Brazilwood
ไม้บราซิลวูด (Brazilwood): ชื่อ ที่มา และประวัติศาสตร์
ไม้บราซิลวูด (Brazilwood) เป็นไม้ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจของประเทศบราซิล ไม้นี้ได้รับความนิยมในหลายวัฒนธรรมทั่วโลก เนื่องจากสีที่สวยงามและคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในด้านต่าง ๆ เช่น การทำเครื่องดนตรี การผลิตสี และการใช้งานทางการแพทย์ ในบทความนี้เราจะไปทำความรู้จักกับไม้บราซิลวูดในด้านต่าง ๆ เช่น ชื่อที่ใช้เรียกไม้ชนิดนี้, ที่มา, ขนาดของต้น, ประวัติศาสตร์ และสถานะการอนุรักษ์ของมัน รวมถึงการอนุรักษ์ไม้บราซิลวูดในปัจจุบัน
ชื่ออื่น ๆ ของไม้บราซิลวูด (Brazilwood)
ไม้บราซิลวูด (Brazilwood) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Paubrasilia echinata หรือบางครั้งเรียกว่า Caesalpinia echinata ซึ่งอยู่ในวงศ์ Fabaceae และเป็นไม้ที่มีชื่อเสียงในแง่ของการผลิตสารสีแดงจากเนื้อไม้ชื่อว่า “Brazilin” ซึ่งทำให้มันได้รับความนิยมในการผลิตสีแดงสำหรับการย้อมผ้าและเครื่องหนัง
ในบางประเทศ ไม้นี้มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน เช่น:
- Brazilwood (ในภาษาอังกฤษ)
- Pau-Brasil (ในภาษาโปรตุเกส)
- Cabraíba (ในบางพื้นที่ของบราซิล)
- Pau-de-peroba (ในบางพื้นที่ของบราซิล)
- Redwood (บางครั้งใช้เรียกไม้ชนิดนี้เนื่องจากสีแดงที่ได้จากเนื้อไม้)
ที่มาและแหล่งกำเนิดของไม้บราซิลวูด
ไม้บราซิลวูดมีแหล่งกำเนิดจากประเทศบราซิล ซึ่งได้รับชื่อมาเช่นนั้นจากการที่ไม้ชนิดนี้มีการใช้งานในประเทศบราซิลตั้งแต่สมัยก่อนยุคอาณานิคม โดยมันถูกใช้ในการผลิตสีและการทำเครื่องดนตรี บางครั้งไม้ชนิดนี้ก็ถูกนำไปใช้ในการทำวัตถุที่มีค่าหรือเครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น แท่งสีที่มีค่าในอุตสาหกรรมศิลปะในยุโรป
บราซิลวูดเป็นไม้ที่เติบโตในป่าเขตร้อนและป่าฝนของบราซิล โดยส่วนใหญ่จะพบได้ในพื้นที่ทางตะวันออกของบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงและมีปัญหาในการอนุรักษ์ป่าไม้
ขนาดและลักษณะของต้นไม้บราซิลวูด
ต้นไม้บราซิลวูดมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยมีความสูงของต้นที่สามารถสูงได้ถึง 15 เมตร หรือมากกว่านั้นในบางกรณี เส้นผ่าศูนย์กลางของลำต้นมักจะอยู่ที่ประมาณ 30-50 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและอายุของต้นไม้ เนื้อไม้ของบราซิลวูดมีลักษณะเป็นสีแดงเข้มถึงสีส้ม ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ไม้ชนิดนี้มีค่าในเชิงการใช้งานต่าง ๆ เนื้อไม้มีความหนาแน่นและทนทาน ซึ่งทำให้มันถูกใช้ในการทำเครื่องดนตรีที่ต้องการเสียงที่ดีและมีคุณภาพสูง
ประวัติศาสตร์ของไม้บราซิลวูด
ไม้บราซิลวูดมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและสำคัญตั้งแต่สมัยยุคอาณานิคม เมื่อทหารโปรตุเกสเข้ามาปลุกปั่นอุตสาหกรรมไม้ในบราซิลในศตวรรษที่ 16 โดยมีการใช้ไม้บราซิลวูดในการผลิตสีแดงสำหรับการย้อมผ้าและการผลิตสีสำหรับงานศิลปะในยุโรป เมื่อไม้บราซิลวูดเริ่มเป็นที่ต้องการในยุโรปมากขึ้น อุตสาหกรรมการตัดไม้เพื่อส่งออกจึงเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งส่งผลให้การตัดไม้บราซิลวูดเกินขนาดและมีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในลักษณะที่ไม่ยั่งยืน จึงเกิดการทำลายป่าไม้ในบราซิล เมื่อเวลาผ่านไป ไม้บราซิลวูดเริ่มได้รับความนิยมในวงการดนตรี โดยเฉพาะในเครื่องดนตรีที่ต้องการเสียงคุณภาพสูง เช่น ไม้ที่ใช้ทำคันธนูของเครื่องสาย (Violin) และการผลิตเครื่องดนตรีในตระกูลเครื่องดนตรีสาย
การอนุรักษ์และสถานะของไม้บราซิลวูดในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน สถานะของไม้บราซิลวูดได้รับการยอมรับว่าเป็นไม้ที่มีสถานะเป็นไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) ตามบัญชีรายชื่อขององค์กร CITES (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora) ซึ่งทำให้การค้าขายไม้บราซิลวูดต้องได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวด ตามกฎหมายของ CITES การค้าขายไม้บราซิลวูดในบางกรณีจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งเป็นการช่วยในการอนุรักษ์ไม้ชนิดนี้จากการสูญพันธุ์ การป้องกันการตัดไม้ไม่ให้เกินขนาดและการส่งเสริมการปลูกไม้บราซิลวูดใหม่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อการอนุรักษ์ บราซิลเองก็ได้มีการริเริ่มโครงการปลูกไม้บราซิลวูดเพื่อทดแทนการตัดไม้ในป่าและช่วยลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันการปลูกไม้บราซิลวูดใหม่ในพื้นที่ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นทางเลือกหนึ่งที่มีความยั่งยืน