เหลืองอ่อน

Ekop

ชื่อสามัญ: Ekop-Leke/Ekop-Evene (Cameroon)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Brachystegia leonensis

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกากลาง กาบอง แคเมอรูน สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก สาธารณรัฐแอฟริกากลาง อิเควทอเรียลกินี

ความสูงลำต้น: 18-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 0.7-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 560 kg/m3

ความถ่วงเฉพาะ: 580  Mc

ความแข็ง (Janka): 1,480 lbf (6,583 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว: 55 Mpa

โมดูลัสยืดหยุ่น: 4.6 Mpa

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้มีลักษณะสีชมพูถึงสีส้มอ่อนๆ ผงไม้มีลักษณะเป็นมันวาว ลายเสี้ยนเป็นเส้นตรง บางส่วนอาจมีลายประสาน กระพี้จะมีสีขาวถึงอ่อนเหลืองแก่นไม้จะมีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม แบ่งสีชัดเจน

ความต้านทานการเน่า : ต้านทานปลวกมอดได้ดี

ความเป็นพิษ : ผงหรือฝุ่นไม้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ

การใช้งานได้ : เหมาะสำหรับการใช้งานภายใน และเหมาะกับการทำโครงสร้างที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก เช่น โต๊ะ เตียง ตู้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ

Makha

ชื่อสามัญ: Makha Wood, Maka, Afzelia Burl, Burl Wood

ชื่อวิทยาศาสตร์: Afzelia xylocarpa

ถิ่นกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และพม่า

ความสูงลำต้น: 85 ฟุต - 130 ฟุต (26  - 40 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 6.5 ฟุต (2 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 51.5 lbf/ft3 (825 kg/m3 )

ความถ่วงเฉพาะ: 12% Mc

ความแข็ง (Janka):  1,980 lbf (8,820 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว: 17,210 lbf/in2 (118.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น:  1,939,000 lbf/in2 (13.37 Gpa)

แรงอัด:  9,960 lbf/in2 (68.7 Mpa)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้มะค่าเป็นสีน้ำตาลส้มมีลายไม้ตรง แก่นไม้มะค่ามีสีเหลืองแดงและอาจเข้มพอๆ กับสีน้ำตาลแดง กระพี้เป็นสีขาวเทา เปลือกของไม้มะค่านั้นจะมีสีน้ำตาลอ่อนหรือออกชมพูอมน้ำตาล ก้านใบจะมีขนาดสั้นเรียงติดกัน

ความต้านทานการเน่า : ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลางต่อปลวกและหนอนเจาะทะเล และทนทานไวต่อการโจมตีของแมลงอื่นๆ หลากหลาย

ความเป็นพิษ : สายพันธุ์เอเชียจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่คล้ายกัน ซึ่งรวมถึงการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดวงตา และทางเดินหายใจ

การใช้งานได้ : เฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ พื้น  งานสีภายนอกและการก่อสร้าง และสินค้าไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ

ไม้มะค่าเป็นไม้เนื้อแข็งหายาก มีคุณค่าสูง ให้ความสวยงามโดดเด่น ไม้มีความแข็ง หนัก และหนาแน่น และมีลายที่สวยงามเมื่ออายุมากขึ้น ไม้นี้มีรูปร่างที่ประณีตและมีคุณค่าสูงเนื่องจากเป็นไม้สีแดงที่น่าดึงดูดและหรูหรา ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ พื้น การตัดแต่ง และการก่อสร้างเครื่องดนตรีชั้นดี

Lacewood

ชื่อสามัญ:  Lacewood, Brazilian Lacewood, South American Lacewood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Panopsis spp. (P. rubescens and P. sessilifolia)

การกระจายพันธุ์:  เขตร้อนในอเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 30-50 ฟุต หรือ 9-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  36.2 (lbf/ft3) 580 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.48, 0.58

ความแข็ง : 840 (lbf)  3,740 (N)

