม่มีข้อมูล
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ไม่มีข้อมูล
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล
ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่พบปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Balsam poplar ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม่มีข้อมูล
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )
การใช้งานทั่วไป: ไม่มีข้อมูล
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balsam-poplar/
Bamboo
ชื่อสามัญ: Bamboo
ชื่อวิทยาศาสตร์: มีหลายร้อยชนิดในหลายสิบสกุลจากตระกูล Poaceae (หญ้า) (ไผ่ที่ให้เนื้อไม้หลายชนิดมาจากสกุล Phyllostachys และ Bambusa)
ถิ่นกำเนิด: ไม้ไผ่ที่ให้เนื้อไม้ส่วนใหญ่มาจากเอเชียใต้
ขนาดต้นไม้: ไผ่ที่ใหญ่ที่สุดบางชนิดอาจสูงได้ถึง 50-100 ฟุต (15-30 ม.)
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 นิ้ว (10-20 ซม.)
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 31 lbf/ft3 (500 kg/m3) to 53 lbf /ft3 (850 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ: 0.38 ถึง 0.64, 0.50 ถึง 0.85
ความแข็ง: 1,410 lbf (6,270 N) ถึง 1,610 lbf (7,170 N)
การแตกหัก: 11,020 lbf/in2 (76.0 MPa) ถึง 24,450 lbf/in2 (168.6 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,610,000 lbf/in2 (18.00 GPa) ถึง 2,900,000 lbf/in2 (20.00 Gpa)
แรงอัดแตก: 8,990 lbf/in2 (62.0 Mpa) ถึง 13,490 lbf/in2 (93.0 Mpa)
การหดตัว: Diameter: 10-16%, Wall Thickness: 15-17%
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: โดยทั่วไปจะมีสีสม่ำเสมอและมีสีเหลืองอ่อนจนเกือบขาว ไม้ไผ่สดที่ถูกทิ้งไว้นานเกินไปมักจะเกิดการผุพังจากเชื้อรา ทำให้ไม้เปลี่ยนสีเป็นริ้วๆ สีน้ำตาลหรือดำ
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เนื่องจากเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวในตระกูลหญ้า ไผ่จึงไม่มีกระพี้ แก่นไม้หรือวงปี ผิวสัมผัสเนื้อไม้มีความสม่ำเสมอมากและเนื้อไม้มีตั้งแต่ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงละเอียดมาก ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น ไม้ไผ่ที่ถูกผ่าออกและผ่านกระบวนการเป็นไม้สำหรับงงานก่อสร้าง จะมีเส้นใยที่แตกต่างกันในแต่ต้น
ความทนทาน: ไม้ไผ่ที่ใช้ในสภาพแวดล้อมภายนอกนั้นเน่าเสียง่ายและจะเสื่อมสภาพในเวลาไม่กี่ปี เนื่องจากไผ่มีวงจรชีวิตตามธรรมชาติที่สั้น ซึ่งหลายชนิดเติบโตเต็มที่อย่างรวดเร็วหลังจากผ่านไปเพียงสองหรือสามปี แต่ต่อมาก็สามารถถูกรบกวนโดยเชื้อราได้ง่ายและจะเสียสภาพการใช้งานไม่กี่ปีต่อมา ไผ่ยังอ่อนแอต่อการรุกรานของแมลง เช่น แมลงปีกแข็ง ปลวก และเพรียงทะเล
ความสามารถในการใช้: ตามมาตรฐานงานไม้ ไม้ไผ่มีการใช้งานแตกต่างกันไป และนำมาใช้งานได้ไม่ยากนัก แต่อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ เส้นใยไผ่มักจะแตกและดีดออกเมื่อตัดตามขวาง (แนะนำให้ติดเทปกาวทั่วแนวตัดไว้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันการฉีกขาดในลักษณะนี้) นอกจากนี้ ไม้ไผ่ยังมีซิลิกาสูงมาก ตั้งแต่ 0.5% ถึง 4.0% ซึ่งพบได้เกือบทั้งหมดในชั้นนอกสุดของลำต้น ดังนั้นต้องระมัดระวังในการแปรรูปไม้ แนะนำให้ใช้หัวกัดคาร์ไบด์ และแนะนำให้ขัดผิวแทนการไสความหนาด้วยหัวตัดเหล็ก ทั้งนี้เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนานของคมตัดและคุณภาพของผิวสัมผัสเนื้อไม้ไม้ ไม้ไผ่สามารถติดกาว ย้อมสีง่ายและแห้งไว หากกลึงไม้ไผ่ขนาดใหญ่เกินไปเครื่องมือจะทื่อเร็ว และหัวไม้ฉีกขาดง่ายเป็นเรื่องปกติ แต่การฉีกขาดของไม้ไผ่มักจะตื้นมาก และหัวไม้จะสึกเกือบพอๆ กับหน้าไม้ โดยรวมถือว่าไม้ไผ่นำมาใช้งานได้ง่าย
