Durable

Bocote

ชื่อสามัญ:   Bocote

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cordia spp.

การกระจายพันธุ์:  เม็กซิโกและอเมริกากลาง/อเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 ฟุต 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  53 lbf/ft3 (855 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.68,0.85

ความแข็ง : 2,010 lbf (8,950 N)

การแตกหัก :  16,590 lbf/in2 (114.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,767,000 lbf/in2 (12.19 Gpa)

แรงอัดแตก:   8,610 lbf/in2 (59.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.0%, Tangential: 7.4%, Volumetric: 11.6%, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: มีลำต้นสีน้ำตาลอมเหลือง มีริ้วลายสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำ สีมีแนวโน้มที่จะคล้ำขึ้นตามอายุ นอกจากนี้ลายยังดูโดดเด่นโดยเฉพาะในบริเวณไม้ที่ผ่าแบน ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพบ "ตา" และรูปร่างอื่นๆ ในไม้ Bocote แต่ลวดลายไม่เหมือนกับปมของไม้


เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มีแนวโน้มที่จะเชื่อมต่อประสานกันกัน แม้ว่าชิ้นส่วนบางชิ้นมีเสี้ยนเนื้อไม้เรียบและตรงก็ตาม พื้นผิวที่ส่วนใหญ่มักจะถูกนำมาใช้ในงานของตกแต่งมากที่สุด มีผิวสัมผัสเนื้อไม้สม่ำเสมอปานกลาง และให้ความรู้สึกมัน/เงาเป็นธรรมชาติ และมีความมันวาวตามธรรมชาติ 


ความทนทาน:
แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับความทนทานปานกลางถึงทนทานมากขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: บางชนิดอาจมีซิลิกา(ความแข็งแรงของผลังเซลล์) ที่จะทำให้ใบมีดทื่อ โดยรวมแล้วไม้ Bocote ทำงานได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดี แม้ว่าไม้ Bocote จะมีน้ำมันจากธรรมชาติค่อนข้างสูง แต่การใช้งานกับกาวก็มักจะไม่มีปัญหา (ดูข้อมูลเพิ่มเติมในการติดกาวไม้เนื้อแข็งเมืองร้อนที่มีน้ำมัน) ไม้ Bocote ยังใช้กับงานกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม้ Bocote มีกลิ่นปานกลางเมื่อทำงาน คล้ายกับผักดองผักชีฝรั่ง

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้Bocote แสดงให้เห็นว่าเป็นสาเหตุให้เกิดปฏิกิริยาข้าม(Cross-reactivity)เป็นปฏิกิริยาระหว่างแอนติเจนกับแอนติบอดีซึ่งจะทำให้เกิดการต่อต้านแอนติเจนที่คล้ายกันแต่คนละชนิดกัน เมื่อเกิดอาการแพ้ต่อไม้บางชนิดแล้ว ไม้ที่ทำให้เกิดอาการเริ่มต้นได้แก่ไม้ pau ferro , macassar ebony , cocobolo และ rosewoods ส่วนใหญ่ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีแนวโน้มที่จะค่อนข้างแพง ใกล้กับไม้เนื้อแข็งที่แปลกใหม่ราคากลางถึงสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ, พื้นไม้, ไม้วีเนียร์, การต่อเรือ, เครื่องดนตรี, ปืนกล, งานกลึง และรายการไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bocote/

Macacauba

ชื่อสามัญ:  Macacauba, Macawood, Hormigo, Orange Agate

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Platymiscium spp.
(P. dimorphandrum, P. pinnatum, P. trinitatis, P. ulei)

การกระจายพันธุ์:   อเมริกากลางและอเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 65-80 ฟุต หรือ 20-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  59 (lbf/ft3) 950 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.81, 0.95

ความแข็ง : 2,700 (lbf) 12,030 (N)

การแตกหัก :  21,540 lbf/in2 (148.6 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,837,000 lbf/in2  (19.56 Gpa)      

แรงอัดแตก:  11,700 lbf/in2  (80.7Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.8%, Tangential: 4.2%, Volumetric: 7.2 %, T/R Ratio: 1.5

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีของแก่นสามารถเปลี่ยนแปลงได้สูง ตั้งแต่สีแดงสดไปจนถึงสีแดงเข้มหรือน้ำตาลอมม่วง ซึ่งมักมีริ้วลายมีสีเข้มกว่าสีของแก่นเมื่อไม้ถูกเรียกว่า "Hormigo" จะใช้คำต่อท้ายต่าง ๆ เพื่ออธิบายสีของแก่นไม้ : "Hormigo Negro" สำหรับชิ้นส่วนที่มืดกว่า หรือ "Hormigo Rojo" สำหรับชิ้นส่วนสีแดงอมส้ม กระพี้มีสีเหลืองถึงขาว

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงไปจนถึงประสานกัน ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติสูง

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่ามีความคงทนและทนทานมากต่อการผุพัง และยังสามารถต้านทานการเข้าทำลายของแมลงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วเป็นไม้ที่มีมีลักษณะการทำงานที่ดีสำหรับทั้งผู้ทำงานและเครื่องจักร แม้ว่าเสี้ยนเนื้อไม้จะมีลักษณะประสานเชื่อมต่อกันกัน ควรจะระมัดระวังในการทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของเสี้ยนเนื้อไม้ สามารถขัดเงาไม้ได้เหมือนธรรมชาติมาก และใช้งานกับกาวและ งานกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Macacauba ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: นำเข้าทั่วไปภายใต้ชื่อสามัญต่างๆ และในหลากหลายรูปแบบ (ไม้แปรรูปเป็นท่อนๆ  ไม้แท่ง กลึง ไม้ปูพื้น ฯลฯ) คาดว่าราคาจะอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าจากต่างประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) แม้ว่า Platymiscium pleiostachyum สายพันธุ์เดียวของ Costa Rican  ถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์ สายพันธุ์นี้คาดว่าจะมีไม้ที่โตเต็มที่น้อยกว่า 2,500 ต้นที่ยังมีอยู่รอด เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสองชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์, ตู้/ตู้เสื้อผ้า, ไม้วีเนียร์, เครื่องดนตรี, การกลึง, และวัตถุไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from  https://www.wood-database.com/macacauba/

