Endangered

Lignum vitae(ไม้แก้วเจ้าจอม)

ชื่อสามัญ:  Lignum vitae, palo santo, guayacan, holywood, genuine lignum vitae

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Guaiacum officinale and G. Sanctum

การกระจายพันธุ์:  อเมริกากลางและอเมริกาใต้ตอนเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-10 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  78.5 (lbf/ft3) 1,260 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 1.05, 1.26

ความแข็ง : 4,390 (lbf) 19,510 (N)

การแตกหัก :  17,970 lbf/in2 (123.9 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,481,000  lbf/in2  (17.11 Gpa)

แรงอัดแตก:  12,380  lbf/in2  (85.4 Mpa

การหดตัว:  Radial: 5.3%, Tangential: 8.7%, Volumetric: 14.0 %, T/R Ratio: 1.6

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีเขียวมะกอกจนถึงเขียวเข้มไปหรือสีน้ำตาลจนถึงเกือบสีดำ ในบางครั้งมีสีแดง สีของมีแนวโน้มที่จะเข็มขึ้นตามอายุของไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสง โดยเฉลี่ยแล้ว สีแท้ๆของแก่นไม้ Lignum vitae มักจะมีสีเข้มกว่าสีของ ไม้ Argentine lignum vitae หรือ verawood ในสกุล Bulnesia

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดมากสามารถขัดเงาให้เสี้ยนเนื้อไม้มีความมันวาวได้สูง เนื่องจากปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติของไม้มีมาก พื้นผิวไม้ดิบสามารถสัมผัสแล้วรู้สึกได้ว่ามันเยิ้มไปด้วยน้ำมัน

ความทนทาน: Lignum vitae มีรายงานว่ามีความทนทานสูงสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและยังทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลงเป็นอย่างดี

ความสามารถในการใช้:
ไม้ Lignum vitae มีแนวโน้มที่จะต้องมองข้ามการใช้เครื่องไส รีดไม้ (over-top jointer cutters) ไปเลย เนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้มีความหนาแน่นที่สูงมาก แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นไม้ที่โปร่งแสงมาก สำหรับ ไม้ Lignum vitae โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ยาก และยังมีผลทำให้เครื่องมือคมตัดทื่ออีกด้วย อย่างไรก็ตามไม้ Lignum vitae สามารถกลึงได้ดีบนเครื่องกลึง แต่ด้วย ไม้ Lignum vitae มีปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติของไม้มาก จึงเป็นยากที่จะใช้กาวในการต่อไม้ได้แข็งแรงและมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาได้ในงานตกแต่งเช่นกัน

กลิ่น: ไม้ Lignum vitae มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายน้ำหอม (ถึงแม้กลิ่นของไม้จะไม่ฉุนเท่ากลิ่นไม้ในสกุล Bulnesia ก็ตาม)

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า ไม้ Lignum vitae ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: การค้า Lignum vitae  ถูกจำกัดไว้ใน บัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) และราคาสำหรับไม้ Lignum vitae ของแท้นั้นจะมีราคาที่สูงมากและโดยปกติมีแหล่งที่มาที่น่าสงสัย ชิ้นส่วนที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอและไม้กลึงแบบแท่ง บางครั้งขายเป็น ปอนด์(pound) แทนการวัดสี่เหลี่ยมบาศก์ฟุตกับหนึ่งข้อนิ้ว (Board Foot)

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้อยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) และอยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)  เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้อย่างมากและเกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากไม้และ สารสกัดจาก ยางของไม้(resin) มาเป็นเวลาหลายร้อยปี

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับอุปกรณ์มือจับ หัวค้อนไม้ อะไหล่ไม้ (ลูกปืนไม้และเพลาไม้) และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lignum-vitae/

Laburnum

ชื่อสามัญ:  Laburnum, Golden Chain

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Laburnum anagyroides

การกระจายพันธุ์:  ยุโรปตอนกลางและยุโรปตอนใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 6-12 นิ้ว หรือ 15-30 เซนติเมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  53 (lbf/ft3) 850(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.69,0.85

ความแข็ง : 2,020 (lbf) 8,990 (N)