กลิ่น: ขณะใช้งาน ไม้ไผ่จะมีกลิ่นคล้ายดินและเป็นกลิ่นเฉพาะตัว
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าการแพ้อย่างรุนแรงจะค่อนข้างพบได้ไม่บ่อย แต่ก็มีรายงานว่าไม้ไผ่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ยังไม่ชัดเจนว่าไม้ไผ่เป็นสาเหตุของการระคายเคืองจริง ๆ หรือเป็นเพราะเชื้อราในไม้ ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม้ไผ่มีจำหน่ายอยู่สามรูปแบบ: ไม้กลึงกลวงจากไผ่ยักษ์; ไม้แผนกระดานติดกัน (ใช้ปูพื้น) และแผ่นที่ทำจากตอกไม้ไผ่เล็กๆ จำนวนมาก และแผ่นไม้วีเนียร์ แม้ว่าไม้ไผ่จะเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีมาก และราคาของวัตถุดิบมักจะต่ำ (มักถูกเรียกว่า "ไม้ของคนจน" เพราะราคาของไม้ไผ่ที่ต่ำ) แต่จะมีราคาสูงขึ้นมากสำหรับการใช้เพื่อให้พลังงาน การแปรรูป และสินค้านำเข้าที่มักจะมีต้นทุนสูงกว่าไม้เนื้อแข็งในประเทศ
ความยั่งยืน:ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ กระดาษ พื้น คันเบ็ด บันได นั่งร้าน เครื่องดนตรี (ขลุ่ย/เครื่องลมไม้/ระฆังไม้ไผ่) เฟอร์นิเจอร์ มู่ลี่หน้าต่าง งานแกะสลัก และของแปลกใหม่ชิ้นเล็กๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bamboo/
bass
ชื่อสามัญ: Basswood, lime, linden, American basswood
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tilia americana
การกระจายพันธุ์: อเมริกาเหนือตะวันออก
ขนาดต้นไม้: สูง 65-120 ฟุต หรือ 20-37 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 1.0-1.2 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 26.0 lbf/ft3 (415 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.32, 0.42
ความแข็ง : 410 lbf (1,820 N)
การแตกหัก : 8,700 lbf/in2 (60 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,460,000 lbf/in2 (10.07 Gpa)
ความสามารถในการบด: 4,730 lbf/in2 (32.6 Mpa)
การหดตัว: Radial: 6.6%, Tangential: 9.3%,Volumetric: 15.8%, T/R Ratio: 1.4
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีขาวซีดถึงสีน้ำตาลอ่อน ส่วนกระพี้และแก่นไม้ไม่ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน วงเนื้อไม้มีแนวโน้มที่จะบางและสีส่วนใหญ่จะสม่ำเสมอทั่วทั้งลายไม้บนหน้าไม้ ปมไม้และข้อบกพร่องอื่นๆ เป็นเรื่องปกติ
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและมีความเป็นมันวาว
ความทนทาน: ไม้ Basswood ได้รับการจัดอันดับว่าไม่ทนทานในเรื่องการผุผังของแก่นไม้
ความสามารถในการใช้: ใช้งานง่าย เนื้ออ่อนและเบา อาจเป็นหนึ่งในไม้ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแกะสลักด้วยมือ ไม้ Basswood ยังใช้กับกาวได้ดี แต่มีคุณสมบัติการดัดด้วยไอน้ำและการยึดกับตะปูไม่ดี
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ไม้ Basswood ที่เกี่ยวข้องกับ ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายทั้งแบบไม้แปรรูปหรือไม้แกะสลัก ราคาต่ำสำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ แม้ว่าไม้ที่เป็นบล็อกแกะสลักอาจมีราคาแพงกว่า
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES และรายงานโดย IUCN ว่าเป็นไม้ที่มีความกังวลน้อยที่สุดต่อการสูญพันธุ์
การใช้งานทั่วไป: งานแกะสลัก ไม้แปรรูป เครื่องดนตรี (กีต้าร์ไฟฟ้า) ไม้แผ่นบาง ไม้อัด และผลิตภัณฑ์จากเยื่อไม้/เส้นใย
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/basswood/
Bastogne Walnut
ชื่อสามัญ: Bastogne Walnut, Paradox
ชื่อวิทยาศาสตร์: Juglans x paradox (J. hindsii x J. regia)
การกระจายพันธุ์: แคลิฟอร์เนีย
