น้ำตาลแดง

European Larch

ชื่อสามัญ:  European Larch

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Larix decidua

ถิ่นกำเนิด:  ยุโรปกลาง

ความสูงลำต้น: 85-150 ฟุต หรือ 25-45 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 36 lbf/ft3 (575 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45, 0.58

ความแข็ง : 740 lbf (3,290 N)

การแตกหัก : 13,050 lbf/in2 (90.0 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,711,000 lbf/in2 (11.80 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,540 lbf/in2 (52.0 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.2%, Tangential: 8.2%, Volumetric: 12.5%, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีเหลืองไปจนถึงสีน้ำตาลแดงปานกลาง กระพี้แคบเกือบเป็นสีขาวและแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน การเลื่อยไม้แบบผ่าแบนสามารถแสดงรูปแบบที่น่าสนใจมากมายจากวงปีของต้นไม้ มีตาไม้แต่มักมีขนาดเล็ก

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงหรือเสี้ยนบิดเกลียว เนื้อสัมผัสเรียบ
ปานกลางถึงละเอียด และมีความมัน

ความทนทาน: มีความทนทานต่อการผุพังในระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้:  โดยทั่วไปใช้กับเครื่องมือและแบบเครื่องจักร แต่ยางไม้อาจทำให้
ใบเลื่อยสึกกร่อน นอกจากนี้เนื่องจากความแตกต่างระหว่างไม้ต้นเนื้ออ่อนและไม้ปลายเนื้อแข็ง การขัดอาจทำให้เกิดรอยบุ๋มและพื้นผิวที่ไม่เรียบ

กลิ่น: อาจมีกลิ่นยางที่แตกต่างกันเมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ในสกุล Larix ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง รวมทั้งลมพิษและรอยโรคที่ผิวหนัง ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ European Larch ใช้เป็นไม้ก่อสร้าง ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางในระดับท้องถิ่น

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มี
ความน่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้อัด, เสาไฟฟ้า, เสารั้ว, พื้น, การต่อเรือ, และงานก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/european-larch/

Swamp Kauri

ชื่อสามัญ:  Swamp kauri

ชื่อวิทยาศาสตร์:  ไม่ชัดเจนว่าเป็นสายพันธุ์ Kauri
ชื่อทางการค้า (Agathis australis)

ถิ่นกำเนิด:  ประเทศนิวซีแลนด์

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34.0 lbf/ft3 (540 kg/m3)

วามแข็ง : 730 lbf (3,230 N)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/swamp-kauri/

Douglas Fir

ชื่อสามัญ:  Douglas-Fir

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pseudotsuga menziesii

ถิ่นกำเนิด:  อเมริกาเหนือตะวันตก

ควาสูงลำต้น : 200-250 ฟุต หรือ 60-75 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 5-6 ฟุต หรือ 1.5-2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 32 lbf/ft3 (510 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45,0.51

ความแข็ง : 620 lbf (2,760 N)

การแตกหัก : 12,500 lbf/in2 (86.2 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,765,000 lbf/in2 (12.17 Gpa)

แรงอัดแตก:  6,950 lbf/in2 (47.9 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.5%, Tangential: 7.3%, Volumetric: 11.6%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สามารถเปลี่ยนสีได้ตามอายุและตำแหน่งของต้นไม้ มักจะมีสีน้ำตาลอ่อนปนสีแดง หรือสีเหลือง โดยวงปีจะมีสีเข้มกว่า ไม้ที่โดนตัดนั้นจะปรากฏเสี้ยนไม้ที่มีลักษณะตรงและเรียบ แต่ในไม้แผ่นเรียบ (โดยทั่วไปจะเห็นในแผ่นไม้อัดหรือไม้วีเนียร์แบบกลึง)

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะมีลักษณะตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติปานกลาง

ความทนทาน: ไม้ Douglas-Fir ได้รับการจัดอันดับให้มีความทนทานต่อการผุพังปานกลาง แต่แต่ไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปใช้ด้วยเครื่องมือต่าง ๆได้ดี แต่อาจทำให้ใบมีดทื่อได้ปานกลาง ใช้กับงานกาวและการย้อมสีได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นยางชัดเจนเมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Douglas-Fir ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง คลื่นไส้ วิงเวียน น้ำมูกไหล พร้อมกับโอกาสที่เศษชิ้นส่วนจะติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ควรมีจำหน่ายทั่วไปในฐานะไม้แปรรูปในราคาย่อมเยา ไม้เก่าลายน้ำ รูปแบบลวดลายที่เฉพาะอาจมีราคาแพงกว่ามาก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้อัด และไม้โครง/ก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/douglas-fir/

Gowen Cypress

ชื่อสามัญ:  Gowen Cypress

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cupressus goveniana

ถิ่นกำเนิด:  เฉพาะถิ่นชายฝั่งแคลิฟอร์เนีย

ความสูงลำต้น: 30-50 ฟุต หรือ 9-16 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต 3-6  เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 30 lbf/ft3 (480 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.40, 0.48