Beli

ชื่อสามัญ : Beli

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Julbernardia pellegriniana

ถิ่นกำเนิด : แอฟริกา (แคเมอรูน, กาบอง)

ขนาดต้นไม้ : สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 48 lbf/ft3 (770 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.60, 0.77

ความแข็ง : 1,480 lbf (6,580 N)

การแตกหัก : 19,540 lbf/in2 (134.8 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,334,000 lbf/in2 (16.09 Gpa)

แรงอัดแตก: 9,740 lbf/in2 (67.2 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.4%, Tangential: 9.2%, Volumetric: 13.7%, T/R Ratio: 2.1

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อน ปกติแล้วจะมีแถบสีเข้มขึ้นสลับกันตลอด การเลื่อยตัดไม้ผ่าสี่ยังแสดงลักษณะของไม้เหมือนกับไม้Zebrawood กระพี้มีขนาดกว้างเป็นสีเหลืองซีดและแบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้ และไม่มีแถบสีเข้ม

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อเป็นเสี้ยนสนโดยมีผิวสัมผัสเนื้อไม้ที่สม่ำเสมอจนถึงเนื้อหยาบ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติในระดับปานกลาง

ความทนทาน: ไม้ชนิดนี้ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลาง มีความต้านทานปานกลางต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการทำงานด้วยมือ เครื่องมือจักร และกาวได้ดีแม้ว่าการฉีกขาดอาจเกิดขึ้นในส่วนที่ลายประสานกัน ไม้Beli ถือว่าค่อนข้างไม่มั่นคงในการเคลื่อนไหวอย่างมาก ไม้จะทำปฏิกิริยากับโลหะเหล็ก ทำให้เกิดคราบและการเปลี่ยนสีเมื่อสัมผัสกับเหล็ก

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Beli ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา ไม้ Beli ไม่ได้ส่งออกโดยทั่วไป บางครั้งสามารถใช้เป็นไม้วีเนียร์หรือไม้แปรรูปได้ คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ตู้เก็บของ ไม้วีเนียร์ พื้นไม้ และงานสีภายใน


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/beli/from

Louro preto

ชื่อสามัญ:  Louro Preto, Laurel Negro

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cordia spp. (C. megalantha, C. glabrata)

การกระจายพันธุ์:  เขตร้อนของทวีปอเมริกา ทางใต้ของอเมริกาถึงบราซิล

ขนาดต้นไม้: สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  52.7 (lbf/ft3) 845(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.74,0.84

ความแข็ง : 2,200 (lbf) 9,790 (N)

การแตกหัก :  17,610 lbf/in2 (121.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,580,000  lbf/in2 (10.90 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,270lbf/in2  (63.9Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.0%, Tangential: 7.4%, Volumetric: 11.6 %, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลปานกลางแต้มสีแดง (หรือบางครั้งก็เป็นสีเขียวมะกอก) แบ่งแยกกันอย่างชัดเจนจากสีซีดของกระพี้  แก่นไม้ มีริ้ว ลาย สีน้ำตาลเข้มขึ้นทั่วไปและจะมีสีเข้มขึ้นตามอายุของไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:
เสี้ยนเนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลางและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ Louro Preto มีความทนทานสูง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้ว Louro Preto ทำงานได้อย่างง่ายดายและให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ในบางสายพันธุ์อาจมีซิลิกา(ความแข็งแรงผนังเซลล์ของไม้)ที่จะส่งผลกระทบทำให้ใบมีด คมตัดทื่อได้ แม้ว่าไม้จะมีปริมาณน้ำมันธรรมชาติอยู่มากพอสมควร แต่ไม่มีปัญหาเมื่อใช้งานร่วมกับกาว (ดูข้อมูลเพิ่มเติม gluing oily tropical hardwoods สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม)และใช้ไม้ในงานกลึงได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นหอมที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของไม้

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Louro Preto ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก อย่างไรก็ตามไม้ Louro Preto มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับไม้ Bocoteมาก ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ข้ามกลุ่มเมื่อเกิดภาวะแพ้ต่อไม้บางชนิดไม้ที่อาจทำให้เกิดอาการเบื้องต้น ได้แก่ Pau Ferro, Macassar Ebony, Cocobolo, และ most Rosewoods ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าสายพันธุ์นี้มีแนวโน้มที่จะสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ไม้วีเนียร์ และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/louro-preto/

Honey locust

ชื่อสามัญ:  Honey Locust

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Gleditsia triacanthos

การกระจายพันธุ์:  ตอนใต้ ตอนกลางและตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

ขนาดต้นไม้: สูง 65-80 ฟุต หรือ 20-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6 -1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  47 (lbf/ft3) 755 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.60, 0.75

ความแข็ง : 1,580 (lbf) 7,030 (N)

การแตกหัก :  14,700 lbf/in2 (101.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,630,000 lbf/in2  (11.24 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,500 lbf/in2  (51.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.2%, Tangential: 6.6%, Volumetric: 10.8 %, T/R Ratio: 1.6

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลแดงปานกลางจนถึงอ่อน กระพี้มีขนาดกว้างและมีสีเหลืองอ่อน แตกต่างจากแก่นไม้อย่างชัดเจน มีลักษณะคล้ายกับ ไม้Kentucky Coffeetree มาก