ขนาดต้นไม้: สูง 50-100 ฟุต หรือ 15-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 46 lbf/ft3 (745 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.60, 0.74
ความแข็ง : 1,250 lbf (5,560 N)
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สีของแก่นไม้อาจแตกต่างกันไปตั้งแต่สีเหลืองทองอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดง บางครั้งอาจมีริ้วลายสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเกือบดำ กระพี้มีสีอ่อนไม่ได้ถูกแยกออกจากแก่นไม้เสมอไป นอกจากนี้ยังเห็นเสี้ยนเนื้อไม้เป็นหยักหรือเป็นคลื่นในบางส่วน
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มักจะเป็นเส้นตรง แต่อาจไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติปานกลาง
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล แต่น่าจะทนทานปานกลางถึงทนทานมาก ซึ่งตรงกับความทนทานของสายพันธุ์พ่อแม่พันธุ์ (J. regia และ J. hindsii)
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปทำงานได้ง่ายหากเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ บางครั้งการฉีกขาดของกบอาจเป็นปัญหาเมื่อขึ้นผิวชิ้นงานที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ไม่สม่ำเสมอหรือมีรูปทรง ใช้งานได้ดีในการย้อมสีและการติดกาว
กลิ่น: ไม้ Bastogne Walnut มีกลิ่นอ่อนๆ
การแพ้/ความเป็นพิษ: สายพันธุ์อื่นในสกุล Juglans (เช่น ไม้ Black Walnut หรือ ไม้ English Walnut) ได้รับรายงานว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้ และ ไม้ Claro Walnut มีแนวโน้มที่จะสร้างอาการแพ้ที่คล้ายคลึงกัน ปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดมักจะรวมถึงการระคายเคืองตาและผิวหนัง ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม้แปรรูปทั่วไปมีราคาแพงกว่าไม้Black Walnut ทั่วไปเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับในกรณีของไม้Walnut ส่วนใหญ่การกำหนดราคาสำหรับไม้Bastogne Walnut ขึ้นรูปนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของสีและรูปร่างของมัน โดยเกรดสูงสุดจะมีราคาแพงมาก เทียบได้กับไม้แปลกใหม่นำเข้า
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )
การใช้งานทั่วไป: ปืนอัดลม ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ งานกลึง เครื่องดนตรี (กีตาร์) ด้ามมีด และสินค้าพิเศษขนาดเล็กอื่นๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bastogne-walnut/
Batai
ชื่อสามัญ: Batai, Moluccan albizia
ชื่อวิทยาศาสตร์: Falcataria moluccana (syn. Albizia falcataria)
การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิก/อินเดียต่างๆ
ขนาดต้นไม้: สูง 100-150 ฟุต หรือ 2-3 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 22 lbf/ft3 (360 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.32, 0.36
ความแข็ง : 430 lbf (1,900 N)
การแตกหัก : 8,370 lbf/in2 (57.7 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,238,000 lbf/in2 (8.53 Gpa)
ความสามารถในการบด: 4,270 lbf/in2 (29.5 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.2%, Tangential: 6.2%, Volumetric: 9.5%, T/R Ratio: 1.9
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: ไม่มีข้อมูล
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ไม่มีข้อมูล
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล
ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล
กลิ่น: ไม่มีข้อมูล
การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Batai ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและจาม ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ไม่มีข้อมูล
