Non- Near Threatened - อะ-ลัง-การ 7891

Non- Near Threatened

Wenga

ชื่อสามัญ: Wenge

ชื่อวิทยาศาสตร์: Millettia laurentii

ถิ่นกำเนิด: สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แคเมอรูน กาบอง และอิเควทอเรียลกินีแอฟริกากลาง

ความสูงลำต้น: 60-90 ฟุต (18-27 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 3-4 ฟุต (1-1.2 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 54.2 lbf/ft3 (870 kg/m3 )

ความถ่วงเฉพาะ: 0.72, 0.87

ความแข็ง (Janka): 1,930 lbf (8,600 N)

โมดูลัสการแตกร้าว: 21,990 lbf/in2 (151.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น : 2,550,000 lbf /in2 (17.59 Gpa)

แรงบด : 11,710 lbf/in2 (80.7 Mpa)

โมลัสการหดตัว : รัศมี 4.8%

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลถึงดำ และมีเส้นเหลืองหรือน้ำตาลอ่อน ลายไม้มีลักษณะตรงและมีเนื้อหยาบมาก ความมันวาวตามธรรมชาติต่ำ

ความเป็นพิษ : ฝุ่นหรือละออง ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ปวดท้อง การระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ฝุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อตัดหรือขัดทรายอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังได้

การใช้งานทั่วไป : ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องดนตรี

Paduak

ชื่อสามัญ: African padauk, vermillion

ชื่อวิทยาศาตร์: Pterocarpus soyauxii

ถิ่นกำเนิด: กาบอง แคเมอรูน ชาด เซาตูแมอีปริงซีป สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อิเควทอเรียลกินี แองโกลา และเขตตะวันตก

ความสูงลำต้น: 100-130 ฟุต (30-40 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 2-4 ฟุต (6-12 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 46.5 lbf/ft3 (745 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.63, 0.75 Mc

ความแข็ง (Janka): 1,710 lbf  (7,580 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว: 18,380 lbf  (126.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น: 1,895,000 lbf/in2 (13.07 Gpa)

แรงอัด: 9,240 lbf

การหดตัว: รัศมี 3.1%

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : สีของไม้อาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่สีส้มอมชมพูอ่อนไปจนถึงสีเลือดหมู จะมีสีส้มแดงเมื่อตัดหรือขัดใหม่ๆ และจะเข้มขึ้นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไปจนกลายเป็นสีน้ำตาลแดง (บางครั้งอาจมีสีอ่อนกว่าอาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเทาได้) ถึงแม้จะมีการเคลือบผิวด้วยน้ำมันแลคเกอร์หรือยูริเทรน แต่ไม่ได้ป้องกันการเปลี่ยนสีของไม้เมื่อเวลาผ่านไป

กลิ่น : ไม้ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็งมีกลิ่นหอม เนื้อไม้ละเอียดปานกลาง แต่มีความแข็งแรงทนทานสูงพอ ๆ กับไม้แดงแต่อัตราการหดตัวน้อยกว่า เนื้อไม้ประดู่มีหลายสี เช่น สีแดงอมเหลือง สีชมพูอมส้ม และสีอิฐแก่

 ความต้านทานการเน่า : มีความทนทานต่อการผุกร่อน สามารถต้านทานปลวกและแมลงอื่นๆ ได้

 ความเป็นพิษ : ผงหรือฝุ่นไม้ประดู่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ

 การใช้งานได้ : ประดู่โดยรวมนั้นใช้งานง่าย แม้ว่าอาจจะเกิดการแตกร้าวได้เมื่อไสหรือเลื่อย แต่ประดู่มีความแข็งมากเมื่อถูกตัดหรือผ่าตามเสี้ยนไม้ จึงนิยมนำไปใช้ทำด้ามจับประตู ด้ามจับอุปกรณ์ หรือเครื่องมือช่างอื่นๆ