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติในระดับปานกลาง

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลางจนถึงทนทาน และไวต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้ Honey Locust อาจจะเป็นไม้ที่ใช้งานได้ยากทั้งด้วยผู้ทำงานและเครื่องจักร เนื่องจากความหนาแน่นที่มีมากของไม้ แม้จะสามารถใช้ได้ผลดีกับกาว การย้อมสีและการกลึง ก็ตาม

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Honey Locust ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Honey Locust บางชนิดหาได้ไม่แพร่หลายหรือทั่วไป บางครั้งมีปริมาณจำกัดอยู่ในช่วงตามธรรมชาติราคาน่าจะอยู่ในช่วงกลางถึงบนสำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้เฟอร์นิเจอร์ เสารั้ว ไม้เอนกประสงค์ และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/honey-locust/

Black locust

ชื่อสามัญ:  Black locust, robinia, false acacia

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Robinia pseudoacacia

การกระจายพันธุ์:  ภาคกลางถึงภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา (ยังแปลงสัญชาติอย่างกว้างขวางในพื้นที่เขตอบอุ่นหลายแห่งทั่วโลก)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  48 (lbf/ft3) 770 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.66, 0.77

ความแข็ง : 1,700 (lbf)  7,560  (N)

การแตกหัก  : 19,400  lbf/in2 (133.8 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,050,000  lbf/in2  (14.141  Gpa)

แรงอัดแตก:  10,200 lbf/in2  (70.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.6%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 10.2 %, T/R Ratio: 1.6

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ลักษณะ: สีมีตั้งแต่สีเขียวแกมเหลืองซีดไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม และมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลปนแดงตามอายุของไม้ ในบางกรณีอาจสับสนกับไม้osage orange และไม้honey locust

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:เสี้ยนเนื้อไม้มักจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าความทนทานมาก มีคุณสมบัติพิเศษทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี มักใช้เป็นเสารั้วเพื่อเป็นการยืดอายุในการใช้งานกลางแจ้ง

ความสามารถในการใช้: ลักษณะการใช้งานโดยรวมของ ไม้ Black locust แม้ว่าเสี้ยนเนื้อไม้มักจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง แต่ความหนาแน่นและความแข็งสูงส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือ คมตัด ให้ทื่อได้ในระดับปานกลาง แต่สามารถใช้ได้ดีกับกาว การกลึง/เครื่องกลึง และตอบสนองได้ดีต่อการดัดด้วยไอน้ำ

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Black locust ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนัง รวมทั้งมีอาการคลื่นไส้(พบได้น้อย) ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:
ราคาของไม้ Black locust ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางภายในช่วงตามธรรมชาติผู้ที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกามักจะคาดหวังว่าราคาจะพอเทียบได้กับ white oak ในพื้นที่อื่นที่มีการนำเข้าไม้แปรรูป ราคาอาจจะสูงขึ้นมาก

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) นอกจากนี้สายพันธุ์นี้แพร่หลายอย่างมาก

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเสารั้ว, อุปกรณ์ต่อเรือ, พื้น, เฟอร์นิเจอร์, โครงสร้างเหมือง, รางรถไฟ, ไม้กลึง และไม้วีเนียร์


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/black-locust/

Lignum vitae(ไม้แก้วเจ้าจอม)

ชื่อสามัญ:  Lignum vitae, palo santo, guayacan, holywood, genuine lignum vitae

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Guaiacum officinale and G. Sanctum

การกระจายพันธุ์:  อเมริกากลางและอเมริกาใต้ตอนเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-10 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  78.5 (lbf/ft3) 1,260 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 1.05, 1.26

ความแข็ง : 4,390 (lbf) 19,510 (N)

การแตกหัก :  17,970 lbf/in2 (123.9 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,481,000  lbf/in2  (17.11 Gpa)

แรงอัดแตก:  12,380  lbf/in2  (85.4 Mpa

การหดตัว:  Radial: 5.3%, Tangential: 8.7%, Volumetric: 14.0 %, T/R Ratio: 1.6

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีเขียวมะกอกจนถึงเขียวเข้มไปหรือสีน้ำตาลจนถึงเกือบสีดำ ในบางครั้งมีสีแดง สีของมีแนวโน้มที่จะเข็มขึ้นตามอายุของไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสง โดยเฉลี่ยแล้ว สีแท้ๆของแก่นไม้ Lignum vitae มักจะมีสีเข้มกว่าสีของ ไม้ Argentine lignum vitae หรือ verawood ในสกุล Bulnesia

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดมากสามารถขัดเงาให้เสี้ยนเนื้อไม้มีความมันวาวได้สูง เนื่องจากปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติของไม้มีมาก พื้นผิวไม้ดิบสามารถสัมผัสแล้วรู้สึกได้ว่ามันเยิ้มไปด้วยน้ำมัน

ความทนทาน: Lignum vitae มีรายงานว่ามีความทนทานสูงสำหรับการใช้งานกลางแจ้งและยังทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลงเป็นอย่างดี

ความสามารถในการใช้:
ไม้ Lignum vitae มีแนวโน้มที่จะต้องมองข้ามการใช้เครื่องไส รีดไม้ (over-top jointer cutters) ไปเลย เนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้มีความหนาแน่นที่สูงมาก แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นไม้ที่โปร่งแสงมาก สำหรับ ไม้ Lignum vitae โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างใช้งานได้ยาก และยังมีผลทำให้เครื่องมือคมตัดทื่ออีกด้วย อย่างไรก็ตามไม้ Lignum vitae สามารถกลึงได้ดีบนเครื่องกลึง แต่ด้วย ไม้ Lignum vitae มีปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติของไม้มาก จึงเป็นยากที่จะใช้กาวในการต่อไม้ได้แข็งแรงและมั่นคง ส่งผลให้เกิดปัญหาได้ในงานตกแต่งเช่นกัน