ความยั่งยืน: : พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: ไม่มีข้อมูล
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/batai/
Bbois de rose
ชื่อสามัญ: Bois de Rose
ชื่อวิทยาศาสตร์: Dalbergia maritima, Dalbergia louvelii
การกระจายพันธุ์: มาดากัสการ์
ขนาดต้นไม้: สูง 40-65 ฟุต หรือ 12-20 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 58 lbf/ft3 (930 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.74, 0.93
ความแข็ง : 2,600 lbf (11,570 N)
การแตกหัก : ไม่มีข้อมูล
การยืดหยุ่น: ไม่มีข้อมูล
แรงอัดแตก: ไม่มีข้อมูล
การหดตัว: Radial: 4.0%, Tangential: 6.7%, Volumetric: 10.8%, T/R Ratio: 1.7
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: มีลำต้นสีน้ำตาลอมเหลือง มีริ้วลายสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ สีมีแนวโน้มที่จะคล้ำขึ้นตามอายุ นอกจากนี้ลายยังดูโดดเด่นโดยเฉพาะในบริเวณไม้ที่ผ่าแบน ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพบ "ตา" และรูปร่างอื่นๆ ในไม้ Bocote แต่ลวดลายไม่เหมือนกับปมของไม้
สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีม่วงแดงหรือสีม่วงแดงสดใส บางครั้งก็มีริ้วสีม่วงดำเข้มขึ้น สีโดยรวมมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีม่วงเข้มจนเกือบดำ
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดสม่ำเสมอและมีความมันวาวตามธรรมชาติสูงมาก
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล; เนื่องจากเป็นไม้Rosewood มีความหนาแน่นจึงน่าจะทนทานมาก
ความสามารถในการใช้: ไม้Bois de Rose เป็นไม้กลึงที่ยอดเยี่ยม และเงาอย่างเป็นธรรมชาติ
กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะของไม้Rosewood ในขณะที่ทำงาน
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างผิดปกติ แต่ไม้Rosewood ในไม้สกุล Dalbergia (เช่น Bois de Rose) ได้รับรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นความรู้สึก ปฏิกิริยาทั่วไปส่วนใหญ่มักรวมถึงการระคายเคืองตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: การค้าระหว่างประเทศของสายพันธุ์นี้ถูกจำกัด (อย่างถูกต้อง) ในปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติและพื้นที่คุ้มครองอื่น ๆ ในมาดากัสการ์ถูกปล้นเพื่อแลกกับท่อนซุงอันมีค่าของพวกเขา ปัจจุบัน มีเพียงคลังสินค้างานกลึงขนาดเล็กและไม้แกะสลักเท่านั้นที่มีราคาสูงมาก
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) บัญชีแนบท้ายที่ 2 ภายใต้ข้อจำกัดของทั้งสายพันธุ์ Dalbergia ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากไม้ด้วย นอกจากนี้ยังอยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 50% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว
การใช้งานทั่วไป: เครื่องดนตรี, งานฝังไม้, เฟอร์นิเจอร์, แกะสลัก, งานกลึง, และรายการไม้พิเศษอื่นๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bois-de-rose/
beef
ชื่อสามัญ: Beefwood
ชื่อวิทยาศาสตร์: Grevillea striata
การกระจายพันธุ์: ออสเตรเลียตะวันตก
ขนาดต้นไม้: สูง 30-45 ฟุต หรือ 10-14 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 60 lbf/ft3 (965 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.78,0.96
ความแข็ง : 2,420 lbf (10,770 N)
การแตกหัก : 13,630 lbf/in2 (94.0 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,030,000 lbf/in2 (14.00 Gpa)
แรงอัดแตก : 7,830 lbf/in2 (54.0 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.5%, Tangential: 5.8%, Volumetric: 9.3%, T/R Ratio: 1.