        ไม้วงศ์ Pterocarpus อยู่ในบัญชีรายชื่อของ CITES (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือเรียกโดยย่อว่า CITES) ซึ่งรวมถึงไม้ประดู่แอฟริกาด้วย แต่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อของ IUCN (องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ International Union for Conservation of Nature and Natural Resources)

Honey mesquite

ชื่อสามัญ:  Black Mesquite

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Prosopis nigra

ถิ่นกำเนิด:  บริเวณ Gran Chaco ของอเมริกาใต้

ความสูงลำต้น: 33-52 ฟุต (10-16 เมตร) 

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1.3-4 ฟุต (0.4-1.2 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  52 (lbf/ft3) 825 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.67, 0.83

ความแข็ง : 1,940 (lbf) 8,630 (N)

การแตกหัก  : 11,210  lbf/in2 (77.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,117,000 lbf/in2  (7.70  Gpa)

แรงอัดแตก:  8,490 lbf/in2  (58.6 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.6%, Tangential: 3.5%, Volumetric: 8.5 %, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลปานกลางจนถึงสีช็อกโกแลต ซึ่งทำให้นึกถึง Black Walnut

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ไม้ Black Mesquite มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบและมีเนื้อเยื่อเซลล์ที่มีลักษณะเป็นรูๆอยู่ในเนื้อไม้ เป็นรูพรุนใหญ่ (pores) และมีความมันวาวตามธรรมชาติเล็กน้อย ส่วนที่ชัดเจนของลำต้นมักจะมีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเป็นแนวตรง แม้ว่าจะมีตาไม้ตำหนิของไม้ และความผิดปกติอื่นๆ

ความทนทาน: ไม้ Black Mesquite ถือว่ามีความทนทานต่อการผุกร่อน แม้ว่าจะไวต่อการเข้าทำลายของแมลงก็ตาม

ความสามารถในการใช้: คุณสมบัติการใช้งานของไม้ ส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยคุณภาพของไม้เอง ไม้ Mesquite ที่บริสุทธิ์และไม่มีตำหนินั้นง่ายต่อการทำงานกับผู้ทำงานและเครื่องจักร แต่เสี้ยนเนื้อไม้ที่ไม่สม่ำเสมอและตาไม้อาจเป็นอุปสรรคในการทำงาน แต่ไม้สามารถใช้งานได้ดีกับการติดกาวและงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ในสกุล Prosopis ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Mesquite มักจะมีจำหน่ายในขนาดที่เล็กเท่านั้น หรือเป็นแผ่นไม้หนาขนาดใหญ่ที่ไม่สม่ำเสมอไม้แผ่นขนาดใหญ่ปราศจากข้อบกพร่องของไม้เป็นเรื่องปกติที่ราคาไม้ Black Mesquite จะอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งเขตร้อนที่นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ได้รับการรายงานโดย IUCN ว่ามีข้อมูลไม่เพียงพอ IUCN รายงานว่ามีการใช้ไม้ Black Mesquite อย่างกว้างขวาง แต่ไม่ได้ให้การประเมินสถานการณ์อนุรักษ์อย่างครบถ้วน

การใช้งานทั่วไป: ใช้เป็นไม้สำหรับไม้ปูพื้น งานกลึง ไม้ต่อเรือ และเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/black-mesquite/

Jelutong

ชื่อสามัญ: Jelutong

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Dyera costulata

ถิ่นกำเนิด:  มาเลเซีย บอร์เนียว และภูมิภาคต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ความสูงลำต้น: 100-200 ฟุต หรือ 30-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 5-6 ฟุต หรือ 1.5-1.8 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 28 (lbf/ft3)  450(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.36 ,0.45

ความแข็ง: 390 (lbf)  1,740 (N)

การแตกหัก: 8,030 lbf/in2 (55.4 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,224,000 lbf/in2  (8.44 Gpa)                                   