ความแข็ง : 570 lbf (2,520 N)

การแตกหัก : 8,250 lbf/in2 (56.9 Mpa)

การยืดหยุ่น: 653,000 lbf/in2 (4.50 Gpa)

แรงอัดแตก:  3,680 lbf/in2 (25.4 Mpa)

การหดตัว: ไม่พบข้อมูล; ส่วนใหญ่มักจะคล้ายกับไม้ Monterey Cypress

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาลแดง กระพี้แคบมีสีซีดกว่าและมักจะแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง แต่บางครั้งอาจมีตาไม้ทำให้มีรูปแบบเสี้ยนเนื้อไม้ไม่ปกติได้ ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและมีความเงาเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ทนทานปานกลางต่อการผุผัง และมีต้านทานต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วง่ายต่อการใช้งานด้วยมือและเครื่องมือจักร ตาไม้อาจทำให้เกิดปัญหาในการทำงานได้ มีรายงานว่าการดัดด้วยไอน้ำทำได้ยากกับไม้ชนิดนี้ ใช้กับงานกาว ทาสีได้ดี

กลิ่น: ไม้ Cypress ส่วนใหญ่ในสกุล Cupressus มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าไม่ค่อยมีรายงานว่าเกิดการแพ้แบบรุนแรง แต่มีรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา และผิวหนังได้ ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เนื่องจากขนาดมีเล็กและการจัดจำหน่ายที่จำกัดมาก ไม้ Gowen Cypress จึงไม่ได้ใช้เป็นไม้ในเชิงพาณิชย์ ความพร้อมใช้งานจะจำกัดเฉพาะ เช่นใช้ในโครงการพิเศษหรืองานอดิเรก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่อยู่ใน IUCN Red List มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากการประมาณจำนวนต้นไม้ที่มีจำนวนน้อยกว่า 10,000 ต้น ซึ่งยังคงลดลงอีก และเนื่องจากจำนวน Gowen Cypress ที่แยกส่วนอย่างรุนแรง Gowen Cypress ยังได้รับการคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสายพันธ์ใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2541

การใช้งานทั่วไป: โดยทั่วไปไม่ใช้สำหรับงานก่อสร้าง แต่ต้น Cypress พันธุ์อื่น ๆ ถูกนำมาใช้สำหรับงานก่อสร้าง เสารั้ว เครื่องดนตรี (กีตาร์ฟลาเมงโก) เฟอร์นิเจอร์ การต่อเรือ และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/gowen-cypress/

Australian Cypress

ชื่อสามัญ:  Australian Cypress, White Cypress Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Callitris columellaris (= C. glaucophylla)

ถิ่นกำเนิด:  ประเทศออสเตเรีย

ความสูงลำต้น:  65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1.5-2 ฟุต หรือ .5-.6  เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 41 lbf/ft3 (650 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.56, 0.65

ความแข็ง : 1,360 lbf (6,060 N)

การแตกหัก : 11,550 lbf/in2 (79.6 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,351,000 lbf/in2 (9.32 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,460 lbf/in2 (51.5 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.7%, Tangential: 4.9%, Volumetric: 8.7%, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนต่อตารางนิ้ว

lbs/ft3 = ปอนต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีไม้แก่นอาจแตกต่างกัน ตั้งแต่สีแทนอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยทั่วไปมีลายริ้วสีน้ำตาลแดงเข้ม กระพี้สีเหลืองอ่อนหรือชมพู โดยทั่วไปจะมีตาไม้ขนาดเล็กอยู่ทั่วไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและมีความเงาให้ความรู้สึกมันวาวแล็กน้อย

ความทนทาน: ทนทานมากในด้านความต้านทานการผุผังและยังทนทานต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้:  ทำงานได้ง่าย แม้ว่าบางครั้งมีตาไม้อยู่ทั่วไป อาจทำให้มีรอยขาดหรือมีปัญหาในการตัดไม้ ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายไม้ Camphor

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Australian Cypress มีรายงานว่าก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่นเดียวกับอาการที่พบได้น้อยกว่า เช่น ฝี เปลือกตาบวม และอาการคล้ายโรคหอบหืด ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาไม้แปรรูปที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้อัด พื้น เฟอร์นิเจอร์ และงานไม้อื่น ๆ ในการก่อสร้างทั่วไป


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/australian-cypress/

Coast red

ชื่อสามัญ:  Redwood, Sequoia, Coast Redwood, California Redwood, Vavona (burl)

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Sequoia sempervirens

ถิ่นกำเนิด:  แถบชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา จากตะวันตกเฉียงใต้ของโอเรกอนถึงตอนกลางของแคลิฟอร์เนีย

ความสูงลำต้น: 200-300 ฟุต หรือ 60-90 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 6-12 ฟุต หรือ 1.8-3.7 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 26 lbf/ft3 (415 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.36, 0.42

ความแข็ง : 450 lbf (2,000 N)