การแตกหัก :  ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:   ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีแก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมส้มไปจนถึงน้ำตาลม่วงเข้ม และเข้มขึ้นตามอายุ ส่วนกระพี้ถูกแบ่งเขตอย่างชัดเจนมีสีเหลืองซีด  ไม้Laburnum มีสีเข้มทำให้เหมาะสำหรับใช้แทนไม้มะเกลือโดยเฉพาะในแถบธรรมชาติของยุโรป พื้นผิวไม้ผ่าสี่สามารถแสดงลวดลายพิเศษ(ray fleck)  ในบางครั้งใช้หน้าตัดหัวไม้ส่วนบนของไม้ Laburnum ในการทำลวดลายบนแผ่นไม้อัดเป็นรูปก้นหอย (oyster veneer) สำหรับในการใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง)  ผิวสัมผัสเนื้อละเอียดสม่ำเสมอ และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แม้จะสันนิษฐานว่าค่อนข้างมีความทนทาน เนื่องจากใช้เป็นเสารั้ว

ความสามารถในการใช้: ถึงแม้จะมีความหนาแน่นและความแข็งสูง แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม้Laburnum ใช้งานง่าย เป็นไม้กลึงที่ยอดเยี่ยมและยังเป็นที่นิยมสําหรับการนำมาแกะสลักอีกด้วย

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Laburnum มีสารพิษ ไซติซีน หากได้รับในปริมาณมากอาจถึงตายได้ อย่างไรก็ตามหากได้รับในปริมาณน้อยเช่น สูดดมในขณะที่ทำงานไม้อยู่ จะทำให้เกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน และปวดศีรษะ ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เนื่องจากไม้ Laburnum เป็นต้นไม้ที่มีขนาดเล็ก จึงมีแนวโน้มที่จะยังคงมีอยู่โดยเฉพาะในระดับงานอดิเรกเล็กๆ เท่านั้น และ Laburnum มีจำหน่ายเฉพาะในเขตธรรมชาติในยุโรปเท่านั้น

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับวัตถุแปรรูป/กลึง เครื่องดนตรี (เครื่องเป่าลมที่ทำจากไม้) เฟอร์นิเจอร์ ไม้วีเนียร์ เสารั้ว คันธนู แกะสลัก และงานไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/koto/

Koto

ชื่อสามัญ:  Koto

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pterygota macrocarpa

การกระจายพันธุ์:  แอฟริกาตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  37 (lbf/ft3) 595(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.51,0.59

ความแข็ง : 940 (lbf) 4,200 (N)

การแตกหัก :  15,290 lbf/in2 (105.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,752,000 lbf/in2  (12.08 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,590 lbf/in2  (52.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.1%, Tangential: 10.6%, Volumetric: 15.0 %, T/R Ratio: 2.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีเหลืองซีด มีการเปลี่ยนแปลงสีเล็กน้อยจากกระพี้ไปจนถึงแก่นไม้ พื้นผิวไม้ผ่าสี่สามารถแสดงลวดลายพิเศษ(ray fleck) การใช้ไอน้ำหรือการย้อมสีในไม้วีเนียร์จึงเป็นเรื่องที่พบได้น้อย

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงประสานกันเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบระดับปานกลาง

ความทนทาน: มีการจัดอันดับว่าไม้ชนิดนี้ไม่มีความคงทน  และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: มีการใช้งานกับกาวและการย้อมสีได้ดี แม้ว่าจะเกิดการฉีก/ขาด ร่อนออกของเสี้ยนเนื้อไม้เป็นผลมาจากเสี้ยนเนื้อไม้มีการเชื่อมประสานกัน

กลิ่น: มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างมากในไม้สด ซึ่งจะหายไปเมื่อขณะไม้แห้ง

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Koto ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปจำหน่ายในรูปแบบของไม้แผ่นบาง(ไม้วีเนียร์) ราคาอยู่ในช่วงระดับกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์, ไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/koto/

Keruing

ชื่อสามัญ:  Keruing, Apitong

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dipterocarpus spp.

การกระจายพันธุ์:  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 100-200 ฟุต หรือ 30-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  46 (lbf/ft3) 745(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.59 ,0.74

ความแข็ง : 1,390  (lbf) 6,170 (N)

การแตกหัก  : 16,710 lbf/in2 (115.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,293,000  lbf/in2  (15.81  Gpa)

แรงอัดแตก:  8,900 lbf/in2  ( 61.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.5%, Tangential: 10.8%, Volumetric: 16.3 %, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเหลืองปานกลางไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม ลักษณะโดยรวมและการจัดรูปแบบของเสี้ยนเนื้อไม้ค่อนข้างเป็นเนื้อเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) หรือบิดตัวกันเป็นเกลียวเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติระดับปานกลาง

ความทนทาน: แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีรายงานว่าไม้ชนิดนี้มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และความทนทานต่อแมลงอยู่ในระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปไม้ชนิดนี้ง่ายต่อการทํางานกับเครื่องมือ เครื่องจักรแม้ว่า Silica ที่มีอยู่ในเนื้อไม้จะทำให้ใบมีดทื่อ นอกจากนั้นไม้ยังคาย ยาง(resin) ออกมาและสะสมบนเครื่องมือ ส่งผลทำให้การตกแต่งไม้ทำได้ยากอีกด้วย และใช้พื้นที่ในการขยับย้ายค่อนข้างมาก

กลิ่น: Keruing มีกลิ่นยางไม้ชัดเจนขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Keruing ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม่นิยมนำเข้าในอเมริกาเหนือ ไม้ Keruing ใน บางครั้งมีจำหน่ายในรูปแบบไม้ท่อนหรือไม้ปูพื้น และเป็นไม้นำเข้าที่ราคาควรอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ Dipterocarpus  หลายสายพันธุ์องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ
(IUCN Red List ) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์,พื้น ,ไม้ฝาพื้น(รถพ่วง) และไม้เอนกประสงค์


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Kempas

ชื่อสามัญ:  Kempas

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Hymenaea courbaril

การกระจายพันธุ์:  Koompassia malaccensis

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  55 (lbf/ft3) 880(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.72,0.88

ความแข็ง : 1,750 (lbf) 7,800 (N)

การแตกหัก :  17,190 lbf/in2 (118.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,913,000 lbf/in2 (20.09 Gpa)

แรงอัดแตก : 9,760 lbf/in2 (67.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.1%, Tangential: 6.7%, Volumetric: 13.3 %, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: Kempas มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลอมส้ม โดยมีลักษณะโดยรวมคล้ายกับไม้มะฮอกกานี

 

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: Kempas มีผิวสัมผัสของเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ  เสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะบิดตัวกันเป็นเกลียวและในบางครั้งเรียงตัวกันคล้ายคลื่น ไม้ยังสามารถมีริ้วของเนื้อเยื่อเปราะที่อาจเป็นต้นเหตุของข้อเสียต่อเครื่องจักร

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลางถึงทนทาน ต่อการการเน่าเปื่อย ผุพัง แต่ไม้ Kempas ไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของปลวก

ความสามารถในการใช้: Kempas ถือเป็นไม้ที่ใช้งานได้ยากเนื่องจากทั้งความหนาแน่นและแก่นเนื้อไม้ที่เชื่อมต่อกันเป็นเกลียวหนาแน่น นอกจากนี้ส่วนของไม้อาจมีริ้วลายที่เหมือนหิน ในบริเวณที่เปราะบาง ซึ่งอาจส่งผลต่อคมตัดและทำให้การตัดเฉือนทำได้ยาก ไม้ Kempas มีสภาพกรดเล็กน้อย สามารถกัดกร่อนโลหะได้ และไม้สามารถย้อมสีได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  Kempas ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: Kempas ควรมีราคาไม่แพงนักสําหรับไม้เขตร้อนนําเข้า แม้ว่าจะไม่มีขายทั่วไป ยกเว้นแต่เป็นไม้แผ่นสำหรับปูพื้น

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN ) รายงานว่า ขึ้นอยู่กับการอนุรักษ์ การยุติโครงการอนุรักษ์ใด ๆ ในปัจจุบันอาจส่งผลให้มีสถานะบัญชีแดงที่มีความเสี่ยงหรือใกล้สูญพันธุ์

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ปูพื้น โครงสร้างหนัก ทางข้ามทางรถไฟ ไม้อัด และพาเลทไม้


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Jicarillo

ชื่อสามัญ:  Jicarillo

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Eschweilera spp. (มักเขียนผิดเป็น Brosimum guianensis)

การกระจายพันธุ์:  ฮอนดูรัส

ขนาดต้นไม้: ไม่มีข้อมูล

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  63 (lbf/ft3)  1,000(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.77 , 1.00

ความแข็ง : 2,360  (lbf) 10,490 (N)

การแตกหัก  : ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:   ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงน้ำตาลแดงปานกลาง โดยมีเส้นสีดำเข้มปนอยู่โดยทั่วกระพี้ถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจนเป็นสีขาวอมเทา

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ผิวสัมผัสเนื้อไม้มีลักษณะเนื้อสัมผัสละเอียดปานกลางจนถึงเนื้อสัมผัสละเอียด และมีความมันวาว

ความทนทาน: มีความต้านทานต่อการเน่าเปื่อย

ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  JICARILLO ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปมักจะพบเจอในลักษณะแท่งไม้กลึง(small turning blanks) หรือแผ่นไม้กลึง( craft blanks) สำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าชนิดนี้ราคาอยู่ในช่วงกลางถึงระดับสูง

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่หลายสายพันธุ์ของ Eschweilera  ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ เกล็ดมีดเครื่องกลึง และผลิตภัณฑ์ไม้พิเศษอื่นๆขนาดเล็ก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Balau

ชื่อสามัญ: Balau

ชื่อวิทยาศาสตร์: Shorea spp.

การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 150-200 ฟุต หรือ 45-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 ฟุต หรือ 1.0-2.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 53 lbf/ft3 (850 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.69, 0.85

ความแข็ง : 1,600 lbf (7,120 N)

การแตกหัก : 17,730 lbf/in2 (122.3 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,457,000 lbf/in2 (16.95 Gpa)

วามสามารถในการบด:  10,280 lbf/in2 (70.9 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.5%, Tangential: 10.1%, Volumetric: 15.7%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  สีสามารถเปลี่ยนแปลงได้สูงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์: ตั้งแต่สีฟางอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีพอร์ปานกลางถึงใหญ่ ในบางครั้งเสี้ยนเนื้อไม้เป็น   เสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ

ความทนทาน: ไม่ทนทานต่อการผุพังและยังไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปจะทำงานค่อนข้างยากเนื่องจากไม้มีมีความหนาแน่นสูง บางสายพันธุ์อาจมีผลกระทบเล็กน้อยต่อเครื่องเนื่องจากไม้มีความแข็งแรงของผนังเซลล์ในระดับเล็กน้อย แต่ใช้กับกาว และการย้อมสีได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Balau ในสกุล Shorea ได้รับรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองตา คอ และผิวหนัง บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: Balau ได้รับการเก็บเกี่ยวอย่างกว้างขวางและมีจำหน่ายทั่วโลก ราคาปานกลางแม้ว่าจะนำเข้าก็ตาม

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่หลายชนิดในสกุล Shorea ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: ไม้อัด ไม้แผ่นบาง งานทั่วไป งานปูพื้น และงานอเนกประสงค์อื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balau/

Avodire

ชื่อสามัญ: Avodire

ชื่อวิทยาศาสตร์: Turraeanthus africanus
การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันตกและภาคกลางของแอฟริกาใกล้ทะเลสาบและลำธาร

ขนาดต้นไม้: สูง 80-115 ฟุต หรือ 25-35 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 35.9 lbf/ft3 (575 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.48, 0.58

ความแข็ง : 1,170 lbf (5,180 N)

การแตกหัก :  15,400 lbf/in2 (106.2 Mpa)

การยืดหยุ่:  1,614,000 lbf/in2 (11.13 Gpa)                                           

แรงอัดแตก: 7,490 lbf/in2 (51.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.2%, Tangential: 6.6%, Volumetric: 11.3%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  มีสีเหลืองอ่อนหรือครีม เข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีเหลืองทอง แก่นไม้และกระพี้มักจะแยกไม่ออก ไม้ Avodire สามารถแสดงลวดลายได้หลากหลาย เช่น หยัก รอยด่าง และคลื่นเล็กๆ ด้วยความแวววาว ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเคลือบวีเนียร์

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็น เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง คลื่น ไม่สม่ำเสมอ หรือเป็นเสี้ยนสน  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและเป็นมันวาวสูง

ความทนทาน: ไม่ทนทานและยังไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้ว Avodire ถือว่ามีลักษณะการทำงานที่ดีและใช้งานได้ง่ายด้วยมือ เครื่องมือและ กาวได้ดี แม้ว่าเป็นเสี้ยนเนื้อไม้ที่ประสานกันอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ไม้ยังมีเอฟเฟกต์ทื่อเล็กน้อยต่อเครื่องมือตัด

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Avodire ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เลือดกำเดาไหล เลือดออกภายใน และอาการคล้ายโรคหอบหืด บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปแล้ว Avodire จะขายเป็นแผ่นไม้บางในราคาปานกลาง แม้ว่าจะมีไม้กระดานขายอยู่ด้วย ไม้แปรรูป Avodire มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในช่วงราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า แม้ว่าไม้วีเนียร์หรือไม้จริงที่มีลวดลายมากจะมีราคาแพงกว่ามาก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 30% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง, ตู้เก็บของ, เฟอร์นิเจอร์, งานสีและไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/avodire/

White ash

ชื่อสามัญ: White Ash, American White Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fraxinus americana

การกระจายพันธุ์: อเมริกาเหนือตะวันออก

ขนาดต้นไม้: สูง 65-00 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง:  2-5 ฟุต หรือ 0.6-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 42 lbf/ft3 (675 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.55,  0.67