การแตกหัก :  ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:   ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: ไม้มีลายที่เด่นชัดเจนมากซึ่งทำให้ไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อ  ไม้เป็นสีน้ำตาลแดงมีหน้าตัดไม้สีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อนซึ่งส่งผลให้มีลวดลายลูกไม้เมื่อเลื่อยไม้ผ่าสี่ เช่นเดียวกับไม้อื่นๆที่แสดงให้เห็นรูปร่างที่สุดในชิ้นไม้ที่ตัดผ่าสี่ (เช่น Sycamore ไม้จำพวกพวกมะเดื่อ)  Lacewood ยังมีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดและแสดงจุดด่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่ เป็นเพราะมีรัศมีเนื้อไม้ที่กว้างทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แสดงให้เห็นที่หน้าตัดหัวไม้ส่วนบน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากความหนาแน่นที่แตกต่างกันระหว่างเสี้ยนเนื้อไม้และรัศมีเนื้อไม้

ความทนทาน:  ไม้ Lacewood ไม่ทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วเป็นไม้ที่ค่อนข้างใช้งานได้ดีกับกาว และการย้อมสี แม้ว่าอาจจะมีปัญหาบ้างในการดำเนินงานโดยเสี้ยนเนื้อไม้อาจจะฉีก ขาดออกได้ระหว่างทำการงาน สำหรับไม้ Lacewood บางสายพันธุ์ส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือ คมตัด ให้ทื่อในระดับปานกลาง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าไม่มีรายงานผลร้ายต่อสุขภาพสำหรับ Lacewood ในสกุล Panopsis แต่ก็มีรายงานอีกหลายชนิดในวงศ์ Proteaceae ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาของไม้ Lacewood นั้นแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่มีแนวโน้มของราคาอยู่ที่ระดับปานกลางถึงระดับสูงสำหรับไม้นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ชั้นดี เครื่องดนตรี (กีตาร์) และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lacewood/

Limba

ชื่อสามัญ:  Limba, Black Limba, White Limba, Korina, Afara

ชื่อวิทยาศาสตร์: Terminalia superba

การกระจายพันธุ์:  แอฟริกาตะวันตกเขตร้อน

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร                

เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-7 ฟุต หรือ 1.5-2.2เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  35 (lbf/ft3) 555 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.43, 0.56

ความแข็ง : 670 (lbf) 2,990 (N)

การแตกหัก :12,510   lbf/in2 (86.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,520,000 lbf/in2  (10.49 Gpa)

แรงอัดแตก:  6,580  lbf/in2  (45.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.3%, Tangential: 6.3%, Volumetric: 10.8 %, T/R Ratio: 1.5

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีเหลืองอ่อนถึงน้ำตาลทอง ในบางครั้งริ้วลายและเส้นสีเทาจนถึงสีดำ ไม้ที่มีพื้นผิวสีเข้มนี้เรียกว่า Black Limba และไม้ที่มีพื้นผิวสีเรียเรียกว่า White Limba ในส่วนของกระพี้มีสีเทาอ่อนถึงสีน้ำตาลอมเหลือง กระพี้ไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนจากแก่นไม้ สีของกระพี้มักจะเข้มขึ้นตามอายุ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง(Straight Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้งประสานกันเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบสม่ำเสมอกัน และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติในระดับกลาง

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่าไม่มีความทนทานและยังไวต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: เป็นไม้ที่ใช้งานได้ง่ายทั้งด้วยผู้ทำงานและเครื่องจักร ปริมาณของซิลิก้า (silica)ที่มีเล็กน้อยในไม้ Limba  ส่งผลกระทบให้คมตัดของเครื่องมือทื่อได้ แต่ไม้สายพันธุ์นี้สามารถใช้งานได้ดีกับกาว

กลิ่น: ไม้ Limba จะมีกลิ่นอ่อนๆ ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า ไม้ Limba ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง และระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งลมพิษ อาการคล้ายโรคหอบหืด และเลือดออกจากจมูกและเหงือก เมื่อโดนเสี้ยนไม้ยังมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อและใช้เวลานานกว่าปกติในการรักษา ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:
ผู้ผลิตมีความต้องการขายค่อนข้างมากและมีจำหน่ายในรูปแบบไม้แผ่นและไม้วีเนียร์ ราคาไม้นำเข้าสายพันธุ์นี้อยู่ในระดับปานกลาง แม้ว่าไม้ที่มีพื้นผิวสีเข้มนี้เช่น Black Limba จะมีราคาแพงกว่า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ ไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ เครื่องดนตรี (ตัวกีต้าร์ไฟฟ้า) และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/limba/