แรงอัดแตก: 4,250 lbf/in2  ( 29.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.3%, Tangential: 5.5%, Volumetric: 6.2 %, T/R Ratio: 2.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เริ่มแรกเกือบจะเป็นขาว ต่อมาเริ่มมีสีเข้มขึ้นจนเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองตามอายุของแก่นไม้ ส่วนสีของกระพี้ไม่ได้แตกต่างจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มักจะมีลักษณะตรง หรือบิดตัวกันเป็นเกลียว เนื้อสัมผัสละเอียดปานกลางจนถึงเนื้อสัมผัสละเอียด และมีความมันวาว

ความทนทาน: ไม่มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพังและ อ่อนแอต่อการเข้าทำลายของแมลง 

ความสามารถในการใช้: ความหนาแน่นต่ำของไม้ Jelutong  ทำให้ง่ายต่อการใช้เครื่องมือและเครื่องจักรแต่ก็จะมีการสะสมของยางบางชนิดบนเครื่องมือในการตัดอีกด้วยแต่โดยรวมแล้วสามารถใช้ได้ดีกับกาว ย้อมสี งานกลึง

กลิ่น:  Jelutong มีกลิ่นเปรี้ยวที่ชัดเจนในขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Jelutong ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปหาได้ยากในอเมริกาเหนือ ไม้ถูกตัดโค้นมากเกินไปในบางพื้นที่ แม้ว่าจะไม่มีภัยคุกคามของการสูญพันธุ์ก็ตาม แต่ในบางครั้งมักจะมีให้เลือกใช้เช่น ไม้แกะสลัก หรือไม้แปรรูป และในส่วนของราคาสินค้าอยู่ในระดับปานกลางสำหรับสายพันธุ์ที่นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับการทำออกแบบ, การแกะสลัก, และไม้ขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Jatoba

ชื่อสามัญ :  Jatoba, Brazilian Cherry

ชื่อวิทยาศาสตร์ :  Hymenaea courbaril

ถิ่นกำเนิด :  อเมริกากลาง, เม็กซิโกตอนใต้, อเมริกาใต้ตอนเหนือ, และอินเดียตะวันตก

ขนาดต้นไม้ : สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 57 (lbf/ft3)  910(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.77,0.91

ความแข็ง : 2,690 (lbf)  11,950 (N)

การแตกหัก : 22,510 lbf/in2 (155.2 Mpa)

การยืดหยุ่น :   2,745,000 lbf/in2  (18.93 Gpa)                                                  

แรงอัดแตก : 11,780 lbf/in2  ( 81.2 Mpa)

การหดตัว :  Radial: 4.2%, Tangential: 8.0%, Volumetric: 12.1 %, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมส้มอ่อนไปจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม บางครั้งก็มีลายสีน้ำตาลเทาเข้มตัดกัน สีจะเข้มขึ้นเมื่อสัมผัสกับแสง ส่วนกระพี้เป็นสีเหลืองอมเทาอ่อน แบ่งเขตจากแก่นอย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนบิด (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ตัวบิดเป็นเกลียว) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ มีความมันวาว

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานมากต่อการเน่าเปื่อย ผุพังและทนทานต่อปลวก และแมลง (แม้จะมีรายงานว่าอ่อนแอต่อการรุกรานของเพรียงทะเล)

ความสามารถในการใช้: ใช้งานยากเนื่องจากความหนาแน่นและความแข็ง ส่งผลกระทบทำให้หัวเครื่องมือตัดทื่อ นอกจากนี้ Jatoba ยังมีแนวโน้มที่เปลือกไม้จะร่อนออกจากเสี้ยนเนื้อไม้ได้ยากเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะบิดตัวเป็นเกลียวประสานกันทำให้ร่อนได้ยากโดยไม่มีรอยฉีกขาด อย่างไรก็ตาม Jatoba สามารถใช้ได้ดีกับกาว ย้อมสี การกลึง และตอบสนองได้ดีต่อการดัดด้วยไอน้ำ