ความแข็ง : 1,320 lbf (5,870 N)

การแตกหัก : 15,000 lbf/in2 (103.5 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,740,000 lbf/in2 (12.00 Gpa)

แรงอัดแตก: 6,980 lbf/in2 (48.1 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.9%, Tangential: 7.8%, Volumetric: 13.3%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างมีแนวสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนและไม่ได้แบ่งเขตจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบคล้ายกับไม้โอ๊ค เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) บางครั้งอาจพบแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นหรือหยัก

ความทนทาน: แก่นไม้จัดอยู่ในประเภทที่เน่าเสียง่าย หรือทนทานต่อการผุพังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น White Ash ยังไม่ทนต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้ White Ash ใช้งานค่อนข้างง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว และเทคนิคการใช้ไอน้ำดี

กลิ่น: มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงานระดับปานกลาง

การแพ้/ความเป็นพิษ: ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ash เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีราคถูกที่สุดในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากคาดว่าจะมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในอีกสามชั่วอายุคนถัดไป ซึ่งเกิดจากผลกระทบการเพิ่มของอนุกรมวิธานพืช

การใช้งานทั่วไป: งานปูพื้น งานไม้ กล่อง/ลัง ไม้เบสบอล และงานกลึง เช่น ด้ามจับเครื่องมือ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/white-ash/

Pumpkin ash

ชื่อสามัญ: Pumpkin Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fraxinus profunda

การกระจายพันธุ์: อเมริกาเหนือตะวันออก

ขนาดต้นไม้: สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3  ฟุต หรือ  0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 36 lbf/ft3 (575 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.48, 0.58

ความแข็ง : 990 lbf (4,400 N)

การแตกหัก : 11,100 lbf/in2 (76.6 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,270,000 lbf/in2 (8.76 Gpa)

แรงอัดแตก:   5,690 lbf/in2 (39.2 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.7%, Tangential: 6.3%, Volumetric: 12.0%, T/R Ratio: 1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างมีสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนและไม่ได้แบ่งเขตจากแก่นไม้อย่างชัดเจน Pumpkin Ash มักจะมีสีเข้มกว่าไม้ White Ash (Fraxinus americana)

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบคล้ายกับไม้โอ๊ค เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) บางครั้งอาจพบแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นหรือหยัก

ความทนทาน: แก่นไม้จัดอยู่ในประเภทที่เน่าเสียง่าย หรือทนทานต่อการผุพังเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่ทนต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้ Pumpkin Ash ใช้งานค่อนข้างง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว และเทคนิคการใช้ไอน้ำดี

กลิ่น:  มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงานระดับปานกลาง

การแพ้/ความเป็นพิษ: ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ash เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีราคถูกที่สุดในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากคาดว่าจะมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในอีกสามชั่วอายุคนถัดไป ซึ่งเกิดจากผลกระทบการเพิ่มของอนุกรมวิธานพืช

การใช้งานทั่วไป: ปูพื้น, กล่อง/ลัง, ไม้เบสบอล และงานกลึง เช่น ด้ามจับเครื่องมือ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/pumpkin-ash/

Green ash

ชื่อสามัญ: Green Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fraxinus pennsylvanica

การกระจายพันธุ์: ตะวันออกและอเมริกากลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 40 lbf/ft3 (640 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.53, 0.64

ความแข็ง : 1,200 lbf (5,340 N)

การแตกหัก : 14,100 lbf/in2 (97.2 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,660,000 lbf/in2 (11.40 Gpa)

วามสามารถในการบด: 7,080 lbf/in2 (48.8 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.6%, Tangential: 7.1%, Volumetric: 12.5%, T/R Ratio: 1.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างและมีสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อน กระพี้ไม่ได้ถูกแบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบคล้ายกับไม้โอ๊ค เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) บางครั้งอาจพบแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นหรือหยัก

ความทนทาน: ไม่ทนทานทั้งต่อการรุกรานของแมลงและการผุผัง

ความสามารถในการใช้: ไม้ Green ash ใช้งานค่อนข้างง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว การยอมสี และเทคนิคการใช้ไอน้ำดี

กลิ่น: มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ash เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีราคถูกที่สุดในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากคาดว่าจะมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในอีกสามชั่วอายุคนถัดไป ซึ่งเกิดจากผลกระทบการเพิ่มของอนุกรมวิธานพืช

การใช้งานทั่วไป: งานปูพื้น ,กล่อง/ลัง ,ไม้เบสบอล และงานกลึง เช่น ด้ามจับเครื่องมือ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/green-ash/