Lilac

ชื่อสามัญ:  Lilac

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Syringa spp. (Syringa vulgaris)

การกระจายพันธุ์:  มีถิ่นกำเนิดในยุโรปและเอเชีย ปลูกในพื้นที่เขตอบอุ่นหลายแห่งทั่วโลก            

ขนาดต้นไม้: สูง 6-25 ฟุต หรือ 2-8 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 4-8 ฟุต หรือ 10-20เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  59 (lbf/ft3) 945 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.74, 0.95

ความแข็ง : 2,350 (lbf) 10,440 (N)
*ค่าความแข็งโดยประมาณตามความถ่วงจำเพาะ

การแตกหัก :  ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:   ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  การหดตัวของด้านสัมผัส(Tangential shrinkage) เกินกว่า10%; มีรายงานว่ามีการหดตัวในระดับสูง

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ บางครั้งสามารถเห็นริ้วลายเส้นสีแดงหรือสีม่วงลาเวนเดอร์ทั่วแก่นเนื้อไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้ประสานเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดมาก และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน:ไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการ

ความสามารถในการใช้:
รายงานว่าเป็นไม้กลึงที่ดีเยี่ยม มีแนวโน้มที่จะเกิดการผิดรูปและ เกิดการแยกตัวปริแตกระหว่างการทำให้แห้ง

กลิ่น:
Lilac จะได้กลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ที่เด่นชัดมากขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Lilac ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เนื่องจากมีขนาดเล็ก (โดยทั่วไปจะเป็นเพียงต้นไม้เตี้ยๆหรือไม้พุ่ม) ไม้ Lilac ไม่ถือว่าเป็นไม้แปรรูปสำหรับงานไม้และไม่นิยมตัดไปใช้ในเชิงพาณิชย์ อาจจะพบในรูปแบบงานชิ้นเล็กๆ งานประดิษฐ์เป็นครั้งคราวจากผู้ที่ชอบทำเป็นงานอดิเรกและช่องทางอื่น ๆ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ใช้เป็นครั้งคราวสำหรับงานกลึงเล็กๆ เช่น ปากกาและชาม รวมถึงสิ่งของที่แกะสลัก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lilac/

Lati

ชื่อสามัญ:  Lati, white wenge, yaya

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Amphimas pterocarpoides and A. Ferrugineus

การกระจายพันธุ์:  แอฟริกากลางและตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 100-150 ฟุต หรือ 30-46 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  49 (lbf/ft3) 785(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.58 ,0.78

ความแข็ง : 1,200  (lbf)  5,340 (N)

การแตกหัก  : 18,460 lbf/in2 (127.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,147,000 lbf/in2  (14.81  Gpa)  

แรงอัดแตก:  9,070 lbf/in2  ( 62.5 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 6.2%, Tangential: 10.6%, Volumetric: 16.8 %, T/R Ratio: 1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน กระพี้สีเหลืองไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนจากแก่นไม้เสมอไป บางครั้ง Lati ถูกเรียกว่า ไม้เวงเก้โทนสว่าง (white wenge ) เนื่องจากมีความคล้ายคลึงกันของลวดลายเสี้ยนเนื้อไม้กับไม้เวงเก้ง (wenge  ; Millettia laurentii) โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนไม้เลื่อยผ่าแบน (flatsawn surfaces.) ในทั้งสองกรณีนี้เกิดจากแถบเนื้อเยื่อที่กว้างมากทั่วทั้งเนื้อไม้มีสีเหลืองซีด มีแนวโน้มที่สีจะเข้มขึ้นเป็นสีเหลืองทองเมื่อเวลาผ่านไป

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบสม่ำเสมอ และมีความมันวาวต่ำ