การแตกหัก : 8,950 lbf/in2 (61.7 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,220,000 lbf/in2 (8.41 Gpa)

แรงอัดแตก:  5,690 lbf/in2 (39.2 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.4%, Tangential: 4.7%, Volumetric: 6.9%, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีแก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมชมพูอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม กระพี้เป็นสีขาวซีดหรือเหลือง เสี้ยนเนื้อไม้รูปร่างโค้งหรือมีสีแดงที่บางครั้งเรียกว่า "ลูกไม้" หรือตามชื่อ Vavona) มีให้เห็นเป็นครั้งคราว

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงหรือเป็นเสี้ยนคลื่นในบางครั้ง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีความมันวาวเล็กน้อย

ความทนทาน: มีความทนทานปานกลางถึงทนทานมากต่อการผุพัง ไม้จากต้นไม้ที่มีอายุมากมีแนวโน้มที่จะทนทานกว่าไม้จากต้นไม้ที่อายุน้อยกว่า

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้วง่ายต่อการทำงานด้วยเครื่องมือช่างหรือเครื่องจักร แต่อาจเกิดรอยได้กับบริเวณเสี้ยนเนื้อไม้คลื่นที่ไม่สม่ำเสมอ ใช้ในงานกาวและการเคลือบสีได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวเมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าไม่ค่อยมีรายงานว่าเกิดการแพ้แบบรุนแรง แต่มีรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ โดยปกติแล้วอาการที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจรวมถึงอาการคล้ายโรคหอบหืด ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้แปรรูปควรอยู่ในช่วงราคากลางถึงสูง แม้ว่าไม้แปรรูปที่โปร่งหรือมีรูปทรงจะมีราคาสูงกว่ามาก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่มีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากการลดลงประมาณ 40% ในสามชั่วอายุที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงของธรรมชาติ

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้ก่อสร้าง คาน เสา พื้นระเบียง เฟอร์นิเจอร์ภายนอก และการตกแต่งต่างๆ ยังถูกใช้ในงานกลึง เครื่องดนตรี และสินค้าพิเศษขนาดเล็กอื่นๆ อีกด้วย


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/coast-redwood/

Western red Cedar

ชื่อสามัญ:  Western red cedar, giant arborvitae

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Thuja plicata

ถิ่นกำเนิด:  ฝั่งแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือ ของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ความสูงลำต้น: สูง 165-200 ฟุต หรือ 50-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 7-13 ฟุต หรือ 2-4 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 23.0 lbf/ft3 (370 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.31, 0.37

ความแข็ง : 350 lbf (1,560 N)

การแตกหัก : 7,500 lbf/in2 (51.7 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,110,000 lbf/in2 (7.66 Gpa)

แรงอัดแตก:  4,560 lbf/in2 (31.4 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.4%, Tangential: 5%,

Volumetric: 6.8%, T/R Ratio: 2.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีแดงถึงน้ำตาลอมชมพู มักมีลายริ้วแบบสุ่มและมีสีแดงหรือน้ำตาล กระพี้แคบมีสีขาวอมเหลืองอ่อน และไม่ได้แยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้ Western red cedar ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานถึงทนทานมากในแง่ของการต้านทานการผุผัง แต่จะมีความต้านทานต่อการรุกรานของแมลงระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยเครื่องมือทั้งแบบมือและแบบเครื่องจักร แม้ว่ามันจะเกิดรอยบุบและรอยขีดข่วนได้ง่ายมากเนื่องจากเป็นไม้เนื้ออ่อน และจะขัดทรายได้ไม่สม่ำเสมอเนื่องจากความแตกต่างของความหนาแน่นระหว่างเนื้อไม้ส่วนด้านนอกและด้านใน ใช้ในงานกาวและเคลือบเงาได้ดี หากใช้ตัวยึดที่เป็นเหล็กอาจทำให้ไม้เป็นคราบและเปลี่ยนสีได้ โดยเฉพาะเมื่อมีความชื้น

กลิ่น: มีกลิ่นหอมแรงและจะยังคงอยู่เมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าไม่ค่อยมีรายงานว่าเกิดการแพ้แบบรุนแรง แต่มีรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ โดยปกติแล้วอาการที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ หรืออาการน้ำมูกไหล อาการคล้ายโรคหอบหืด และส่งผลกระทบต่อระบบประสาท ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีราคาไม่แพงสำหรับไม้เกรดก่อสร้าง แต่ไม้เนื้อละเอียด เรียบ หรือไม้เกรดสูงอาจมีราคาแพงกว่า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: หลังคาชิงเกิ้ลรูฟ ผนังภายนอกและไม้สำหรับงานก่อสร้าง การต่อเรือ กล่อง ลังไม้ และเครื่องดนตรี


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/western-red-cedar/

Southern red Cedar

ชื่อสามัญ: Southern Redcedar

ชื่อวิทยาศาสตร์: Juniperus silicicola (Juniperus virginiana var. silicicola)

ถิ่นกำเนิด: ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา

คามสูงลำต้น:  50 ฟุต (15 ม.)