กลิ่น: ไม้ Lignum vitae มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายน้ำหอม (ถึงแม้กลิ่นของไม้จะไม่ฉุนเท่ากลิ่นไม้ในสกุล Bulnesia ก็ตาม)

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า ไม้ Lignum vitae ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: การค้า Lignum vitae  ถูกจำกัดไว้ใน บัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) และราคาสำหรับไม้ Lignum vitae ของแท้นั้นจะมีราคาที่สูงมากและโดยปกติมีแหล่งที่มาที่น่าสงสัย ชิ้นส่วนที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอและไม้กลึงแบบแท่ง บางครั้งขายเป็น ปอนด์(pound) แทนการวัดสี่เหลี่ยมบาศก์ฟุตกับหนึ่งข้อนิ้ว (Board Foot)

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้อยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) และอยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)  เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้อย่างมากและเกิดการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากไม้และ สารสกัดจาก ยางของไม้(resin) มาเป็นเวลาหลายร้อยปี

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับอุปกรณ์มือจับ หัวค้อนไม้ อะไหล่ไม้ (ลูกปืนไม้และเพลาไม้) และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lignum-vitae/

Bekak

ชื่อสามัญ:  Bekak, amoora, aglaia

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Aglaia lawii

การกระจายพันธุ์:  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และหมู่เกาะแปซิฟิก                                                          

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 5-7 ฟุต หรือ 1.5-2.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  47.8 lbf/ft3 (765  kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.64 ,0.77

ความแข็ง : 1,600 lbf (7,120 N)

การแตกหัก  : 21,020 lbf/in2 (145.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,287,000 lbf/in2 (15.77 Gpa)

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  Radial: 5.0%, Tangential: 8.4%,Volumetric: 13.6%, T/R Ratio: 1.7

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สามารถมีสีได้ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม บ่อยครั้งที่สีเชื่อมโยงกับความหนาแน่น ชิ้นที่หนักกว่ามักจะมีสีเข้มกว่า ลักษณะโดยรวมคล้ายกับไม้มะฮอกกานี

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:
เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) พื้นผิวเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่แสดงลวดลายเสี้ยนเนื้อไม้เป็นริบบิ้น  ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดสม่ำเสมอ และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติระดับปานกลาง

ความทนทาน: แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ Aglaia และสภาพการเจริญเติบโตของต้นไม้ แต่โดยทั่วไปถือว่าทนทานระดับปานกลางถึงทนทาน

ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยมือและเครื่องมือ กาว งานกลึง และการย้อมสี มีแนวโน้มที่จะบิดงอหรือบิดเบี้ยวในระหว่างการอบแห้งครั้งแรก

กลิ่น: มีกลิ่นที่ดีเทียบได้กับทั้งไม้ Cedar และการบูร Camphor (Cinnamomum camphora)

การแพ้/ความเป็นพิษ
: มีรายงานว่าไม้ในสกุล Aglaia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยปกติแล้วจะไม่มีการส่งออก ความพร้อมนำไปใช้งานมักจะจำกัดเฉพาะต้นไม้ที่เก็บเกี่ยวในท้องถิ่นภายในขอบเขตธรรมชาติ ราคาจะอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES และรายงานโดย IUCN ว่าเป็นไม้ที่มีความกังวลน้อยที่สุดต่อการสูญพันธุ์

การใช้งานทั่วไป: การก่อสร้างภายใน, เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ, ไม้วีเนียร์, การต่อเรือ, ปืนกล, ด้ามจับเครื่องมือและงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bekak/

leopard

ชื่อสามัญ:  Leopardwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Roupala montana (syn. R. brasiliense)

การกระจายพันธุ์:  อเมริกากลางและอเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  55 (lbf/ft3) 885 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.73,0.89

ความแข็ง : 2,150 (lbf)  9,560 (N)

การแตกหัก :  ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:  2,887,000   lbf/in2  (19.91 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,280 lbf/in2  (50.2 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.5%, Tangential: 8.8%, Volumetric: 11.5 %, T/R Ratio: 2.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: ไม้มีลายที่เด่นชัดเจนมากซึ่งทำให้ไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อ  ไม้เป็นสีน้ำตาลแดงปานกลางถึงสีน้ำตาลเข้ม และมีหน้าตัดไม้สีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อนซึ่งคล้ายกับจุดของเสือดาว(ตามชื่อของไม้)ซึ่งส่งผลให้เห็นลวดลาย เมื่อเลื่อยไม้ผ่าสี่ เช่นเดียวกับไม้อื่นๆที่แสดงให้เห็นรูปร่างที่สุดในชิ้นไม้ที่ตัดผ่าสี่ (เช่น Sycamore ไม้จำพวกพวกมะเดื่อ) Leopardwood ยังมีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดและแสดงจุดด่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่ เป็นเพราะมีรัศมีเนื้อไม้ที่กว้างทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แสดงให้เห็นที่หน้าตัดหัวไม้ส่วนบน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: :
เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง)และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ

ความทนทาน: มีรายงานว่าสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่จะมีความทนทานต่อผุพัง

