น้ำตาลเข้ม

Tali

ชื่อสามัญ: Tali

ชื่อวิทยาศาสตร์: Erythrophleum suaveolens

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกาตะวันตก กลาง และตะวันออก ส่วนใหญ่อยู่ในกินี สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก

ความสูงลำต้น: 131-164 ฟุต 40-50 เมตร

เส้นผ่าศูนย์กลางลำต้น: 80-100 เซนติเมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 1,100 – 1,200 (กก./ลบ.ม.)

ความถ่วงเฉพาะ:  0.91 Mc

ความแข็ง (Janka): 2,320 lbf/in2

โมดูลัสยืดหยุ่น:  15,700 lbf/in2

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : ไม้มีสีน้ำตาลเหลืองส้มถึงน้ำตาลแดง Tali จากแอฟริกาตะวันออกมีสีอ่อนกว่า กระพี้มีการแบ่งเขตอย่างชัดเจน ลายไม้ประสานกันและเนื้อสัมผัสหยาบ

กลิ่น :  -

ความต้านทานการเน่า :  ป้องกันปลวกมอดได้ดี

ความเป็นพิษ : ผงหรือฝุ่นไม้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ

การใช้งานได้ : เหมาะสำหรับการใช้งานภายใน และเหมาะกับการทำโครงสร้างที่ไม่ต้องการรับน้ำหนักมาก เช่น โต๊ะ เตียง ตู้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ

 

Tali ที่เพิ่งแปรรูปจะมีสีเหลืองถึงน้ำตาลส้ม หลังจากสัมผัส ไม้จะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลแดงเข้ม กระพี้ขนาดเล็ก (สูงสุด 60 ซม.) มีสีเทาอมเหลืองถึงสีเทาเข้ม และอาจแยกความแตกต่างจากแก่นไม้ได้ Tali มีสีที่แตกต่างกันมาก ซึ่งเกิดจากสภาพการเจริญเติบโตที่แตกต่างกัน บางครั้งอาจเกิดเส้นสีเข้มขึ้นได้ โครงสร้างไม้มีความสม่ำเสมอ แต่เชื่อมต่อกัน และเนื้อสัมผัสมีความหยาบปานกลางถึงหยาบ

Makha

ชื่อสามัญ: Makha Wood, Maka, Afzelia Burl, Burl Wood

ชื่อวิทยาศาสตร์: Afzelia xylocarpa

ถิ่นกำเนิด: เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และพม่า

ความสูงลำต้น: 85 ฟุต - 130 ฟุต (26  - 40 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 6.5 ฟุต (2 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 51.5 lbf/ft3 (825 kg/m3 )

ความถ่วงเฉพาะ: 12% Mc

ความแข็ง (Janka):  1,980 lbf (8,820 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว: 17,210 lbf/in2 (118.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น:  1,939,000 lbf/in2 (13.37 Gpa)

แรงอัด:  9,960 lbf/in2 (68.7 Mpa)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้มะค่าเป็นสีน้ำตาลส้มมีลายไม้ตรง แก่นไม้มะค่ามีสีเหลืองแดงและอาจเข้มพอๆ กับสีน้ำตาลแดง กระพี้เป็นสีขาวเทา เปลือกของไม้มะค่านั้นจะมีสีน้ำตาลอ่อนหรือออกชมพูอมน้ำตาล ก้านใบจะมีขนาดสั้นเรียงติดกัน

ความต้านทานการเน่า : ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลางต่อปลวกและหนอนเจาะทะเล และทนทานไวต่อการโจมตีของแมลงอื่นๆ หลากหลาย

ความเป็นพิษ : สายพันธุ์เอเชียจะทำให้เกิดปฏิกิริยาที่คล้ายกัน ซึ่งรวมถึงการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดวงตา และทางเดินหายใจ

การใช้งานได้ : เฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ พื้น  งานสีภายนอกและการก่อสร้าง และสินค้าไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ