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: มีสีน้ำตาลแดงปานกลางถึงน้ำตาลเข้ม เส้นรัศมีของไม้มีสีเทาอมแดงอ่อนคล้ายกับลายของเนื้อดิบ (ตามชื่อของไม้) แสดงให้เห็นรูปร่างที่สุดในชิ้นไม้ที่ตัดผ่าสี่ (เช่น Sycamore ไม้จำพวกพวกมะเดื่อ) Beefwood ยังมีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดและแสดงจุดด่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่ เป็นเพราะมีรัศมีเนื้อไม้ที่กว้างทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แสดงให้เห็นที่หน้าตัดหัวไม้ส่วนบน
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง)และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ
ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล
ความสามารถในการใช้: ค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากไม้มีความหนาแน่นสูงและมีแนวโน้มที่จะฉีกขาดในระหว่างการไส สามารถใช้งานกับกาวและการกลึงได้ดี
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว
การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานผลเสียต่อสุขภาพสำหรับไม้ Beefwood โดยเฉพาะ แต่มีรายงานว่า Southern Silky Oak (Grevillea robusta)ไม้ที่ใกล้เคียงกับไม้ Beefwood ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: มีจำนวนจำกัดภายในออสเตรเลีย ไม้ Beefwood แทบไม่เคยมีจำหน่ายในตลาดอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ราคาเป็นไปได้ที่จะสูง
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: งานฝังไม้ เครื่องไม้ประดับมุก งานกลึง และงานพิเศษขนาดเล็ก
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/beefwood/
Bekak
ชื่อสามัญ: Bekak, amoora, aglaia
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aglaia lawii
การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิก
ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 5-7 ฟุต หรือ 1.5-2.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 47.8 lbf/ft3 (765 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.64 ,0.77
ความแข็ง : 1,600 lbf (7,120 N)
การแตกหัก : 21,020 lbf/in2 (145.0 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,287,000 lbf/in2 (15.77 Gpa)
แรงอัดแตก: ไม่มีข้อมูล
การหดตัว: Radial: 5.0%, Tangential: 8.4%,Volumetric: 13.6%, T/R Ratio: 1.7
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สามารถมีสีได้ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม บ่อยครั้งที่สีเชื่อมโยงกับความหนาแน่น ชิ้นที่หนักกว่ามักจะมีสีเข้มกว่า ลักษณะโดยรวมคล้ายกับไม้มะฮอกกานี
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) พื้นผิวเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่แสดงลวดลายเสี้ยนเนื้อไม้เป็นริบบิ้น ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดสม่ำเสมอ และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติระดับปานกลาง
ความทนทาน: แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ Aglaia และสภาพการเจริญเติบโตของต้นไม้ แต่โดยทั่วไปถือว่าทนทานระดับปานกลางถึงทนทาน
ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยมือและเครื่องมือ กาว งานกลึง และการย้อมสี มีแนวโน้มที่จะบิดงอหรือบิดเบี้ยวในระหว่างการอบแห้งครั้งแรก
กลิ่น: มีกลิ่นที่ดีเทียบได้กับทั้งไม้ Cedar และการบูร Camphor (Cinnamomum camphora)
การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ในสกุล Aglaia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: โดยปกติแล้วจะไม่มีการส่งออก ความพร้อมนำไปใช้งานมักจะจำกัดเฉพาะต้นไม้ที่เก็บเกี่ยวในท้องถิ่นภายในขอบเขตธรรมชาติ ราคาจะอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES และรายงานโดย IUCN ว่าเป็นไม้ที่มีความกังวลน้อยที่สุดต่อการสูญพันธุ์
การใช้งานทั่วไป: การก่อสร้างภายใน, เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ, ไม้วีเนียร์, การต่อเรือ, ปืนกล, ด้ามจับเครื่องมือและงานกลึง
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bekak/
Beli
ชื่อสามัญ : Beli
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Julbernardia pellegriniana
ถิ่นกำเนิด : แอฟริกา (แคเมอรูน, กาบอง)
ขนาดต้นไม้ : สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง : 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 48 lbf/ft3 (770 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.60, 0.77
ความแข็ง : 1,480 lbf (6,580 N)
การแตกหัก : 19,540 lbf/in2 (134.8 Mpa)
การยืดหยุ่น: 2,334,000 lbf/in2 (16.09 Gpa)
แรงอัดแตก: 9,740 lbf/in2 (67.2 Mpa)
การหดตัว: Radial: 4.4%, Tangential: 9.2%, Volumetric: 13.7%, T/R Ratio: 2.1