ความสามารถในการใช้: ค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากมีแก่นไม้มีความหนาแน่นสูงและมีแนวโน้มที่เสี้ยนเนื้อไม้จะฉีกขาดในระหว่างการไสไม้ ไม้Leopardwood และสามารถใช้งานกับกาวได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่า Leopardwood จะไม่มีรายงานผลกระทบต่อสุขภาพในสกุล Roupal แต่พบว่ามีสกุลอื่น ๆ อีกหลายสกุลในวงศ์ Proteaceae ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาสำหรับไม้นำเข้าสายพันธุ์ Leopardwood มีแนวโน้มอยู่ที่ระดับปานกลางจนถึงระดับสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี เครื่องดนตรี (กีตาร์) และไม้กลึง


อ้างอิง

สี/ลักษณะ: ไม้มีลายที่เด่นชัดเจนมากซึ่งทำให้ไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อ  ไม้เป็นสีน้ำตาลแดงปานกลางถึงสีน้ำตาลเข้ม และมีหน้าตัดไม้สีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อนซึ่งคล้ายกับจุดของเสือดาว(ตามชื่อของไม้)ซึ่งส่งผลให้เห็นลวดลาย เมื่อเลื่อยไม้ผ่าสี่ เช่นเดียวกับไม้อื่นๆที่แสดงให้เห็นรูปร่างที่สุดในชิ้นไม้ที่ตัดผ่าสี่ (เช่น Sycamore ไม้จำพวกพวกมะเดื่อ) Leopardwood ยังมีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดและแสดงจุดด่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่ เป็นเพราะมีรัศมีเนื้อไม้ที่กว้างทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แสดงให้เห็นที่หน้าตัดหัวไม้ส่วนบน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: :
เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง)และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ

ความทนทาน: มีรายงานว่าสายพันธุ์นี้ส่วนใหญ่จะมีความทนทานต่อผุพัง

ความสามารถในการใช้: ค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากมีแก่นไม้มีความหนาแน่นสูงและมีแนวโน้มที่เสี้ยนเนื้อไม้จะฉีกขาดในระหว่างการไสไม้ ไม้Leopardwood และสามารถใช้งานกับกาวได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่า Leopardwood จะไม่มีรายงานผลกระทบต่อสุขภาพในสกุล Roupal แต่พบว่ามีสกุลอื่น ๆ อีกหลายสกุลในวงศ์ Proteaceae ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาสำหรับไม้นำเข้าสายพันธุ์ Leopardwood มีแนวโน้มอยู่ที่ระดับปานกลางจนถึงระดับสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี เครื่องดนตรี (กีตาร์) และไม้กลึง

lemon

ชื่อสามัญ:  Lemonwood, Degame

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Calycophyllum candidissimum

การกระจายพันธุ์:  คิวบาและอเมริกากลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 40-80 ฟุต หรือ 12-24 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 ฟุต 0.3-0.6เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  51 (lbf/ft3) 810 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.67,0.81

ความแข็ง : 1,880 (lbf)  8,350 (N)

การแตกหัก :  22,100 lbf/in2 (152.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,284,000  lbf/in2  (15.75 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,790 lbf/in2  (67.5 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.8%, Tangential: 8.6%, Volumetric: 13.2 %, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงเหลืองซีด กระพี้มีสีอ่อนกว่าแก่นไม้และไม่ได้แบ่งแยกกันอย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) ประสานกันกันเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดสม่ำเสมอ และมีความมันวาวเล็กน้อย

ความทนทาน: จัดอันดับว่ามีความทนทานต่อการรุกรานของเพรียงทะเล และยังมีความทนทานในระดับปานกลาง ซึ่งก็มีการรายงานที่แตกต่างกันไปว่าความทนทานของไม้ขึ้นอยู่กับประเภทการเข้าทำลายของเชื้อราอีกด้วย

ความสามารถในการใช้: คุณสมบัติการทำงานโดยรวมถือว่าดีพอใช้ สวยงาม แม้ว่าไม้เมื่อแห้งจะมีแรงต้านทานสูงในการตัด เลื่อย ไม้Lemonwood สามารถใช้งานร่วมกับกาว
ได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Lemonwood ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ต้นไม้ที่มีคุณภาพส่วนใหญ่ปลูกในคิวบาเป็นหลัก ดังนั้นจึงอาจหาไม้ ได้ยาก เนื่องจากข้อจำกัดทางการค้า ไม้Lemonwood ในบางครั้งมีขายในรูปแบบงานไม้กลึงเป็นแท่ง (turning blanks), ไม้คาน(bow stave blanks)และไม้วีเนียร์  ราคาสำหรับไม้นำเข้าพันธุ์นี้อยู่ในระดับที่สูงพอสมควร

ความยั่งยืน:
พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับคันธนู แกะสลัก ไม้กลึง และคันเบ็ด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lemonwood/

Lebbeck (ไม้จามจุรีทอง)

ชื่อสามัญ:  Lebbeck, kokko

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Albizia lebbeck

การกระจายพันธุ์:  มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ นิยมปลูกกันทั่วเขตร้อนเป็นไม้ประดับ

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร     

เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ฟุต 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  39.5 (lbf/ft3) 635(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.51,0.63

ความแข็ง : 1,330  (lbf) 5,920 (N)

การแตกหัก :  13,730 lbf/in2 (94.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,836,000 lbf/in2  (12.66 Gpa)      

แรงอัดแตก:  8,390 lbf/in2  (57.8 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.9%, Tangential: 5.8%, Volumetric: 9.6 %, T/R Ratio: 2

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลทอง มักมีแถบ/ริ้วของไม้มีสีอ่อนกว่าหรือสีเข้มกว่า ส่วนสีของกระพี้มีสีเหลืองซีดและสีมีแนวโน้มที่จะคล้ำลงตามอายุ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: มีการจัดอันดับว่าไม้ชนิดนี้มีความคงทนในระดับปานกลาง และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: มีแนวโน้มจะตัด เลื่อยได้ยากเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้ที่ประสานกัน
สามารถใช้ได้ดีกับงานกลึง และกาว แต่ควรจะตรวจสอบไม้ว่าแห้งสนิทดี เพราะหากไม้ยังไม่แห้งสนิทต้องระวังการแยกตัวของไม้