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2 ฟุต (0.6 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 32 lbf/ft3 (505 kg/m 3 )

ความถ่วงเฉพาะ : 0.42, 0.51

ความแข็ง : 610 lbf (2,710N)

การแตกหัก : 9,400 lbf/in 2 (64.8 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,170,000 lbf/in 2 (8.07 GPa)

ความสามารถในการบด: 6,570 lbf/in2 (45.3 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.2%, Tangential: 4.0%, Volumetric: 7.0%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: ไม่มีข้อมูล

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  ไม่มีข้อมูล

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล

ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: มีกลิ่นหอมคล้ายไม้ซีดาร์

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ/หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม่มีข้อมูล

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม่มีข้อมูล


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/southern-redcedar

Incense Cedar

ชื่อสามัญ: Incense Cedar, California White Cedar

ชื่อวิทยาศาสตร์: Calocedrus decurrens (syn. Libocedrus decurrens)

การกระจายพันธุ์: อเมริกาเหนือตะวันตก (แคลิฟอร์เนียเป็นหลัก)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต (20-30 ม.)

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต (1-1.5 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 24 lbf/ft3 (385 kg/m3 )

ความถ่วงเฉพาะ : 0.35, 0.38

ความแข็ง : 470 lbf  (2,090 N)

การแตกหัก : 8,000 lbf/in 2 (55.2 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,040,000 lbf/in2 (7.17 Gpa)

แรงอัดแตก: 5,200 lbf/in 2 (35.9 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.3%, Tangential: 5.2%, Volumetric: 7.7%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อนเกือบเข้ม กระพี้มีความแตกต่างจากไม้เนื้อแข็งและมีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีขาวนวล  ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พบไม้กระดานไม้ที่ผุบางส่วนเนื่องจากการโจมตีของเชื้อรา

เสี้ยนเนื้อไม้/เนื้อสัมผัส: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นแนวตรงโดยมีพื้นผิวเนื้อไม้ละเอียดปานกลาง

ความทนทาน: แม้จะพบการผุพังของเชื้อรา (บางครั้งเรียกว่า "Cedar pecky") ไม้ชนิดนี้ได้รับการจัดอันดับว่ามีความคงทนและมีความต้านทานการผุกร่อน และด้วยเหตุนี้บางครั้งไม้ก็ถูกนำมาใช้ทำเสารั้ว

ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยมือและใช้เครื่องมือและยึดเกาะสีได้ดีมาก

กลิ่น: ไม้ Incense Cedar เป็นหนึ่งในไม้หลักที่ใช้ทำดินสอ และมีกลิ่นฉุนคล้ายกับดินสอไม้

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยาของไม้ชนิดนี้จะไม่รุนแรง แต่มีรายงานว่าไม้ Incense Cedar ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาน่าจะอยู่ในระดับปานกลางสำหรับสายพันธุ์ในประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES)และรายงานโดย IUCN ว่าเป็นไม้ที่มีความกังวลในการสูญพันธุ์น้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ดินสอ มู่ลี่ไม้ เสารั้ว ไม้ก่อสร้าง ผนัง การใช้งานเฟอร์นิเจอร์ภายนอก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/incense-cedar/

Eastern red Cedar

ชื่อสามัญ: Aromatic Red Cedar, Eastern Redcedar

ชื่อวิทยาศาสตร์: Juniperus virginiana

ถิ่นกำเนิด: อเมริกาเหนือตะวันออก

ความสูงลำต้น: 100-115 ฟุต (30-35 ม.)

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต (1-1.2 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 33 lbf/ft 3 (530 kg/m 3 )

ความถ่วงเฉพาะ : 0.44, 0.53

ความแข็ง : 900 lbf ,4,000 N

การแตกหัก : 8,800 lbf/in 2 (60.7 Mpa)

การยืดหยุ่น: 880,000 lbf/in 2 (6.07 Gpa)

แรงอัดแตก: 6,020 lbf/in 2 (41.5 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.1%, Tangential: 4.7%, Volumetric: 7.8%, T/R Ratio: 1.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีแดงหรือน้ำตาลอมม่วง กระพี้เป็นสีเหลืองอ่อน และสามารถปรากฏเป็นริ้วและลายได้ทั่วทั้งแก่นไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/เนื้อสัมผัส: เสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะตรง มักมีปมไม้อยู่ และมีเนื้อสัมผัสที่ละเอียดมาก

ความทนทาน: ถือได้ว่าเป็นเลิศในการต้านทานการผุกร่อนและการโจมตีของแมลง ไม้ Aromatic Red Cedar มักใช้ทำเสารั้วโดยที่รั้วไม้สามารถสัมผัสพื้นดินโดยตรงโดยไม่ต้องทำการปรับสภาพไม้ก่อน