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Jatoba ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายในขนาดและความกว้างที่น่าพอใจเช่นเดียวกับไม้แปรรูปเช่น ไม้ระแนง และไม้ระแนงปูพื้น และ เป็นไม้นำเข้าที่มีราคาไม่แพง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ พื้น, เฟอร์นิเจอร์,ตู้เสื้อผ้า, ชิ้นส่วนอุปกรณ์จับเครื่องมือ, การต่อเรือ, รางรถไฟ, วัตถุเปลี่ยนทิศทาง, และสิ่งของพิเศษเล็ก ๆ อื่น ๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/abura/

Pistachio

ชื่อสามัญ :

ชื่อวิทยาศาสตร์ :

ถิ่นกำเนิด : มีถิ่นกำเนิดในอิหร่าน ปลูกใน
ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนและตะวันออกกลาง และแคลิฟอร์เนีย

ความสูงลำต้น : 20-30 ฟุต (6-10 ม.) 

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น : 6-12 นิ้ว (15-30 ซม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 54 lbf/ft3 (865 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 68, .87

ความแข็ง (Janka) :  1,930 lbf (8,590 N)

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้สามารถเปลี่ยนแปลงได้สูง ตั้งแต่สีเขียวมะกอกอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลอมส้มหรือสีม่วง มักมีแถบสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงสีดำ

ความเป็นพิษ :  แม้ว่าบางส่วนของต้นพิสตาชิโอและถั่วได้รับการรายงานว่าทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง แต่ไม่มีรายงานโดยตรงเกี่ยวกับความเป็นพิษหรืออาการแพ้ของไม้

การใช้งานได้ : อินเลย์ เครื่องดนตรี งานแกะสลัก เกล็ดมีด และวัตถุหัน

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

Sugar Pine

ชื่อสามัญ:  Sugar Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus lambertiana

ถิ่นกำเนิด:  บริเวณภูเขาของชายฝั่งแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา

ความสูลำต้น: 130-200 ฟุต หรือ 40-60 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  25 lbf/ft3 (400 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ :  0.34, 0.40

ความแข็ง : 380 lbf (1,690 N)

การแตกหัก : 8,200 lbf/in2 (56.6 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,190,000 lbf/in2 (8.21 Gpa)

แรงอัดแตก:  4,460 lbf/in2 (30.8 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.9%, Tangential: 5.6%, Volumetric: 7.9%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลอ่อน บางครั้งมีสีแดงเล็กน้อย กระพี้เป็นสีเหลืองอ่อนจนเกือบขาว พื้นผิวเรียบมักมีริ้วสีน้ำตาลเล็ก ๆ จากน้ำยางและชันเห็นได้ชัดเจนในต้นไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: ไม้ Sugar Pine ทำงานได้ดีกับทั้งเครื่องมือและเครื่องจักร ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: แม้ว่าจะไม่เด่นชัดเท่าพันธุ์ไม้ Southern Yellow Pine หลายสายพันธุ์ แต่ไม้ Sugar Pine มีกลิ่นจางๆ ในขณะที่กำลังทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม้ Sugar Pine ถูกตัดอย่างกว้างขวาง เพื่อใช้เป็นไม้สำหรับงานก่อนสร้าง (โดยเฉพาะในแคลิฟอร์เนีย) เป็นสมาชิกของกลุ่มไม้ White Pine และขายกับสายพันธุ์อื่นแทนกันได้ ราคาอยู่ในระดับปานกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้ออ่อนในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ลัง, กล่อง, งานตกแต่งภายใน, ไม้สำหรับงานก่อสร้าง และเครื่องดนตรี (คีย์เปียโน)


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/sugar-pine/

Spruce Pine

ชื่อสามัญ:  Spruce Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus glabra

ถิ่นกำเนิด:  ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา (ที่ราบชายฝั่ง)