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่าเป็นไม้ที่ไม่มีความทนทานถึงทนทานปานกลาง ง่านต่อการรุกรานของแมลงส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะทนทานต่อการกัดกินของปลวกได้ปานกลาง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปไม้ชนิดนี้ใช้งานง่ายในการทำงานไม่ว่าจะใช้มือหรือใช้เครื่องจักร แม้ว่าไม้มีความต้านทานต่อการตัด เลื่อย สูงกว่าค่าเฉลี่ย และมีความต้านทานการสึกหรอที่ดี แต่ถ้าหากใช้ไม้ตอนที่ไม้สดอยู่จะพบข้อบกพร่องในเรื่องการทำให้แห้ง หดตัว งอบิดเบี้ยวของไม้ นอกจากนี้เสี้ยนเนื้อไม้ยังส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือ คมตัด ให้ทื่อในระดับปานกลาง แต่สามารถใช้งานกับกาวได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  Lati ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปไม่ค่อยพบเห็นหรือพบว่านำเข้า ในบางโอกาสจะพบ ไม้ Lati ขายในรูปแบบไม้วีเนียร์หรือไม้ท่อน คาดว่าราคาไม้เนื้อแข็งนำเข้าพันธุ์นี้จะอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้อัดไม้อัด ตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ และไม้ปูพื้น


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lati/

Lace

ชื่อสามัญ:  Lancewood, West Indian Lancewood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Oxandra lanceolata (syn. Uvaria lanceolata)

การกระจายพันธุ์:  ส่วนใหญ่จะพบในแถบทะเลแคริบเบียน แม้ว่าจะมีอยู่ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ด้วย

ขนาดต้นไม้: สูง 50 ฟุต หรือ 15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-1.5ฟุต หรือ 0.3-0.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  61 (lbf/ft3) 980(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.81,0.98

ความแข็ง : 2,830 (lbf)  12,590 (N)

การแตกหัก :  23,700 lbf/in2 (163.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,900,000  lbf/in2 (20.00 Gpa)

แรงอัดแตก : ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  Radial: 6.2%, Tangential: 9.6%, Volumetric: 15.4%, T/R Ratio: 1.5\

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: ไม้ Lancewood  ที่เก็บเกี่ยวในเชิงพาณิชย์โดยทั่วไปประกอบด้วยกระพี้มากกว่าแก่นไม้ซึ่งเป็นสีเหลืองซีด  แก่นไม้ของไม้ที่มีอายุมากมักจะเป็นที่ต้องการมากกว่าไม้ที่มีอายุน้อย แก่นไม้เป็นสีเหลืองทองเข้มบางครั้งมีเฉดสีเขียวหรือเทา รัศมีของเนื้อไม้(medullary rays) มีขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ยังทำให้มีริ้ว ลาย เมื่อเลื่อยไม้ผ่าสี่

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและสม่ำเสมอ และมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: เนื่องจากใช้เฉพาะส่วนกระพี้เท่านั้น ไม้จึงไม่ทนทานและไวต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: แม้ว่าจะมีความทนทานต่อการเสียดสี ถลอก ขีดข่วนและการสึกหรอสูง ถึงแม้ว่าไม้จะมีความต้านทานสูงในการตัด เลื่อย ดังนั้นส่งผลให้การทำงานล่าช้าไม้Lancewood  ส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือ คมตัด ให้ทื่อในระดับปานกลางและสามารถใช้กับงานกลึงได้ดี

กลิ่น:
ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Lancewoodยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เนื่องจากต้นไม้มีขนาดเล็ก Lancewood จึงมีจำหน่ายเฉพาะในรูปแบบไม้กระดานขนาดแคบและไม้แปรรูป แทบพบเห็นว่ามีขายในสหรัฐอเมริกาถึงแม้ว่าจะยังพบเจอได้มากในธรรมชาติคาคาดว่าอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้าพันธุ์นี้

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ คันเบ็ด ไม้พลู คันธนู และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lancewood/

European beech

ชื่อสามัญ: European beech, common beech

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fagus sylvatica

การกระจายพันธุ์: ยุโรป

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 44.3 lbf/ft3 (710 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.53, 0.71

ความแข็ง : 1,450 lbf (6,460 N)

การแตกหัก : 15,970 lbf/in2 (110.1 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,075,000 lbf/in2 (14.31 Gpa)

แรงอัดแตก: 8,270 lbf/in2 (57 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.8%, Tangential: 11.7%,Volumetric: 17.9%, T/R Ratio: 2.