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Aromatic Red Cedar ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าจะมีปมไม้หรือสิ่งผิดปกติอยู่ในเนื้อไม้ก็ตาม มีรายงานว่ามีปริมาณซิลิกาสูงซึ่งอาจทำให้ใบมีดที่ใช้ตัดไม้ทื่อ ไม้ Aromatic Red Cedar สามารถติดกาวได้อย่างดี

กลิ่น: ไม้ Aromatic Red Cedar มีกลิ่นเฉพาะตัว นิยมใช้ไม้ทำตู้เสื้อผ้าและหีบเพื่อไล่แมลงเม่าและแมลงชนิดอื่นๆ

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยาของไม้ชนิดนี้จะไม่รุนแรง แต่มีรายงานว่าไม้ Aromatic Red Cedar ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจ ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่ไม้ Aromatic Red Cedar ขนาดใหญ่และเรียบพบได้น้อยกว่ามาก แต่ไม้กระดานขนาดเล็กและแคบกว่าที่มีปมอยู่นั้นหาซื้อได้ง่ายในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES)และรายงานโดย IUCN ว่าเป็นไม้ที่มีความกังวลในการสูญพันธุ์น้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: เสารั้ว ตู้เสื้อผ้า งานแกะสลัก เฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง บ้านนก ดินสอ คันธนู และงานที่ทำจากไม้ขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/eastern-red-cedar/

Zitan

ชื่อสามัญ: Zitan, Red Sandalwood, Red Sanders

ชื่อวิทยาศาสตร์: Pterocarpus santalinus

การกระจายพันธุ์: อินเดียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 30-50 ฟุต หรือ 9-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 63 lbf/ft3 (1,010 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.88, 1.01

ความแข็ง : 2,940 lbf (13,080 N)

การแตกหัก : ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น: ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก: ไม่มีข้อมูล

การหดตัว: ไม่มีข้อมูล

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีส้มเข้มไปจนถึงสีม่วงแดงเข้ม โดยมักมีแถบสีเข้ม สีมักจะเข้มขึ้นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไปจนถึงสีม่วงแดงเข้มจนถึงเกือบดำ ลักษณะและสีโดยรวมจะคล้ายกับไม้ Bois de Rose มาก กระพี้มีสีขาวซีดขนาดแคบและแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน บางครั้งเห็นริ้วลายเป็นคลื่นหรือลายสลับกัน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงไปจนถึงเสี้ยนสนเล็กน้อย เนื้อไม้หยาบปานกลางไปจนถึงละเอียด มีความมันวาวเป็นธรรมชาติดี

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล

ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: มีกลิ่นชัดเจน มีกลิ่นหอมเมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างพบได้บ่อย แต่ไม้ Zitan ก็ถูกรายงานว่าก่อให้เกิดการระคายเคือง ปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองตาและการอาเจียน ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: นำเข้าและใช้เฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ซึ่งราคาสูงเกินไป: ความต้องการไม้ Zitan ทำให้ไม้Zitan ทำให้ระดับราคาที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยิ่งกว่าไม้เนื้อแข็งที่มีค่าที่สุดที่ขายทั่วโลกตะวันตก แม้จะมีข้อจำกัดทางการค้าที่เข้มงวด แต่ไม้ก็ยังคงถูกลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมายไปยังประเทศจีน แหล่งเพาะปลูกกำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ผู้ซื้อควรระวังไม้ Zitan ของปลอมโดยทั่วไปจะพบในรูปของสายพันธุ์ Pterocarpus หรือสายพันธุ์ Dalbergia (เช่นไม้ Bois de Rose)

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ถูกจัดให้อยู่ในบัญชีแนบท้ายที่ 2 ของสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์เนื่องจากการลดลงของจำนวนไม้มากกว่า 50% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุมาจากการลดลงของธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์และงานแกะสลัก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/zitan/

Ipe

ชื่อสามัญ: Ipe, Brazilian Walnut, Lapacho

ชื่อวิทยาศาสตร์: Handroanthus spp. (เดิมอยู่ในสายพันธุ์ Tabebuia)

การกระจายพันธุ์: อเมริกาเขตร้อน (อเมริกากลางและอเมริกาใต้)

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 69 lbf/ft3 (1,100 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.91, 1.10

ความแข็ง : 3,510 lbf (15,620 N)

การแตกหัก : 25,660 lbf/in2 (177.0 Mpa)

การยืดหยุ่น: 3,200,000 lbf/in2 (22.07 Gpa)

แรงอัดแตก: 13,600 lbf/in2 (93.8 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.9%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 12.4%, T/R Ratio: 1.2