ควาสูงลำต้น: 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  33 lbf/ft3 (525 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ :  0.42,0.52

ความแข็ง : 700 lbf (3,110 N)

การแตกหัก : 10,300 lbf/in2 (71.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,405,000 lbf/in2 (9.69 Gpa)

แรงอัดแตก:  5,660 lbf/in2 (39.0 Mpa)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Spruce Pine ทำงานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ใช้ร่วมกันในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีการกระจายพันธุ์ความหนาแน่นต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ และจำหน่ายตามความต้องการไม้ในท้องถิ่นและการผลิตไม้อัด ไม้บางครั้งขายเป็นไม้ Southern Yellow Pineในราคาปานกลาง

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้ Southern Yellow Pineใช้สำหรับงานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/spruce-pine/

Slash Pine

ชื่อสามัญ:  Slash Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus elliottii

ถิ่นกำเนิด:  ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่เพาะปลูก

ความสูงลำต้น: 60-100 ฟุต หรือ 18-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง:  2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  28 lbs/ft3 (450 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.54,0.66

ความแข็ง : 760 lbf (3,380 N)

การแตกหัก :  16,300 lbf/in2 (112.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,980,000 lbf/in2 (13.70 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,140 lbf/in2 (56.1 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.4%, Tangential: 7.6%, Volumetric: 12.1%, T/R Ratio: 1.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานต่อการผุกร่อนในระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Slash Pineใช้งานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ใช้ร่วมกันในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายทั่วไปในฐานะไม้ก่อสร้างในราคาย่อมเยา

 ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: งานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/slash-pine/

shortleaf Pine

ชื่อสามัญ:  Shortleaf Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus echinata

ถิ่นกำเนิด:  ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ปลูกกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่เพาะปลูก

ความสูงลำต้น: 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง:  2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  35 lbf/ft3 (570 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.47, 0.57

ความแข็ง : 690 lbf (3,070 N)

การแตกหัก : 13,100 lbf/in2 (90.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,750,000 lbf/in2 (12.10 GPa)

แรงอัดแตก:  7,270 lbf/in2 (50.1 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.6%, Tangential: 7.7%, Volumetric: 12.3%, T/R Ratio: 1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Shortleaf Pineใช้งานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี แต่ไม้อาจจะมีสีคล้ำหลังถูกตัด

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ใช้ร่วมกันในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายทั่วไปในรูปแบบไม้สำหรับงานก่อสร้างในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: งานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/shortleaf-pine/

Scots Pine

ชื่อสามัญ:  Scots Pine, Scotch pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus sylvestris

ถิ่นกำเนิด:  มีถิ่นกำเนิดในยุโรปและเอเชียเหนือ ปลูกในนิวซีแลนด์และทางตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกกลางของสหรัฐอเมริกา

ความสูงลำต้น: 65-115 ฟุต หรือ 20-35 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  34 lbf/ft3 (550 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.39, 0.55

ความแข็ง : 540 lbf (2,420 N)

การแตกหัก :  12,080 lbf/in2 (83.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,461,000 lbf/in2 (10.08 Gpa)

แรงอัดแตก : 6,020 lbf/in2 (41.5 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.2%, Tangential: 8.3%, Volumetric: 13.6%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อน กระพี้มีสีเหลืองอ่อนถึงเกือบขาว

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความทนทานต่อการผุพังปานกลางถึงไม่ทนทาน รักษาไม้ได้ง่ายด้วยน้ำยารักษาเนื้อไม้ ถูกนำไปใช้กับงานภายนอก เช่น เสาหรือเสาไฟฟ้า