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Lebbeck  ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มักใช้เป็นไม้วีเนียร์/ไม้อัด หรืองานไม้กลึงเป็นแท่งหรือเป็นแผ่นในบางครั้ง ราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าพันธุ์นี้อยู่ในระดับกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ไม้วีเนียร์ ไม้กลึง แกะสลัก และรายการไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lebbeck/

lead

ชื่อสามัญ:  Leadwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Combretum imberbe

การกระจายพันธุ์:  จากแอฟริกาใต้ทางเหนือจนถึง แทนซาเนีย

ขนาดต้นไม้: สูง 32-64 ฟุต หรือ 10-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 1-2 ฟุต 0.3-0.6เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  76 (lbf/ft3) 1220(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.96,1.22

ความแข็ง : 3,570 (lbf) 15,880 (N)

การแตกหัก :  20,960 lbf/in2 (144.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,494,000 lbf/in2 (17.20 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,950 lbf/in2  (68.6Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.0%, Tangential: 4.7%, Volumetric: 6.8 %, T/R Ratio: 2.4*

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงถึงสีน้ำตาลเข้ม สีของแก่นไม้จะเข้มขึ้นตามอายุของแก่นไม้ กระพี้แบ่งแยกอย่างชัดเจนเป็นสีเหลืองซีด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ปมไม้และจุดบกพร่องมองเห็นได้เป็นเรื่องปกติ ผิวสัมผัสเนื้อละเอียดสม่ำเสมอ

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ Leadwood มีความทนทานสูงทนทานต่อแมลงและทนต่อสภาพอากาศได้ดี

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไป Leadwood ถือว่ายากที่จะใช้งานเนื่องจากความหนาแน่นที่มีสูงของ ไม้Leadwood ต้องใช้เครื่องมือ คมตัดที่ต้องคมมากเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของเสี้ยนเนื้อไม้ และยังส่งผลให้เกิดปัญหาระหว่างการใช้กาวในการทำงานอีกด้วย แต่สามารถใช้ได้ดีกับงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานเฉพาะเกี่ยวกับ Combretum imberbe แต่พบว่าสายพันธุ์อื่นในสกุล Combretum (โดยเฉพาะ C. kraussii) ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Leadwoodไม่ได้มีขายมากนัก ในบางครั้งพบในรูปแบบไม้กลึง/แท่งและไม้ท่อนขนาดเล็ก ราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าพันธุ์นี้มีแนวโน้มที่จะราคาสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้แกะสลัก, เฟอร์นิเจอร์, ไม้กลึง, และรายการสินค้าพิเศษขนาดเล็กๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/leadwood/

Indian laurel

ชื่อสามัญ:  Indian Laurel

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Terminalia elliptica (syn. T. tomentosa)

การกระจายพันธุ์:  เอเชียใต้ (โดยเฉพาะอินเดียและพม่า)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6 -1เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  54 (lbf/ft3) 855 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.73, 0.86

ความแข็ง : 2,340 (lbf) 10,390 (N)

การแตกหัก :  14,710 lbf/in2 (101.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,806,000 lbf/in2  (12.46 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,220 lbf/in2  (56.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.8%, Tangential: 7.4%, Volumetric: 13.2 %, T/R Ratio: 1.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยมีริ้วลายสีเข้มเกือบเป็นสีดำ กระพี้เป็นสีชมพูอ่อน แบ่งแยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือประสานกันเล็กน้อยไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบและมีความมันวาวในระดับต่ำเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ได้รับการจัดลำดับว่ามีความทนทานปานกลาง และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการใช้งาน แม้ว่าส่วนของเสี้ยนเนื้อไม้บิดตัวกันเป็นเกลียวประสานกันหรือไม่สม่ำเสมอจะมีปัญหามากกว่า และสามารถใช้ในงานกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Indian Laurel ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่เป็นไม้วีเนียร์ใช้สำหรับตกแต่ง คาดว่าราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าชนิดนี้จะอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ ตู้โชว์ อุปกรณ์การต่อเรือ ไม้กลึง และงานพิเศษขนาดเล็กๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/indian-laurel/

KOA

ชื่อสามัญ:  Koa, Hawaiian koa

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Acacia koa

การกระจายพันธุ์:  ฮาวาย

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  38 (lbf/ft3) 610(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.53,0.61

ความแข็ง : 1,170 (lbf)  5,180 (N)

การแตกหัก :  12,620 lbf/in2 (87.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,503,000 lbf/in2  (10.37 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,060 lbf/in2  (48.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.5%, Tangential: 6.2%, Volumetric: 12.4 %, T/R Ratio: 1.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีแก่นไม้สามารถเปลี่ยนแปลงได้สูง แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นสีทองระดับปานกลางหรือสีน้ำตาลแดง คล้ายกับไม้มะฮอกกานี  โดยปกติจะมีแถบสีของแก่นไม้ที่ตัดกันในวงเนื้อไม้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเนื้อไม้ที่มีแถบสีเหมือนริบบิ้น มีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเรียงตัวคล้ายคลื่นหรือลอนโค้งไปมา

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะบิดตัวเป็นเกลียวประสานกันเล็กน้อย และในบางครั้งมีลักษณะเรียงตัวกันคล้ายคลื่น มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่าเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และทนทานต่อแมลงได้ในระดับปานกลาง ถึงแม้ว่าจะไม่ทนทานต่อการรุกรานของปลวก