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้สามารถเปลี่ยนสีได้ตั้งแต่น้ำตาลแดง ไปจนถึงน้ำตาลมะกอกอมเหลืองหรือน้ำตาลดำเข้ม บางครั้งมีริ้วสีน้ำตาลเข้มหรือดำตัดกัน บางชนิดมีคราบเป็นผงปนอยู่ในเนื้อไม้ Ipe อาจแยกได้ยากจากไม้ Cumaru ซึ่งเป็นไม้ซุงหนาทึบอีกชนิดหนึ่งของอเมริกาใต้ แม้ว่าไม้ Ipe มักจะมีสีเข้มกว่า และไม่มีกลิ่นวานิลลาหรืออบเชย แต่มีลักษณะเฉพาะในขณะใช้งาน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดไปจนถึงหยาบปานกลาง เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ไม่สม่ำเสมอหรือเสี้ยนสน มีความมันวาวเป็นธรรมชาติปานกลาง

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานมาก ต้านทานแมลงได้ดีเยี่ยม แม้ว่าบางชนิดจะไวต่อเพรียงทะเล ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีเยี่ยม (ไม้ Ipe ใช้สำหรับทางเดินริมทะเลบนชายหาดของเกาะ Coney Island ในนครนิวยอร์ก และกล่าวกันว่ามีอายุถึง 25 ปีก่อนที่จะต้องเปลี่ยนใหม่ ซึ่งเป็นอายุการใช้งานที่น่าอัศจรรย์เมื่อพิจารณาจากปริมาณการจราจรและความลำบากจากสิ่งแวดล้อมที่มีต่อเนื้อไม้)

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Ipe เป็นไม้ที่ยากต่อการใช้งาน มีความแข็งและแน่นหนามาก มีความต้านทานการตัดสูงระหว่างการเลื่อยตัด ไม้ Ipe ยังมีผลต่อใบมีด โดยทั่วไปไม้จะเลื่อยไสได้อย่างราบรื่น แต่เนื้อไม้สามารถฉีกขาดได้ในพื้นที่บริเวณเสี้ยนสน นอกจากนี้ไม้ Ipe อาจติดกาวได้ยาก และแนะนำให้เตรียมพื้นผิวไม้ก่อนติดกาว ไม้เสี้ยนตรงกลึงได้ดี แม้ว่าบางครั้งคราบแป้งสีเหลืองตามธรรมชาติอาจรบกวนการขัดเงาหรือการตกแต่งไม้ได้

กลิ่น: Ipe มีกลิ่นหอมอ่อนๆขณะใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Ipe ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ รวมถึงผลกระทบอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ อาการคล้ายโรคหอบหืด และ/หรือการรบกวนการมองเห็น ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่ขายเป็นพื้นระเบียงหรือพื้นกระดานสำหรับเฟอร์นิเจอร์หรือของใช้ทั่วไปบางครั้งก็มีจำหน่ายเช่นกัน ราคาอยู่ในระดับปานกลางสำหรับพันธุ์ไม้เมืองร้อนนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) อย่างไรก็ตามสายพันธุ์ไม้ Ipe มีความหนาแน่นในการเจริญเติบโตต่ำมากและมีต้นไม้ที่โตเต็มที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวต่อพื้นที่ป่า 300,000 ถึง 1,000,000 ตารางฟุต (3 ถึง 10 เฮกตาร์) สิ่งนี้จำเป็นต้องเคลียร์พื้นที่ต้นไม้ป่าดิบชื้นส่วนใหญ่ (ซึ่งส่วนใหญ่มีมูลค่าเชิงพาณิชย์เพียงเล็กน้อย) แม้จะพบได้ไม่บ่อยนัก แต่แหล่งที่ได้รับการรับรองจากไม้ Ipe ก็มีอยู่

การใช้งานทั่วไป: วัสดุปูพื้น พื้นระเบียง ไม้แปรรูปตกแต่งภายนอก ไม้วีเนียร์ ด้ามจับเครื่องมือ และงานกลึงอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/ipe/

Water Hickory

ชื่อสามัญ : Water Hickory

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carya aquatica

การกระจายพันธุ์ : Southeastern United States

ความสูงลำต้น : 65-100 ฟุต (20-30 ม.)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น : 1-2 ฟุต (.3-.6 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 43 lbf/ft3 (690 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : .61, .69

ความแข็ง (Janka) : 1,550 lbf (6,900 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว : 17,800 lbf/in2 (122.8 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น : 2,020,000 lbf/in2 (13.93 Gpa)

แรงอัด : 8,600 lbf/in2 (59.3 Mpa)

การหดตัว : Volumetric: 13.6%

สี/ลักษณะ : แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะมีสีน้ำตาลอ่อนถึงปานกลางและมีสีแดง กระพี้เป็นสีน้ำตาลอมเหลืองซีด ลายไม้มักจะเป็นเส้นตรง แม้ว่าจะเป็นลอนบ้างเป็นบางครั้ง โดยมีเนื้อสัมผัสปานกลาง รูขุมขนมีขนาดกลางและเปิด

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

ความต้านทานการเน่า : ไม่ทนทานต่อการเน่าเสียง่ายเนื่องจากแก่นไม้ผุ และยังไวต่อแมลงโจมตีอีกด้วย

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

Shellbark Hickory

ชื่อสามัญ : Shellbark Hickory

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Carya laciniosa

การกระจายพันธุ์ : ภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

ความสูงลำต้น : 100-130 ฟุต (30-40 ม.)

เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น : 1-2 ฟุต (.3-.6 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 48 lbf/ft3 (770 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 62, .77

ความแข็ง (Janka) : 1,810 lbf (8,100 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว : 18,100 lbf/in2 (124.8 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น : 1,890,000 lbf/in2 (13.03 Gpa)

แรงอัด : 8,000 lbf/in2 (55.2 Mpa)

การหดตัว : Radial: 7.6%, Tangential: 12.6%, Volumetric: 19.2%, T/R Ratio: 1.7

สี/ลักษณะ : แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะมีสีน้ำตาลอ่อนถึงปานกลางและมีสีแดง กระพี้เป็นสีน้ำตาลอมเหลืองซีดกว่า ลายไม้มักจะเป็นเส้นตรง แม้ว่าจะเป็นลอนบ้างเป็นบางครั้ง โดยมีเนื้อสัมผัสปานกลาง รูขุมขนมีขนาดกลางและเปิด

กลิ่น : ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

ความต้านทานการเน่า : ไม่ทนทานต่อการเน่าเสียง่ายเนื่องจากแก่นไม้ผุ และยังไวต่อแมลง

ความเป็นพิษ : เสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ไม่มีปฏิกิริยาต่อสุขภาพใดๆ

การใช้งานได้ : ที่จับเครื่องมือ ขั้นบันได ซี่ล้อ พื้น

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

Turpentine

ชื่อสามัญ:  Turpentine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Syncarpia glomulifera

การกระจายพันธุ์: ออสเตรเลีย

ขนาดต้นไม้:  สูง 100-180 ฟุต หรือ 30-55 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 0.9-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   59 lbf/ft3 (940 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.70, 0.94

ความแข็ง :   2,750 lbf (12,230 N)

การแตกหัก : 21,600 lbf/in2 (149.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,245,000 lbf/in2 (15.50 Gpa)

แรงอัดแตก:  11,650 lbf/in2 (80.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.7%, Tangential: 10.4%, Volumetric: 16.7%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีแดงหรือสีน้ำตาลแดง กระพี้เป็นสีชมพูอ่อน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็นได้ทั้งแบบตรง หยัก หรือเสี้ยนสน

ความทนทาน: มีรายงานว่าแก่นไม้มีความทนทานสูงและทนทานต่อการผุพังจากทั้งเชื้อราและแมลง

ความสามารถในการใช้:  อาจทำงานได้ยากเนื่องจากมีความหนาแน่นสูง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้คมตัดทื่อ เคลือบเงาให้ความมันวาวสูง ใช้งานได้ดีกับงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   มีรายงานว่าไม้นี้ทำให้เกิดการระคายเคืองและบวมของเยื่อบุ ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม่มีข้อมูล

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  การใช้งานภายนอก เช่น การต่อเรือ รางรถไฟ และพื้นระเบียง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/turpentine/

Brazilian Tulipwood

ชื่อสามัญ:  Tulipwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dalbergia decipularis (Dalbergia frutescens)

การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิล

ขนาดต้นไม้:  สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: น้อยกว่า  1 ฟุต หรือ 0.3 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   60 lbf/ft3 (970 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.88, 0.97

ความแข็ง :   2,500 lbf (11,120 N)

การหดตัว:  รายงานว่าอัตราการหดตัวน่าจะใกล้เคียงกับ ไม้ rosewoods อื่น ๆ

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีลายสีเหลือง สีแดง สีส้ม และสีชมพู สีและรูปร่างสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  รูขุมขนเนื้อไม้เปิดและมีขนาดปานกลาง เสี้ยนเนื้อไม้มักเป็นเส้นตรงและมีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด

ความทนทาน:  รายงานว่ามีความต้านทานการสลายตัวต่ำ แม้ว่าจะทนทานต่อการรุกรานของแมลงก็ตาม

ความสามารถในการใช้:  มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ยากเนื่องจากมีความหนาแน่นสูง ยังมีผลต่อใบมีดทื่อ อาจเป็นเรื่องยากที่จะติดกาวเนื่องจากน้ำมันธรรมชาติที่มีมากมายและความหนาแน่นสูงของไม้ ใช้ได้ดีมากในงานกลึงและขัดเงา

กลิ่น: มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ:   ไม้rosewood ในสกุล Dalbergia (เช่นไม้ Tulipwood) ได้รับรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ โดยปกติแล้วปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และการหายใจ ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  มีแนวโน้มที่จะแพงมากและไม่ค่อยมีจำหน่ายในรูปแบบกระดาน ไม้Tulipwood มักถูกมองว่าเป็นไม้แปรรูปขนาดเล็ก โดยราคาของมันอยู่ในระดับเดียวกับไม้แปลกหายากอื่นๆ ในสกุล Dalbergia