ความสามารถในการใช้: ไม้ Scots Pine ทำงานได้ดีกับทั้งเครื่องมือและเครื่องจักร ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: ไม้ Scots Pine มีกลิ่นยางเล็กน้อยเมื่อใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Scots Pine ใช้เป็นไม้สำหรับงานก่อสร้างและเยื่อกระดาษ ราคาจะอยู่ในระดับปานกลางในไม้ที่เจริญเติบโตตามธรรมชาติ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป:  เสาไฟฟ้า, เสา, กล่อง/ลังไม้, งานพื้น, กระดาษ (เยื่อกระดาษ) และไม้สำหรับงานก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/scots-pine/

Sand Pine

ชื่อสามัญ:   Sand Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus clausa

การกระจายพันธุ์:  ตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา (ฟลอริดาและชายฝั่งอลาบามา)

ควาสูงลำต้น: 16-30 ฟุต หรือ 5-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1 ฟุต หรือ 0.3 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  34 lbf/ft3 (545 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.46, 0.55

ความแข็ง : 730 lbf (3,250 N)

การแตกหัก : 11,600 lbf/in2 (80.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,410,000 lbf/in2 (9.72 Gpa)

แรงอัดแตก:  6,920 lbf/in2 (47.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.9%, Tangential: 7.3%, Volumetric: 10.0%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้กว้าง มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้ Sand Pineใช้งานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัวที่ใช้ร่วมกันในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: โดยทั่วไปจะตัดจำหน่ายเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นไม้สำหรับงานก่อสร้าง ต้นที่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก จะถูกจำหน่ายและผสมกับสายพันธุ์อื่น เช่น ไม้ Southern Yellow Pine ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปเป็นไม้ก่อสร้างในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าที่รุนแรง ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงถึงการลดลงของไม้ในขณะนี้

การใช้งานทั่วไป: สะพาน, คาน, เสา, รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/sand-pine/

Red Pine

ชื่อสามัญ:  Red Pine, Norway Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus resinosa

การกระจายพันธุ์:  ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  34 lbf/ft3 (545 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.41, 0.55

ความแข็ง : 560 lbf (2,490 N)

การแตกหัก : 11,000 lbf/in2 (75.9 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,630,000 lbf/in2 (11.24 Gpa)

แรงอัดแตก:  6,070 lbf/in2 (41.9 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.8%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 11.3%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อน กระพี้มีสีเหลืองอ่อนถึงเกือบขาว

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางและให้ความรู้สึกมันเงา

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลางถึงไม่ทนทานโดยพิจารณาจากความต้านทานการผุกร่อน ไม้ Red Pine รักษาไม้ได้ง่ายด้วยน้ำยารักษาเนื้อไม้ และหลังจากนั้นสามารถใช้กับงานภายนอกได้ เช่น เสาหรือเสาไฟฟ้า

ความสามารถในการใช้: ไม้ Red Pine ใช้งานง่ายทั้งด้วยเครื่องมือและเครื่องจักร ใช้กับงานกาวได้ดี แม้ว่าจะมียางไม้ส่วนเกินทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับการยึดเกาะของสีกับตัวไม้ในบางครั้ง

 

กลิ่น: ไม้ Red Pine มีกลิ่นยางชัดเจนเมื่อทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Red Pine บางครั้งผสมกับไม้ spruce, pine และ fir ประทับตราด้วยตัวย่อไม้ในไม้แปรรูปว่า “SPF” มีจำหน่ายทั่วไปในรูปแบบไม้สำหรับงานก่อสร้างในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: เสาไฟฟ้า, เสา, รางรถไฟ, กระดาษ (เยื่อกระดาษ) และไม้สำหรับก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/red-pine/

Radiata Pine

ชื่อสามัญ:   Radiata Pine, Monterey Pine, Insignis Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus radiata

ถิ่นกำเนิด:  มีถิ่นกำเนิดในชายฝั่งตอนกลางและตอนใต้ของแคลิฟอร์เนีย อีกทั้งยังปลูกแพร่หลายทั่วซีกโลกใต้

ความสูงลำต้น: 80-100 ฟุต หรือ 24-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  32 lbf/ft3 (515 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.41, 0.51