Black ash

ชื่อสามัญ: Black Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fraxinus nigra

การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกาและแคนาดาตะวันออก

ขนาดต้นไม้: สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34 lbf/ft3 (545 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45, 0.55

ความแข็ง : 850 lbf (3,780 N)

การแตกหัก : 12,600 lbf/in2 (86.9 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,600,000 lbf/in2 (11.00 Gpa)

วามสามารถในการบด: 5,970 lbf/in2 (41.2 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.0%, Tangential: 7.8%, Volumetric: 15.2%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างมากมีสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนและไม่ได้แบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้ ไม้ Black Ash มักจะมีสีเข้มกว่าไม้ White Ash (Fraxinus americana) เล็กน้อย

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบคล้ายกับไม้โอ๊ค เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) บางครั้งอาจพบแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นหรือหยัก

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานต่ำทั้งการผุผังและการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้ Black ash ใช้งานค่อนข้างง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว และเทคนิคการใช้ไอน้ำดี

กลิ่น: มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ash เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีราคถูกที่สุดในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากคาดว่าจะมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในอีกสามชั่วอายุคนถัดไป ซึ่งเกิดจากผลกระทบการเพิ่มของอนุกรมวิธานพืช

การใช้งานทั่วไป: งานปูพื้น ,กล่อง/ลัง ,ไม้เบสบอล และงานกลึง เช่น ด้ามจับเครื่องมือ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/black-ash/

ANIGRE

ชื่อสามัญ: Anigre, Anegre, Aniegre, Aningeria (and variant spellings)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Pouteria spp. (เดิมชื่อสกุล Aningeria)

การกระจายพันธุ์: แอฟริกา (พบมากในพื้นที่เขตร้อนของแอฟริกาตะวันออก)

ขนาดต้นไม้: สูง 100-180 ฟุต หรือ 30-55 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 1.0-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34 lbf/ft3 (550 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.44, 0.55

ความแข็ง : 990 lbf (4,380 N)

การแตกหัก : 12,040 lbf/in2 (83.0 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,588,000 lbf/in2 (10.95 Gpa)

วามสามารถในการบด: 6,920 lbf/in2 (47.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.8%, Tangential: 7.0%, Volumetric: 11.8%, T/R Ratio: 1.8

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน บางครั้งก็มีเฉดสีชมพู สีจะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลทองมากขึ้นตามอายุของไม้ กระพี้สีซีด มีลวดลายปรากฏบนไม้ให้เห็นเป็นบางครั้ง เช่น ลายหยักหรือลายจุด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และเป็นมันวาว

ความทนทาน: ไม่ทนทาน ไม่ทนต่อการรุกรานของแมลง กระพี้ของไม้ไวต่อการเกิดคราบเชื้อราสีน้ำเงินในระหว่างการอบแห้งเริ่มแรก

ความสามารถในการใช้: ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ใช้  แต่ในสายพันธุ์ Anigre มีผนังเซลล์ที่มีความแข็งแรงมากจึงมีผลกระทบต่อเครื่องมือ

กลิ่น: ไม้ Anigre มีกลิ่นจาง ๆ คล้ายกับไม้ Cedar (ไม้สน)

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Anigre ไม่มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพ

ราคา/การมีอยู่: Anigre มักถูกตัดและขายเป็นไม้แผ่น ไม้แผ่นบาง มีราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง ไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์ภายใน ใช้สำหรับต่อเรือ งานไม้ทั่วไป และงานโครงสร้างเบาๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/anigre/

WEST AFRICAN

ชื่อสามัญ: West African albizia, albizia, tanga tanga

ชื่อวิทยาศาสตร์: Albizia ferruginea

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาเขตร้อน

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 37.7 lbf/ft3 (605 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.52, 0.6

ความแข็ง : 1,020 lbf (4,530 N)

การแตกหัก : 11,990 lbf/in2 (82.7 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,581,000 lbf/in2 (10.91 Gpa)

วามสามารถในการบด: 7,160 lbf/in2 (49.4 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.7%, Tangential: 4.6%,  Volumetric: 7.4%, T/R Ratio: 1.7

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลทอง กระพี้มีสีเหลืองซีด สีจะคล้ำขึ้นตามอายุของไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ และเป็นมันวาว

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานปานกลาง ทนทานต่อแมลงได้ไม่ดี

ความสามารถในการใช้: ใช้งานง่ายระดับปานกลาง เนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) ทำให้เกิดการฉีกขาดระหว่างการนำออกของพื้นผิวของไม้

