การดูแลรักษา : ไม้เอล์ม
ไม้เอล์ม (Elm) เป็นไม้ที่มีความทนทานและใช้งานได้ดีในหลายๆ ด้าน ทั้งการทำเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้ แต่เพื่อให้ไม้เอล์มคงความสวยงามและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เราจำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ดังนั้นเรามาดูกันว่า การดูแลรักษาไม้เอล์มมีขั้นตอนและคำแนะนำอะไรบ้าง เพื่อให้ไม้ชนิดนี้คงคุณภาพเอาไว้ได้อย่างยาวนาน
การป้องกันไม่ให้ไม้แห้งหรือบิดงอ
ไม้เอล์มเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและทนทาน แต่ก็ยังคงเป็นไม้ที่สามารถหดตัวหรือบิดงอได้หากได้รับการดูแลไม่ดี โดยเฉพาะเมื่อเจอความชื้นที่แปรปรวนหรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไปมากๆ สิ่งที่ควรทำคือการควบคุมอุณหภูมิและความชื้นในห้องหรือพื้นที่ที่ไม้เอล์มตั้งอยู่
- หลีกเลี่ยงการวางไม้ในที่ที่มีความชื้นสูงเกินไป เนื่องจากการสัมผัสกับความชื้นมากๆ อาจทำให้ไม้ดูดซึมน้ำและบิดงอได้
- หากไม้เอล์มตั้งอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้งเกินไป ควรใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศหรือตั้งจานน้ำใกล้ๆ เพื่อช่วยให้ไม้ไม่แห้งจนเกินไป
- การใช้วัสดุกันซึมน้ำ เช่น น้ำมันไม้หรือน้ำยาเคลือบผิวไม้ จะช่วยลดการดูดซึมของน้ำในไม้ได้ดี
การทำความสะอาดไม้เอล์ม
ไม้เอล์มมีลวดลายที่สวยงาม และเนื้อไม้มีความละเอียด การทำความสะอาดไม้เอล์มจึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง
- ทำความสะอาดพื้นผิว โดยใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำที่ชุบน้ำหมาดๆ ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้ไม้เปียกเกินไปและเกิดการดูดซึมน้ำ
- หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง เช่น น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารฟอกขาวหรือแอมโมเนีย เพราะสารเหล่านี้อาจทำให้ผิวไม้เสียหายและสูญเสียความเงางามไป
- แนะนำให้ใช้น้ำมันไม้ เพื่อให้ผิวไม้เอล์มดูเงางามและช่วยปกป้องจากรอยขีดข่วน นอกจากนี้ น้ำมันยังช่วยเพิ่มความทนทานและทำให้ไม้ดูสดใหม่ตลอดเวลา
การป้องกันรอยขีดข่วนและการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
ไม้เอล์มมีความแข็งแรง แต่ยังคงมีความไวต่อรอยขีดข่วนจากการใช้งานทั่วไป ซึ่งอาจทำให้ไม้สูญเสียความสวยงามไป
- ใช้แผ่นรองหรือปูรอง บนพื้นหรือบนโต๊ะไม้เอล์มเพื่อป้องกันการขีดข่วนจากการเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือการตั้งวัตถุต่างๆ ลงบนพื้นผิว
- หลีกเลี่ยงการวางสิ่งของร้อนหรือเย็นโดยตรง บนพื้นผิวไม้เอล์ม เพราะอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อไม้ที่ผิวหน้า หรือเกิดรอยด่าง
- รักษารอยขีดข่วนเล็กน้อย โดยใช้แว็กซ์ไม้หรือการขัดเงาด้วยแป้งขัดไม้ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มรอยขีดข่วนที่ไม่ลึกเกินไป
การเคลือบผิวไม้เอล์ม
การเคลือบผิวไม้เอล์มด้วยสารป้องกันรอยหรือสารเคลือบผิวอื่นๆ จะช่วยให้ไม้ทนทานต่อการเสื่อมสภาพจากสิ่งแวดล้อม
- เคลือบด้วยน้ำมันหรือแลคเกอร์ เพื่อลดการดูดซึมน้ำและป้องกันการเสื่อมสภาพจากแสงแดดหรือฝุ่น
- เคลือบด้วยน้ำยาเคลือบไม้ จะช่วยทำให้ผิวไม้ทนทานต่อการขีดข่วนมากขึ้น และทำให้ไม้คงความเงางามได้ยาวนาน
- ไม่ควรเคลือบไม้ในปริมาณมากเกินไป ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเพื่อไม่ให้ไม้เกิดการเหนียวหรือทึบเกินไปจนไม่สามารถระบายอากาศได้
การป้องกันแมลงและเชื้อราบนไม้เอล์ม
แม้ว่าไม้เอล์มจะมีความทนทานต่อเชื้อราหรือแมลงบางประเภท แต่การรักษาความสะอาดและดูแลให้ไม้ไม่ถูกทำลายจากแมลงก็เป็นเรื่องที่สำคัญ
- ใช้ยาฆ่าแมลง ที่ปลอดภัยสำหรับไม้ เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงกัดกินเนื้อไม้ โดยควรใช้ยาฆ่าแมลงที่เหมาะสมกับประเภทของไม้
- ทำความสะอาดพื้นที่รอบๆ ไม้เอล์ม เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอาหารหรือฝุ่นตกค้างบนไม้ ซึ่งอาจดึงดูดแมลงให้มาอยู่
- การใช้สารกันเชื้อรา จะช่วยป้องกันไม่ให้ไม้เอล์มเกิดเชื้อราหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์จากการสะสมความชื้น
การเก็บรักษาไม้เอล์มในช่วงไม่ใช้งาน
หากไม่ได้ใช้งานไม้เอล์มในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ได้ใช้งานหรือพื้นไม้ที่ไม่ได้สัมผัสการใช้งานบ่อย ควรทำการเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
- เก็บในที่แห้งและเย็น การเก็บไม้ในที่แห้งและเย็นจะช่วยลดโอกาสในการเกิดความชื้นสะสมที่อาจทำให้ไม้เกิดปัญหา
- ห่อหุ้มไม้ด้วยผ้าหรือวัสดุที่ไม่ทำลายเนื้อไม้ เพื่อป้องกันฝุ่นหรือความเสียหายจากการสัมผัสโดยตรง
สรุป
การดูแลรักษาไม้เอล์มไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีความระมัดระวังในการดูแลรักษาไม้ที่มีความทนทานและสวยงามนี้ เพื่อให้มันยังคงความสมบูรณ์ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์และการใช้งาน ในการทำความสะอาดและป้องกันไม่ให้ไม้เสียหาย ควรเลือกวิธีการที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์ โต๊ะไม้เอล์ม หรือ พื้นไม้เอล์ม และรักษาความสวยงามของมันให้คงทนไปนานๆ