ความแข็ง : 710 lbf (3,150 N)

การแตกหัก : 11,480 lbf/in2 (79.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,458,000 lbf/in2 (10.06 Gpa)         

แรงอัดแตก:  6,030 lbf/in2 (41.6 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.4%, Tangential: 6.7%, Volumetric: 10.7%, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อน กระพี้กว้างมีสีขาวอมเหลืองซีดและแยกจากแก่นไม้ ชัดเจน ปลูกในพื้นที่เพาะปลูกและทั่วไป มีวงการเจริญเติบโตที่กว้างมากและไม่มีตาไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้ได้รับการจัดอันดับว่าไม่ทนทานถึงเน่าเสียง่ายในแง่ของความต้านทานการผุกร่อน กระพี้ได้รับการรักษาง่ายด้วยสารกันบูดและใช้สำหรับการใช้งานกลางแจ้ง

ความสามารถในการใช้: ส่วนของไม้ง่ายต่อการทำงานด้วยเครื่องมือและเครื่องจักร ใช้กับงานกาวได้ดี

กลิ่น:  ไม้ Radiata Pine มีกลิ่นยางจางๆ ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Radiata Pine ปลูกได้เฉพาะในพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะในชิลี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ราคาอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้า แต่มีราคาแพงกว่าไม้สนหรือไม้เนื้ออ่อนในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) แม้ว่าต้นไม้นี้ถูกปลูกอย่างกว้างขวางในพื้นที่เพาะปลูก แต่ตามพื้นที่ในธรรมชาติไม้ชนิดนี้ มักติดเชื้อจากโรคเชื้อราที่เรียกว่า Pine Pitch Canker

การใช้งานทั่วไป: แผ่นไม้อัด, ไม้อัด, กระดาษ (เยื่อกระดาษ), กล่อง/ลัง และไม้สำหรับงานก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/radiata-pine/

Ponderosa Pine

ชื่อสามัญ:  Ponderosa Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus ponderosa

ถิ่นกำเนิด:  ทางตะวันตกของอเมริกาเหนือ

ความสูงลำต้น: 100-165 ฟุต หรือ 30-50 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-4 ฟุต หรือ 0.6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   28 lbf/ft3 (450 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.38, 0.45

ความแข็ง : 460 lbf (2,050 N)

การแตกหัก :  9,400 lbf/in2 (64.8 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,290,000 lbf/in2 (8.90 Gpa)          

แรงอัดแตก:  5,320 lbf/in2 (36.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.9%, Tangential: 6.2%, Volumetric: 9.7%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: ไม้ Ponderosa Pine ใช้งานง่ายทั้งด้วยเครื่องมือและเครื่องจักร ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: ไม้ Ponderosa Pine มีกลิ่นยางจางๆ ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ/หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ponderosa Pine มีการกระจายพันธุ์กว้างมากทั่วภาคตะวันตกของทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นไม้แปรรูปที่สำคัญที่สุดพันธุ์หนึ่งในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา มีจำหน่ายทั่วไปในรูปแบบไม้สำหรับงานก่อสร้างในราคาย่อมเยา ไม้ Ponderosa Pine บางส่วนผสมกับไม้ Lodgepole Pine และขายรวมกันเป็นไม้ก่อสร้างภายใต้ตราประทับ “PP/LP”

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: แผ่นไม้อัด, ไม้อัด, งานไม้กำบัง, แผ่นรองพื้น, กล่อง, ลังไม้, เสา, งานตกแต่งภายใน, ตู้เก็บของ และไม้สำหรับงานก่อสร้าง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/ponderosa-pine/

Pond Pine

ชื่อสามัญ:   Pond Pine, Marsh Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus serotina

การกระจายพันธุ์:   ภาคตะวันออกของสหรัฐอเมริกา (บริเวณที่ราบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก)