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีเหลืองอ่อน บางครั้งก็มีสีชมพูหรือน้ำตาล แผ่นไม้บาง(Veneer) มักจะมีสีเข้มกว่าเล็กน้อย เนื่องจากการเฉือนเป็นแผ่นไม้บางมักจะต้องใช้ไอน้ำในการเตรียม ซึ่งจะทำให้ไม้มีโทนสีทองมากขึ้น พื้นผิวไม้ผ่าแบน (Flatsawn) มีพื้นผิวค่อนข้างเรียบ ในขณะที่พื้นผิวไม้ผ่าสี่ (Quartersawn) จะมีลวดลายจุดเล็กน้อย

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และเป็นมันวาวปานกลาง

ความทนทาน: ไม่คงทนหรือเน่าเสียง่าย ความต้านทานแมลง/หนอนเจาะไม่ดี

ความสามารถในการใช้: มันใช้เครื่องจักรได้ดี และติดกาว เสร็จสิ้น และงานกลึงได้ดี ไม้ European beech ยังตอบสนองต่อการรีดด้วยไอน้ำได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ไม้มีการเคลื่อนที่จำนวนมากในการให้บริการ ดังนั้นต้องคำนึงถึงการเคลื่อนที่และความมั่นคงของไม้ด้วย

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: European beech ได้รับรายงานว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ รวมทั้งมะเร็งโพรงจมูก (ที่มีการสัมผัสจากการทำงานโดยไม่มีการป้องกัน) ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: European beech มีจำหน่ายทั่วไปทั่วยุโรปและมีราคาที่ดี

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดถูกจัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่ไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แปรรูป, ไม้วีเนียร์, พื้น, การต่อเรือ, เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ, เครื่องดนตรี (หมุดเปียโน), ไม้อัด, และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/european-beech/

Koto

ชื่อสามัญ:  Koto

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pterygota macrocarpa

การกระจายพันธุ์:  แอฟริกาตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  37 (lbf/ft3) 595(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.51,0.59

ความแข็ง : 940 (lbf) 4,200 (N)

การแตกหัก :  15,290 lbf/in2 (105.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,752,000 lbf/in2  (12.08 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,590 lbf/in2  (52.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.1%, Tangential: 10.6%, Volumetric: 15.0 %, T/R Ratio: 2.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีเหลืองซีด มีการเปลี่ยนแปลงสีเล็กน้อยจากกระพี้ไปจนถึงแก่นไม้ พื้นผิวไม้ผ่าสี่สามารถแสดงลวดลายพิเศษ(ray fleck) การใช้ไอน้ำหรือการย้อมสีในไม้วีเนียร์จึงเป็นเรื่องที่พบได้น้อย

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงประสานกันเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบระดับปานกลาง

ความทนทาน: มีการจัดอันดับว่าไม้ชนิดนี้ไม่มีความคงทน  และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: มีการใช้งานกับกาวและการย้อมสีได้ดี แม้ว่าจะเกิดการฉีก/ขาด ร่อนออกของเสี้ยนเนื้อไม้เป็นผลมาจากเสี้ยนเนื้อไม้มีการเชื่อมประสานกัน

กลิ่น: มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อย่างมากในไม้สด ซึ่งจะหายไปเมื่อขณะไม้แห้ง

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Koto ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปจำหน่ายในรูปแบบของไม้แผ่นบาง(ไม้วีเนียร์) ราคาอยู่ในช่วงระดับกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์, ไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/koto/

Balau

ชื่อสามัญ: Balau

ชื่อวิทยาศาสตร์: Shorea spp.

