คุณสมบัติ ประโยชน์ และการใช้งาน
ไม้ก้ามปูคืออะไร?
ไม้ก้ามปู (ชื่อวิทยาศาสตร์: Pithecellobium dulce) เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ มีลักษณะเด่นที่ทรงพุ่มกว้าง ให้ร่มเงาได้ดี และเป็นไม้โตเร็ว นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ ไม้ให้ร่มเงา และไม้ใช้สอย

คุณสมบัติเด่นของไม้ก้ามปู
- เนื้อไม้แข็งแรงและทนทาน – เหมาะสำหรับงานโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์
- มีลวดลายไม้สวยงาม – สีไม้มีตั้งแต่โทนน้ำตาลอ่อนไปจนถึงเข้ม
- ทนต่อสภาพอากาศ – สามารถเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง
- ปลูกง่ายและโตเร็ว – เป็นไม้ที่สามารถเจริญเติบโตได้รวดเร็วและให้ร่มเงาได้ดี
- เป็นไม้ที่มีความหนาแน่นสูง – ทำให้มีความแข็งแรงและสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายด้าน

ประโยชน์ของไม้ก้ามปู
- ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ ตู้ เตียง และเก้าอี้
- ใช้ในงานก่อสร้าง เช่น เสา คาน พื้นไม้ และโครงสร้างอื่นๆ
- ทำสะพานไม้และโครงสร้างภายนอก เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนต่อสภาพอากาศ
- ใช้ทำเครื่องมือการเกษตร เช่น คันไถ และด้ามเครื่องมือ
- ใช้ในงานศิลปะและการแกะสลักไม้ เช่น งานหัตถกรรมและของตกแต่งบ้าน
- ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับและให้ร่มเงา ในสวนสาธารณะ โรงเรียน และสถานที่ราชการ
วิธีดูแลรักษาไม้ก้ามปู
- หลีกเลี่ยงการปล่อยให้ไม้เปียกน้ำเป็นเวลานานเพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา
- ใช้น้ำยาเคลือบไม้เพื่อป้องกันปลวกและแมลงเจาะเนื้อไม้
- ทำความสะอาดไม้ด้วยผ้าแห้งหรือผ้าหมาด และใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับไม้
- หลีกเลี่ยงการวางไม้ในที่ที่มีความชื้นสูงเพื่อป้องกันการบวมและแตกร้าว
- ควรติดตั้งไม้ก้ามปูในบริเวณที่มีการระบายอากาศที่ดี

วิธีเลือกซื้อไม้ก้ามปู
- เลือกไม้ที่มีลวดลายชัดเจนและไม่มีรอยแตกร้าว
- ตรวจสอบว่าไม้ผ่านกระบวนการอบแห้งมาอย่างเหมาะสม
- ซื้อจากร้านค้าที่มีมาตรฐานและมีใบรับรองคุณภาพ
- เปรียบเทียบราคากับคุณภาพของไม้ก่อนตัดสินใจซื้อ