ความมสูงลำต้น: 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   38 lbf/ft3 (610 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.51, 0.61

ความแข็ง :  740 lbf (3,290 N)

การแตกหัก :  11,600 lbf/in2 (80.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,750,000 lbf/in2 (12.07 Gpa)

แรงอัดแตก:   7,540 lbf/in2 (52.0 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.1%, Tangential: 7.1%, Volumetric: 11.2%, T/R Ratio: 1.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้กว้าง มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน:  แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วไม้Pond Pine ใช้งานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะใช้ร่วมในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ อาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Pond Pine จำหน่ายและผสมกับพันธุ์อื่น ๆ เช่น ไม้Southern Yellow Pine ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปในรูปแบบไม้ก่อสร้างในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: งานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/pond-pine/

Pitch Pine

ชื่อสามัญ:   Pitch Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus rigida

การกระจายพันธุ์:   ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

ความสูงลำต้น: 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2 ฟุต หรือ 0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   34 lbf/ft3 (545 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ :   0.47, 0.55

ความแข็ง : 620 lbf (2,760 N)

การแตกหัก : 10,800 lbf/in2 (74.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,430,000 lbf/in2 (9.86 Gpa)

แรงอัดแตก:  5,940 lbf/in2 (41.0 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.0%, Tangential: 7.1%, Volumetric: 10.9%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: ใช้งานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมียางไม้ติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะที่ใช้ร่วมกันในไม้สกุล Pinus

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ อาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Pitch Pine จำหน่ายและผสมกับสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น ไม้ Southern Yellow Pine ซึ่งหาซื้อได้ทั่วไปในรูปแบบไม้งานก่อสร้างในราคาย่อมเยา

 ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้ Southern Yellow Pine สำหรับงานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/pitch-pine/

Pinyon Pine

ชื่อสามัญ:   Pinyon Pine, Two-needle Pinyon, Colorado Pinyon

ชื่อวิทยาศาสตร์: Pinus edulis

การกระจายพันธุ์:  ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกาและทางตะวันตกเฉียงเหนือของเม็กซิโก

ความสูงลำต้น: 30-50 ฟุต หรือ 9-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   37 lbf/ft3 (595 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.50, 0.59

ความแข็ง :  860 lbf (3,830 N)

การแตกหัก :  7,800 lbf/in2 (53.8 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,140,000 lbf/in2 (7.86 Gpa)

แรงอัดแตก:   6,400 lbf/in2 (44.1 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.6%, Tangential: 5.2%, Volumetric: 9.9%, T/R Ratio: 1.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ลำต้นสั้น อ้วน จึงมักพบตาไม้และลายไม้อื่นๆ ที่ผิดปกติ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้ไม่สม่ำเสมอและเต็มไปด้วยตาไม้ โดยมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงละเอียด

ความทนทาน:  โดยปกติไม้ Pinyon Pine ไม่ได้ถูกทำเป็นไม้สำหรับงานก่อสร้าง จึงไม่มีการทดสอบความทนทาน แต่มีการศึกษาเกี่ยวกับต้นไม้ยืนต้นที่ตายแล้ว บ่งชี้ว่าต้นไม้ชนิดนี้มีความทนทานปานกลาง

ความสามารถในการใช้:  ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: ไม้ Pinyon Pine มีกลิ่นยางเมื่อทำงาน ต้นไม้ Pinyon Pine ยังเป็นที่รู้จักในด้านกลิ่นหอมที่โดดเด่นเมื่อนำมาเผาเป็นฟืน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เนื่องจากเป็นไม้ขนาดเล็กและลำต้นสั้น จึงไม่ถูกเก็บเกี่ยวเพื่อใช้เป็นไม้สำหรับงานก่อสร้างในเชิงพาณิชย์

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: ไม้ฟืน, กระดาษ (เยื่อกระดาษ), ถ่าน และไม่ตัดท่อน


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/pinyon-pine/