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงผลกระทบอื่นๆ เช่น คลื่นไส้ ตาแดง อาการวิงเวียนศีรษะ และเลือดกำเดา

ราคา/การมีอยู่: ราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์ ,ไม้แผ่นบาง และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/west-african-albizia/

AFZELIA XYLAY

ชื่อสามัญ: Afzelia xylay, afzelia, xylay lace

ชื่อวิทยาศาสตร์: Afzelia xylocarpa (and A. rhomboidea)

การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-4 ฟุต หรือ 0.6 -1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 51.5 lbf/ft3 (825 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.70, 0.83

ความแข็ง : 1,980 lbf (8,820 N)

การแตกหัก : 17,210 lbf/in2 (118.7 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,939,000 lbf/in2 (13.37 Gpa)

ความสามารถในการบด: 9,960 lbf/in2 (68.7 Mpa)

การหดตัว: ไม่มีข้อมูล

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: : แก่นของไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลืองอ่อน และสีจะคล้ำขึ้นตามอายุของไม้ ลาย pommele หรือลวดลายคล้ายก้อนเมฆบางครั้งส่งออกและขายภายใต้ชื่อ Afzelia xylay  ซึ่งเป็นชื่อทางพฤกษศาสตร์ที่ย่อมาจากสายพันธุ์เอเชีย Afzelia xylocarpa

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ปานกลางถึงหยาบ และเป็นมันวาว

ความทนทาน: มีความทนทานมาก ทนทานต่อปลวกและเพรียงทะเลในระดับปานกลางยกเว้นแมลงชนิดอื่นๆ

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปถือว่าค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) ทำให้เกิดการฉีกขาดระหว่างการตัดเฉือน และเนื้อไม้ก็ส่งผลให้ใบมีดทื่ออย่างชัดเจน

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: Afzelia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ รวมถึงการจาม

ราคา/การมีอยู่: ในเชิงพาณิชย์สายพันธุ์ Afzelia ส่วนใหญ่มาจากแอฟริกา มีราคาที่สูงสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าชนิดนี้

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่มีสายพันธุ์สกุล (Afzelia xylocarpa , A. rhomboidea)ในเอเชียอยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) คือสายพันธุ์ Afzelia xylocarpa เนื่องจากมีการลดจำนวนประชากรลงกว่า 50% ในช่วงสามชั่วอายุคนที่ผ่านมาซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป:  เฟอร์นิเจอร์, ตู้ ,ไม้แผ่นบาง, พื้น, ท่าเทียบเรือ, การต่อเรือ งานตกแต่งภายนอกและการก่อสร้าง การกลึง การสร้างชิ้นวัสดุ และผลิตภัณฑ์ไม้ขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/afzelia-xylay/

AFZELIA

ชื่อสามัญ:  Afzelia, doussie

ชื่อวิทยาศาสตร์: Afzelia spp.

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาเขตร้อน (สายพันธุ์อื่นๆ พบในเอเชีย)

ขนาดต้นไม้: สูง 80-120 ฟุต หรือ 25-37 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 50.1 lbf/ft3 (805) kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.67,0 .80

ความแข็ง : 1,810 lbf (8,050 N)

การแตกหัก : 17,740 lbf/in2 (122.3 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,094,000 lbf/in2 (14.44 Gpa)

วามสามารถในการบด: 10,750 lbf/in2 (74.1 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.3%, Tangential: 3.9%, Volumetric: 6.3%, T/R Ratio: 1.7

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: : แก่นของไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลืองอ่อน และสีจะคล้ำขึ้นตามอายุของไม้ Afzelia สายพันธุ์ในเอเชีย ที่เป็นลาย pommele หรือลวดลายคล้ายก้อนเมฆจะมีชื่อว่า Afzelia xylay

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ปานกลางถึงหยาบ และเป็นมันวาว

ความทนทาน: มีความทนทานมาก ทนทานต่อปลวกและเพรียงทะเลในระดับปานกลางยกเว้นแมลงชนิดอื่นๆ

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปถือว่าค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) ทำให้เกิดการฉีกขาดระหว่างการตัดเฉือน และเนื้อไม้ก็ส่งผลให้ใบมีดทื่ออย่างชัดเจน การย้อมสีหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบกับไม้ชนิดนี้อาจเป็นปัญหา เนื่องจากในไม้บางสายพันธุ์มีน้ำสีเหลืองในรูพรุนของไม้

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: Afzelia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ รวมถึงการจาม

ราคา/การมีอยู่: ราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่สายพันธุ์ Afzelia africana, A. Bipindensis และ A. Pachyloba ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ส่วนสายพันธุ์ A. Bella และ A. Parviflora เป็นสายพันธุ์ที่มีเสี่ยงน้อยที่สุดต่อการสูญพันธุ์