ความสามารถในการใช้: ไม้ Koa  ใช้งานง่ายและทำงานร่วมกับการขัดด้วยกระดาษทรายได้ดี อย่างไรก็ตามไม้ที่แปรรูปเป็นรูปทรง หรือชิ้นส่วนที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเป็นเกลียวประสานกันอย่างแน่นหนา อาจส่งผลให้ขณะตัดหรือเจาะไม้ทำให้เสี้ยนเนื้อไม้ ขาด/บิ่นไม่สวยงาม นอกจากนี้ไม้ Koa ยังสามารถทำให้เกิดปัญหาในการติดกาว แต่สามารถย้อมสี การกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  Koa ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสายพันธุ์ Acacia หลายสายพันธุ์ รวมถึง Australian Blackwood ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ด้วย Koa เป็นต้นไม้เฉพาะถิ่นในฮาวายและมีการปลูกที่ลดลง ไม้ Koa จึงมีแนวโน้มที่ราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ไม้แผ่นทรงสูงหรือไม้แผ่นทรงคลื่นยังเป็นราคาที่สูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ แผ่นไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ ตู้ เครื่องดนตรี (โดยเฉพาะกีตาร์และอูคูเลเล่) เรือแคนนู ปืนกล ไม้แกะสลัก ชาม และวัตถุอื่น ๆ ที่ทำจากไม้กลึง/พิเศษอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/koa/

king

ชื่อสามัญ:  Kingwood, violetta

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dalbergia cearensis

การกระจายพันธุ์:  บราซิล (และบางครั้งมาจากเม็กซิโก)

ขนาดต้นไม้: สูง 30-60 ฟุต หรือ 10-20 เมตร          

เส้นผ่านศูนย์กลาง น้อยกว่า 2 ฟุต หรือ 0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  74.9  (lbf/ft3) 1,200 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.98, 1.2

ความแข็ง : 3,340 (lbf) 17,240 (N)

การแตกหัก  : ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น: ไม่มีข้อมูล                                     

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีม่วงเข้มหรือสีน้ำตาลแดง มีริ้วลายสีดำเข้ม ส่วนกระพี้เป็นสีเหลืองซีดถูกแบ่งแยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) หรือในบางครั้งบิดตัวกันเป็นเกลียว ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด และมีความมันวาวสูง

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ชนิดนี้มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และความทนทานต่อการเข้าทำลายของปลวก

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้ว Kingwood ถือว่ายากที่จะทำงานเนื่องจากความหนาแน่นที่มีสูง Kingwood ส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือตัดทำให้ทื่อในระดับปานกลาง และหากเสี้ยนเนื้อไม้ประสานกันบิดตัวเป็นเกลียวเสี้ยนเนื้อไม้อาจจะฉีกออกได้ระหว่างทำการไสไม้ และยังใช้กับกาวได้ยากเพราะมีความหนาแน่นสูงของเนื้อไม้รวมไปถึงมีน้ำมันธรรมชาติของไม้อยู่ด้วย แต่สามารถปรับเปลี่ยนรูปลักษณะได้เป็นอย่างดีและมีความเงางามสูง

กลิ่น: จะกลิ่นเฉพาะตัวของไม้พะยูงเมื่อทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Kingwood ได้รับการรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นความรู้สึก อาจทำให้เกิดการระคายเคืองของดวงตาและผิวหนัง เช่น ตาแดง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีแนวโน้มว่าจะมีราคาแพงมากและไม่ค่อยมีให้เห็นเป็นไม้แปรรูปเนื่องจากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดเล็ก  Kingwood มักถูกมองว่าเป็นไม้กลึงที่มีขนาดเล็กโดยราคาใกล้เคียงกับไม้พยุงที่หายากอื่นๆ ในสกุล Dalbergia

ความยั่งยืน: แม้ว่า Kingwood จะไม่ได้จัดอยู่การสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)แต่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES appendix II) บัญชีแนบท้ายที่ 2 ภายใต้ข้อจำกัดของทั้งสายพันธุ์ Dalbergia ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากไม้ (แม้ว่าสินค้าสำเร็จรูปน้อยกว่า 10 กิโลกรัมจะได้รับการยกเว้น)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับงานฝังไม้ ไม้อัด อุปกรณ์มือจับและงานกลึงขนาดเล็กหรืองานพิเศษอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/kingwood/

Keruing

ชื่อสามัญ:  Keruing, Apitong

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dipterocarpus spp.

การกระจายพันธุ์:  เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 100-200 ฟุต หรือ 30-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  46 (lbf/ft3) 745(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.59 ,0.74

ความแข็ง : 1,390  (lbf) 6,170 (N)

การแตกหัก  : 16,710 lbf/in2 (115.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,293,000  lbf/in2  (15.81  Gpa)

แรงอัดแตก:  8,900 lbf/in2  ( 61.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.5%, Tangential: 10.8%, Volumetric: 16.3 %, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเหลืองปานกลางไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม ลักษณะโดยรวมและการจัดรูปแบบของเสี้ยนเนื้อไม้ค่อนข้างเป็นเนื้อเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) หรือบิดตัวกันเป็นเกลียวเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติระดับปานกลาง

ความทนทาน: แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แม้ว่าโดยทั่วไปจะมีรายงานว่าไม้ชนิดนี้มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และความทนทานต่อแมลงอยู่ในระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปไม้ชนิดนี้ง่ายต่อการทํางานกับเครื่องมือ เครื่องจักรแม้ว่า Silica ที่มีอยู่ในเนื้อไม้จะทำให้ใบมีดทื่อ นอกจากนั้นไม้ยังคาย ยาง(resin) ออกมาและสะสมบนเครื่องมือ ส่งผลทำให้การตกแต่งไม้ทำได้ยากอีกด้วย และใช้พื้นที่ในการขยับย้ายค่อนข้างมาก