ความยั่งยืน:  แม้ว่าไม้ Brazilian Tulipwood จะไม่ได้รับการประเมินความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List ) ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES II ภายใต้ข้อจำกัดทั่วทั้งสกุลสำหรับสายพันธุ์ Dalbergia ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ทำจากไม้ด้วย

การใช้งานทั่วไป:  ไม้วีเนียร์, เฟอร์นิเจอร์, งานฝัง, เครื่องดนตรี (เครื่องเคาะ) และงานกลึงขนาดเล็ก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/brazilian-tulipwood/

Southern Silky oak

ชื่อสามัญ:  Southern Silky Oak

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Grevillea robusta

การกระจายพันธุ์: ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย ปลูกในพื้นที่เพาะปลูกในแอฟริกาใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง:2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   37 lbf/ft3 (590 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.49, 0.59

ความแข็ง :   880 lbf (3,930 N)

การแตกหัก : 10,790 lbf/in2 (74.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,151,000 lbf/in2 (7.93 Gpa)

แรงอัดแตก:  5,080 lbf/in2 (35.0 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.7%, Tangential: 7.7%, Volumetric: 10.5%, T/R Ratio: 2.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง มีรังสีสีเทาถึงน้ำตาลอ่อน เช่นเดียวกับไม้อื่น ๆ ที่แสดงรูปร่างที่พื้นผิวไม้ผ่าสี่ในชิ้นไม้ (เช่น ไม้ Sycamore) ไม้ Silky Oak มีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดเมื่อเลื่อยเป็นไม้ผ่าสี่ นี่เป็นเพราะรังสีไขกระดูกขนาดใหญ่ของไม้ซึ่งสามารถมองเห็นเค้าโครงได้ชัดเจนที่สุดเมื่อมองไปที่หัวไม้ (endgrain)

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ที่ค่อนข้างหยาบและเป็นเสี้ยนตรง

ความทนทาน: ไม้Southern Silky Oak ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลางถึงทนทานในแง่ของความต้านทานการผุกร่อน และยังทนทานต่อการรุกรานของแมลงส่วนใหญ่ในระดับปานกลางอีกด้วย

ความสามารถในการใช้:  โดยรวมแล้วเป็นไม้ที่ค่อนข้างง่ายที่จะใช้งาน แม้ว่าอาจมีความยุ่งยากในการไสไม้และมีการฉีกขาดเกิดขึ้น ไม้ Southern Silky Oak ยังมีผลต่อคมตัดในระดับปานกลางอีกด้วย ใช้งานได้ดีกับกาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:  มีรายงานว่าไม้ Southern Silky Oak ทำให้ระคายเคืองตาและผิวหนัง ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม้Southern Silky Oak ไม่ได้มีจำหน่ายทั่วไปในสหรัฐอเมริกา และราคามักจะอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี งานกลึงและสินค้าพิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/southern-silky-oak/

Northern Silky oak

ชื่อสามัญ:  Northern Silky Oak, Australian Lacewood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cardwellia sublimis

การกระจายพันธุ์: ควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย

ขนาดต้นไม้:  สูง 50-80 ฟุต หรือ 15-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   35 lbf/ft3 (560 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.49, 0.56

ความแข็ง :   840 lbf (3,740 N)

การแตกหัก : 9,520 lbf/in2 (65.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,293,000 lbf/in2 (8.92 Mpa)

แรงอัดแตก:  5,680 lbf/in2 (39.2 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.8%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 11.5%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง มีรังสีสีเทาถึงน้ำตาลอ่อน เช่นเดียวกับไม้อื่น ๆ ที่แสดงรูปร่างที่พื้นผิวไม้ผ่าสี่ในชิ้นไม้ (เช่น ไม้ Sycamore) ไม้ Silky Oak มีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดเมื่อเลื่อยเป็นไม้ผ่าสี่ นี่เป็นเพราะรังสีไขกระดูกขนาดใหญ่ของไม้ซึ่งสามารถมองเห็นเค้าโครงได้ชัดเจนที่สุดเมื่อมองไปที่หัวไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:   มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ที่ค่อนข้างหยาบและเป็นเสี้ยนตรง

ความทนทาน: ไม้Northern Silky Oak ได้รับการจัดอันดับจากทนทานปานกลางถึงไม่ทนทาน และยังไวต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้:  โดยรวมแล้วเป็นไม้ที่ค่อนข้างง่ายที่จะใช้งาน แม้ว่าอาจมีความยุ่งยากในการไสไม้ และมีการฉีกขาดเกิดขึ้น ไม้ Northern Silky Oak ยังมีผลกระทบปานกลางถึงสูงในการตัดขอบ ใช้งานได้ดีกับกาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:  มีรายงานว่า ไม้ Northern Silky Oak ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง  ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม้Northern Silky Oak ไม่ได้มีจำหน่ายทั่วไปในสหรัฐอเมริกา และราคามักจะอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าความ

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี งานกลึง และสินค้าพิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/northern-silky-oak/