การกระจายพันธุ์: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ขนาดต้นไม้: สูง 150-200 ฟุต หรือ 45-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 ฟุต หรือ 1.0-2.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 53 lbf/ft3 (850 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.69, 0.85

ความแข็ง : 1,600 lbf (7,120 N)

การแตกหัก : 17,730 lbf/in2 (122.3 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,457,000 lbf/in2 (16.95 Gpa)

วามสามารถในการบด:  10,280 lbf/in2 (70.9 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.5%, Tangential: 10.1%, Volumetric: 15.7%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  สีสามารถเปลี่ยนแปลงได้สูงขึ้นอยู่กับสายพันธุ์: ตั้งแต่สีฟางอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีพอร์ปานกลางถึงใหญ่ ในบางครั้งเสี้ยนเนื้อไม้เป็น   เสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ

ความทนทาน: ไม่ทนทานต่อการผุพังและยังไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปจะทำงานค่อนข้างยากเนื่องจากไม้มีมีความหนาแน่นสูง บางสายพันธุ์อาจมีผลกระทบเล็กน้อยต่อเครื่องเนื่องจากไม้มีความแข็งแรงของผนังเซลล์ในระดับเล็กน้อย แต่ใช้กับกาว และการย้อมสีได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Balau ในสกุล Shorea ได้รับรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองตา คอ และผิวหนัง บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: Balau ได้รับการเก็บเกี่ยวอย่างกว้างขวางและมีจำหน่ายทั่วโลก ราคาปานกลางแม้ว่าจะนำเข้าก็ตาม

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่หลายชนิดในสกุล Shorea ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 80% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: ไม้อัด ไม้แผ่นบาง งานทั่วไป งานปูพื้น และงานอเนกประสงค์อื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/balau/

Avodire

ชื่อสามัญ: Avodire

ชื่อวิทยาศาสตร์: Turraeanthus africanus
การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันตกและภาคกลางของแอฟริกาใกล้ทะเลสาบและลำธาร

ขนาดต้นไม้: สูง 80-115 ฟุต หรือ 25-35 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 35.9 lbf/ft3 (575 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.48, 0.58

ความแข็ง : 1,170 lbf (5,180 N)

การแตกหัก :  15,400 lbf/in2 (106.2 Mpa)

การยืดหยุ่:  1,614,000 lbf/in2 (11.13 Gpa)                                           

แรงอัดแตก: 7,490 lbf/in2 (51.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.2%, Tangential: 6.6%, Volumetric: 11.3%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  มีสีเหลืองอ่อนหรือครีม เข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีเหลืองทอง แก่นไม้และกระพี้มักจะแยกไม่ออก ไม้ Avodire สามารถแสดงลวดลายได้หลากหลาย เช่น หยัก รอยด่าง และคลื่นเล็กๆ ด้วยความแวววาว ทำให้เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับการเคลือบวีเนียร์

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็น เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง คลื่น ไม่สม่ำเสมอ หรือเป็นเสี้ยนสน  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและเป็นมันวาวสูง

ความทนทาน: ไม่ทนทานและยังไวต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปแล้ว Avodire ถือว่ามีลักษณะการทำงานที่ดีและใช้งานได้ง่ายด้วยมือ เครื่องมือและ กาวได้ดี แม้ว่าเป็นเสี้ยนเนื้อไม้ที่ประสานกันอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ไม้ยังมีเอฟเฟกต์ทื่อเล็กน้อยต่อเครื่องมือตัด

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Avodire ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง เลือดกำเดาไหล เลือดออกภายใน และอาการคล้ายโรคหอบหืด บทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปแล้ว Avodire จะขายเป็นแผ่นไม้บางในราคาปานกลาง แม้ว่าจะมีไม้กระดานขายอยู่ด้วย ไม้แปรรูป Avodire มีแนวโน้มว่าจะอยู่ในช่วงราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า แม้ว่าไม้วีเนียร์หรือไม้จริงที่มีลวดลายมากจะมีราคาแพงกว่ามาก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากมีการลดจำนวนของไม้ลงกว่า 30% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงตามธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง, ตู้เก็บของ, เฟอร์นิเจอร์, งานสีและไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/avodire/