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์, ตู้ ,ไม้แผ่นบาง, พื้น, ท่าเทียบเรือ, การต่อเรือ งานตกแต่งภายนอกและการก่อสร้าง การกลึง การสร้างชิ้นวัสดุบูรณะ และผลิตภัณฑ์ไม้ขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/afzelia-doussie/

AFRORMOSIA

ชื่อสามัญ: Afrormosia, afromosia, African teak

ชื่อวิทยาศาสตร์: Pericopsis elata

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 100-150 ฟุต หรือ 30-46 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 45.3 lbf/ft3 (725 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.57, 0.72

ความแข็ง : 1,570 lbf (6,980 N)

การแตกหัก : 14,920 lbf/in2 (100.9 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,715,000 lbf/in2 (11.83 Gpa)

วามสามารถในการบด: 9,570 lbf/in2 (66 Mpa)

การหดตัว: 3.2%, Tangential: 6.2%,Volumetric: 9.9%, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: เป็นไม้เนื้อแข็งมีสีน้ำตาลอมเหลือง บางครั้งมีสีแดงหรือสีเขียวมะกอก และสีจะคล้ำขึ้นตามอายุของไม้ กระพี้แคบมีสีเหลืองซีดมีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากแก่นไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด และเป็นมันวาว

ความทนทาน: ไม้ Afrormosia มีความทนทานมาก สามารถทนต่อแมลงหรือเพรียงทะเลได้ดี

ความสามารถในการใช้: ไม้ Afrormosia ใช้งานง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว และการย้อมสี  ไม้ชนิดนี้มีผลต่อความทื่อของคมตัดเพียงเล็กน้อย สามารถเกิดคราบดำในไม้หากปล่อยทิ้งไว้ให้สัมผัสกับเหล็กในสภาพที่ชื้น

กลิ่น: มีกลิ่นที่ชัดเจน

การแพ้/ความเป็นพิษ: Afrormosia ส่งผลให้เกิดการแพ้ที่ค่อนข้างรุนแรง ได้แก่ คลื่นไส้ ระคายเคืองตา ผิว อาการวิงเวียนศีรษะ  ผิวหนัง ทางเดินหายใจ รวมถึงส่งผลกระทบของระบบประสาท

ราคา/การมีอยู่:  การค้าของสายพันธุ์นี้ในปัจจุบันมีการควบคุมและควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ยังคงมีอยู่เนื่องจาก Afrormosia เป็นไม้ที่มีขนาดที่ดี ราคาปานกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES II) และมีรายชื่ออยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 50% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: การต่อเรือ,ไม้อัด ,ปูพื้นและเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/afzelia-doussie/

Abura

ชื่อสามัญ: Abura, bahia

ชื่อวิทยาศาสตร์: Mitragyna ledermannii

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง

ความสูงลำต้น: 100-115 ฟุต หรือ 30-35 เมตร     

เส้นผ่านศูนย์กลาง 5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34.8 (lbf/ft3) หรือ 560 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45, 0.56

ความแข็ง : 820 (lbf) หรือ  3,670 (N)

การแตกหัก : 11,760 (lbf/in2 ) (81.1 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,386,000 (lbf/in2 ) (9.56 Gpa)

วามสามารถในการบด: 6,220 lbf/in2  ( 242.9 (Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.3%, Tangential: 9.2%, Volumetric: 13.3%, T/R Ratio: 2.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: ไม้ Abura มีสีเหลืองถึงน้ำตาลอมชมพู โดยสีของกระพี้และแก่นของไม้ชนิดนี้แยกกันอย่างไม่ชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานต่ำต่อการการผุพังหรือการรุกรานของแมลง  แต่สามารถทนต่อกรดได้ดี

ความสามารถในการใช้: สามารถใช้กับกาวได้ดี และมีผลต่อคมตัดและเครื่องมือในการตัดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากผนังเซลล์ของไม้มีความแข็งแรงระดับปานกลางประมาณ 25 % ของไม้ทั้งหมด

กลิ่น: เมื่อตัดใหม่ๆจะมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ของไม้

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Abura ได้แก่ คลื่นไส้ ระคายเคืองตา อาการวิงเวียนศีรษะ

ราคา/การมีอยู่: หาได้ยากในอเมริกาเหนือ ราคาของไม้Abura อยู่ในระดับปานกลางเมื่อเปรียบเทียบกับไม้นำเข้าอื่นๆ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้เอนกประสงค์ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งภายใน ไม้อัด และพื้น


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/