กลิ่น: Keruing มีกลิ่นยางไม้ชัดเจนขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Keruing ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม่นิยมนำเข้าในอเมริกาเหนือ ไม้ Keruing ใน บางครั้งมีจำหน่ายในรูปแบบไม้ท่อนหรือไม้ปูพื้น และเป็นไม้นำเข้าที่ราคาควรอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ Dipterocarpus  หลายสายพันธุ์องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ
(IUCN Red List ) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์,พื้น ,ไม้ฝาพื้น(รถพ่วง) และไม้เอนกประสงค์


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Kempas

ชื่อสามัญ:  Kempas

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Hymenaea courbaril

การกระจายพันธุ์:  Koompassia malaccensis

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  55 (lbf/ft3) 880(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.72,0.88

ความแข็ง : 1,750 (lbf) 7,800 (N)

การแตกหัก :  17,190 lbf/in2 (118.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,913,000 lbf/in2 (20.09 Gpa)

แรงอัดแตก : 9,760 lbf/in2 (67.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.1%, Tangential: 6.7%, Volumetric: 13.3 %, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: Kempas มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลอมส้ม โดยมีลักษณะโดยรวมคล้ายกับไม้มะฮอกกานี

 

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: Kempas มีผิวสัมผัสของเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ  เสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะบิดตัวกันเป็นเกลียวและในบางครั้งเรียงตัวกันคล้ายคลื่น ไม้ยังสามารถมีริ้วของเนื้อเยื่อเปราะที่อาจเป็นต้นเหตุของข้อเสียต่อเครื่องจักร

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลางถึงทนทาน ต่อการการเน่าเปื่อย ผุพัง แต่ไม้ Kempas ไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของปลวก

ความสามารถในการใช้: Kempas ถือเป็นไม้ที่ใช้งานได้ยากเนื่องจากทั้งความหนาแน่นและแก่นเนื้อไม้ที่เชื่อมต่อกันเป็นเกลียวหนาแน่น นอกจากนี้ส่วนของไม้อาจมีริ้วลายที่เหมือนหิน ในบริเวณที่เปราะบาง ซึ่งอาจส่งผลต่อคมตัดและทำให้การตัดเฉือนทำได้ยาก ไม้ Kempas มีสภาพกรดเล็กน้อย สามารถกัดกร่อนโลหะได้ และไม้สามารถย้อมสีได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  Kempas ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: Kempas ควรมีราคาไม่แพงนักสําหรับไม้เขตร้อนนําเข้า แม้ว่าจะไม่มีขายทั่วไป ยกเว้นแต่เป็นไม้แผ่นสำหรับปูพื้น

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN ) รายงานว่า ขึ้นอยู่กับการอนุรักษ์ การยุติโครงการอนุรักษ์ใด ๆ ในปัจจุบันอาจส่งผลให้มีสถานะบัญชีแดงที่มีความเสี่ยงหรือใกล้สูญพันธุ์

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ปูพื้น โครงสร้างหนัก ทางข้ามทางรถไฟ ไม้อัด และพาเลทไม้


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Katalox

ชื่อสามัญ:  Katalox, Mexican ebony

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Swartzia cubensis

การกระจายพันธุ์:  เม็กซิโกตอนใต้ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ตอนเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร      

เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  71.6  (lbf/ft3) 1,150  (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.94, 1.15

ความแข็ง : 3,660 (lbf) 16,260 (N)

การแตกหัก :  28,010 (lbf/in2 ) (193.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:   3,715,000  lbf/in2  (25.62Gpa)

แรงอัดแตก:  15,240 lbf/in2  (105.1 (Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.9%, Tangential: 7.6%, Volumetric: 11.2%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ําตาลแดงเข้มจนถึงเกือบดำ ในบางครั้งมีถึงสีม่วงเข้มส่วนกระพี้ ถูกแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีสีขาวอมเหลืองอ่อน ชิ้นส่วนที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเป็นคลื่น

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) แต่ก็อาจไม่สม่ำเสมอหรือประสานกันบิดตัวเป็นเกลียว ด้วยเนื้อสัมผัสที่ละเอียดและ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปไม้ชนิดนี้มีความทนทานสูงต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง แก่นของไม้มักถูกพิจารณาว่ามีความทนทานสูงต่อการสลายตัวและการกัดกินของปลวก แม้ว่าจะอ่อนแอต่อการรุกรานของเพรียงทะเล

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้ว Katalox ถือว่ายากที่จะใช้งานเนื่องจากความหนาแน่นที่มีสูงของเนื้อไม้ ส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือตัด ทำลายให้ทื่อในระดับปานกลาง และหากเสี้ยนเนื้อไม้ประสานกันบิดตัวเป็นเกลียว เสี้ยนเนื้อไม้อาจจะฉีกออกได้ระหว่างทำการไสไม้ และยังใช้กับกาวได้ยากเพราะมีความหนาแน่นสูงของเนื้อไม้รวมไปถึงมีน้ำมันตามธรรมชาติของไม้อยู่ด้วย

กลิ่น: ไม้ Katalox ได้กลิ่นจางๆเมื่อทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Katalox ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจในบางคน ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety for more information. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มักจะมีจำหน่ายในรูปแบบกลึง/แปรรูปเป็นสี่เหลี่ยมแท่ง หรือไม้แปรรูป โดยทั่วไปจะมีกระพี้จำนวนมาก คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงกลางถึงช่วงบนสําหรับไม้เนื้อแข็งเขตร้อนที่นําเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: งานฝังไม้, เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี,ตู้เก็บของ พื้นไม้ปาร์เก้, กีต้าร์ และสินค้าพิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/