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อน ปกติแล้วจะมีแถบสีเข้มขึ้นสลับกันตลอด การเลื่อยตัดไม้ผ่าสี่ยังแสดงลักษณะของไม้เหมือนกับไม้Zebrawood กระพี้มีขนาดกว้างเป็นสีเหลืองซีดและแบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้ และไม่มีแถบสีเข้ม
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อเป็นเสี้ยนสนโดยมีผิวสัมผัสเนื้อไม้ที่สม่ำเสมอจนถึงเนื้อหยาบ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติในระดับปานกลาง
ความทนทาน: ไม้ชนิดนี้ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลาง มีความต้านทานปานกลางต่อการเข้าทำลายของแมลง
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการทำงานด้วยมือ เครื่องมือจักร และกาวได้ดีแม้ว่าการฉีกขาดอาจเกิดขึ้นในส่วนที่ลายประสานกัน ไม้Beli ถือว่าค่อนข้างไม่มั่นคงในการเคลื่อนไหวอย่างมาก ไม้จะทำปฏิกิริยากับโลหะเหล็ก ทำให้เกิดคราบและการเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสกับเหล็ก
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ
การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Beli ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา ไม้ Beli ไม่ได้ส่งออกโดยทั่วไป บางครั้งสามารถใช้เป็นไม้วีเนียร์หรือไม้แปรรูปได้ คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: ตู้เก็บของ ไม้วีเนียร์ พื้นไม้ และงานสีภายใน
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/beli/from
Bendee
ชื่อสามัญ: Bendee
ชื่อวิทยาศาสตร์: Acacia catenulata
การกระจายพันธุ์: ออสเตรเลีย (ควีนส์แลนด์)
ขนาดต้นไม้: ไม่มีข้อมูล
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 74.9 lbf/ft3 (1,200 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : ไม่มีข้อมูล
ความแข็ง : ไม่มีข้อมูล
การแตกหัก : ไม่มีข้อมูล
การยืดหยุ่น: ไม่มีข้อมูล
แรงอัดแตก: ไม่มีข้อมูล
การหดตัว: ไม่มีข้อมูล
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ไม้เนื้อแข็งหนักมากที่เติบโตในพื้นที่แห้งแล้งของรัฐควีนส์แลนด์ประเทศออสเตรเลีย สำหรับต้นไม้ขนาดเล็ก มักใช้ไม้บนพื้นฐานที่จำกัดสำหรับงานกลึงหรือของตกแต่งขนาดเล็ก
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bendee/
Bigleaf maple
ชื่อสามัญ: Bigleaf maple, Oregon maple
ชื่อวิทยาศาสตร์: Acer macrophyllum
การกระจายพันธุ์: บริเวณชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและอเมริกาเหนือ
ขนาดต้นไม้: สูง 80-100 ฟุต หรือ 25-30 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34 (lbf/ft3) 545 (kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.44, 0.55
ความแข็ง : 850 (lbf) 3,780 (N)
การแตกหัก : 10,700 lbf/in2 (73.8 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,450,000 lbf/in2 (10.00 Gpa)
แรงอัดแตก: 5,950 lbf/in2 (41.0 Mpa)
การหดตัว: Radial: 3.7%, Tangential: 7.1%, Volumetric: 11.6 %, T/R Ratio: 1.9
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: กระพี้ของไม้ maple ต่างจากไม้เนื้อแข็งอื่น ๆ ส่วนใหญ่มักนิยมใช้มากกว่าแก่นไม้ สีของกระพี้มีตั้งแต่สีขาวเกือบจนถึงสีครีมสีขาวนวล บางครั้งมีถึงสีแดงหรือสีทอง แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลแดงเข้ม ไม้Bigleaf maple ขึ้นชื่อจากลวดลายไม้ ลายผ้านวมหรือลายคลื่น
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:เสี้ยนเนื้อโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง แต่บางครั้งอาจจะเรียงตัวกันคล้ายคลื่นและมีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดสม่ำเสมอ
ความทนทาน: เนื่องจากไม้Maple ใช้กระพี้ของไม้ไม่ใช่แก่นไม้ จึงไม่สามารถทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง
ความสามารถในการใช้: ค่อนข้างง่ายในการใช้งานกับทั้งผู้ทำงานและเครื่องจักร แม้ว่าไม้Mapleมีแนวโน้มที่จะเกิดการลุกไหม้เมื่อใช้เครื่องตัดด้วยความเร็วสูง เช่น ในแผงควบคุม ไม้สามารถใช้ในงานกลึง ติดกาว และย้อมสี แม้ว่ารอยเปื้อน จุด รอยด่างอาจเกิดขึ้นได้เมื่อย้อมสี และอาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาเคลือบบำรุงไม้ เจลย้อมไม้ หรือโทนเนอร์เพื่อให้ได้สีที่สม่ำเสมอ
กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว
การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า Bigleaf maple และ ไม้Maple อื่นๆในสกุล Acer ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง อาการน้ำมูกไหล และมีผลต่อระบบทางเดินหายใจที่คล้ายกับโรคหอบหืด ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ควรมีราคาปานกลาง แม้ว่าจะเป็นชิ้นส่วนไม้แปรรูปที่มีลวดลาย เช่น ลายหยัก/งอ/หยิก หรือลายผ้านวม/คลื่นน้ำ มีแนวโน้มที่จะมีราคาแพงกว่ามาก
ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)
การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์ กระดาษ (เยื่อกระดาษ) กล่อง ลัง/พาเลท เครื่องดนตรี งานกลึง และรายการไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bigleaf-maple/