ไม้มะค่าเป็นไม้เนื้อแข็งหายาก มีคุณค่าสูง ให้ความสวยงามโดดเด่น ไม้มีความแข็ง หนัก และหนาแน่น และมีลายที่สวยงามเมื่ออายุมากขึ้น ไม้นี้มีรูปร่างที่ประณีตและมีคุณค่าสูงเนื่องจากเป็นไม้สีแดงที่น่าดึงดูดและหรูหรา ส่วนใหญ่จะใช้ในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ พื้น การตัดแต่ง และการก่อสร้างเครื่องดนตรีชั้นดี

Wenga

ชื่อสามัญ: Wenge

ชื่อวิทยาศาสตร์: Millettia laurentii

ถิ่นกำเนิด: สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก แคเมอรูน กาบอง และอิเควทอเรียลกินีแอฟริกากลาง

ความสูงลำต้น: 60-90 ฟุต (18-27 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 3-4 ฟุต (1-1.2 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 54.2 lbf/ft3 (870 kg/m3 )

ความถ่วงเฉพาะ: 0.72, 0.87

ความแข็ง (Janka): 1,930 lbf (8,600 N)

โมดูลัสการแตกร้าว: 21,990 lbf/in2 (151.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น : 2,550,000 lbf /in2 (17.59 Gpa)

แรงบด : 11,710 lbf/in2 (80.7 Mpa)

โมลัสการหดตัว : รัศมี 4.8%

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : เนื้อไม้มีสีน้ำตาลถึงดำ และมีเส้นเหลืองหรือน้ำตาลอ่อน ลายไม้มีลักษณะตรงและมีเนื้อหยาบมาก ความมันวาวตามธรรมชาติต่ำ

ความเป็นพิษ : ฝุ่นหรือละออง ทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาทส่วนกลาง ปวดท้อง การระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา ฝุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อตัดหรือขัดทรายอาจทำให้เกิดโรคผิวหนังได้

การใช้งานทั่วไป : ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องดนตรี

Paduak

ชื่อสามัญ: African padauk, vermillion

ชื่อวิทยาศาตร์: Pterocarpus soyauxii

ถิ่นกำเนิด: กาบอง แคเมอรูน ชาด เซาตูแมอีปริงซีป สาธารณรัฐคองโก สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกสาธารณรัฐแอฟริกากลาง อิเควทอเรียลกินี แองโกลา และเขตตะวันตก

ความสูงลำต้น: 100-130 ฟุต (30-40 เมตร)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น: 2-4 ฟุต (6-12 เมตร)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 46.5 lbf/ft3 (745 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.63, 0.75 Mc

ความแข็ง (Janka): 1,710 lbf  (7,580 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว: 18,380 lbf  (126.7 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น: 1,895,000 lbf/in2 (13.07 Gpa)

แรงอัด: 9,240 lbf

การหดตัว: รัศมี 3.1%

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

เเตะรูปเพื่อดูทั้งหมด

สี/ลักษณะ : สีของไม้อาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่สีส้มอมชมพูอ่อนไปจนถึงสีเลือดหมู จะมีสีส้มแดงเมื่อตัดหรือขัดใหม่ๆ และจะเข้มขึ้นอย่างมากเมื่อเวลาผ่านไปจนกลายเป็นสีน้ำตาลแดง (บางครั้งอาจมีสีอ่อนกว่าอาจเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอมเทาได้) ถึงแม้จะมีการเคลือบผิวด้วยน้ำมันแลคเกอร์หรือยูริเทรน แต่ไม่ได้ป้องกันการเปลี่ยนสีของไม้เมื่อเวลาผ่านไป

กลิ่น : ไม้ประดู่เป็นไม้เนื้อแข็งมีกลิ่นหอม เนื้อไม้ละเอียดปานกลาง แต่มีความแข็งแรงทนทานสูงพอ ๆ กับไม้แดงแต่อัตราการหดตัวน้อยกว่า เนื้อไม้ประดู่มีหลายสี เช่น สีแดงอมเหลือง สีชมพูอมส้ม และสีอิฐแก่

 ความต้านทานการเน่า : มีความทนทานต่อการผุกร่อน สามารถต้านทานปลวกและแมลงอื่นๆ ได้

 ความเป็นพิษ : ผงหรือฝุ่นไม้ประดู่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ

 การใช้งานได้ : ประดู่โดยรวมนั้นใช้งานง่าย แม้ว่าอาจจะเกิดการแตกร้าวได้เมื่อไสหรือเลื่อย แต่ประดู่มีความแข็งมากเมื่อถูกตัดหรือผ่าตามเสี้ยนไม้ จึงนิยมนำไปใช้ทำด้ามจับประตู ด้ามจับอุปกรณ์ หรือเครื่องมือช่างอื่นๆ

        ไม้วงศ์ Pterocarpus อยู่ในบัญชีรายชื่อของ CITES (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือเรียกโดยย่อว่า CITES) ซึ่งรวมถึงไม้ประดู่แอฟริกาด้วย แต่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อของ IUCN (องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ International Union for Conservation of Nature and Natural Resources)

Louro preto

ชื่อสามัญ:  Louro Preto, Laurel Negro

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cordia spp. (C. megalantha, C. glabrata)

การกระจายพันธุ์:  เขตร้อนของทวีปอเมริกา ทางใต้ของอเมริกาถึงบราซิล

ขนาดต้นไม้: สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  52.7 (lbf/ft3) 845(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.74,0.84

ความแข็ง : 2,200 (lbf) 9,790 (N)

การแตกหัก :  17,610 lbf/in2 (121.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,580,000  lbf/in2 (10.90 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,270lbf/in2  (63.9Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.0%, Tangential: 7.4%, Volumetric: 11.6 %, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลปานกลางแต้มสีแดง (หรือบางครั้งก็เป็นสีเขียวมะกอก) แบ่งแยกกันอย่างชัดเจนจากสีซีดของกระพี้  แก่นไม้ มีริ้ว ลาย สีน้ำตาลเข้มขึ้นทั่วไปและจะมีสีเข้มขึ้นตามอายุของไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:
เสี้ยนเนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลางและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ Louro Preto มีความทนทานสูง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้ว Louro Preto ทำงานได้อย่างง่ายดายและให้ผลลัพธ์ที่ดี แต่ในบางสายพันธุ์อาจมีซิลิกา(ความแข็งแรงผนังเซลล์ของไม้)ที่จะส่งผลกระทบทำให้ใบมีด คมตัดทื่อได้ แม้ว่าไม้จะมีปริมาณน้ำมันธรรมชาติอยู่มากพอสมควร แต่ไม่มีปัญหาเมื่อใช้งานร่วมกับกาว (ดูข้อมูลเพิ่มเติม gluing oily tropical hardwoods สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม)และใช้ไม้ในงานกลึงได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นหอมที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวของไม้

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพ เรื่องฝุ่นไม้ Louro Preto ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก อย่างไรก็ตามไม้ Louro Preto มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับไม้ Bocoteมาก ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ข้ามกลุ่มเมื่อเกิดภาวะแพ้ต่อไม้บางชนิดไม้ที่อาจทำให้เกิดอาการเบื้องต้น ได้แก่ Pau Ferro, Macassar Ebony, Cocobolo, และ most Rosewoods ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ราคาไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าสายพันธุ์นี้มีแนวโน้มที่จะสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ไม้วีเนียร์ และไม้กลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/louro-preto/

Black locust

ชื่อสามัญ:  Black locust, robinia, false acacia

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Robinia pseudoacacia

การกระจายพันธุ์:  ภาคกลางถึงภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกา (ยังแปลงสัญชาติอย่างกว้างขวางในพื้นที่เขตอบอุ่นหลายแห่งทั่วโลก)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  48 (lbf/ft3) 770 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.66, 0.77

ความแข็ง : 1,700 (lbf)  7,560  (N)

การแตกหัก  : 19,400  lbf/in2 (133.8 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,050,000  lbf/in2  (14.141  Gpa)

แรงอัดแตก:  10,200 lbf/in2  (70.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.6%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 10.2 %, T/R Ratio: 1.6

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ลักษณะ: สีมีตั้งแต่สีเขียวแกมเหลืองซีดไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม และมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลปนแดงตามอายุของไม้ ในบางกรณีอาจสับสนกับไม้osage orange และไม้honey locust

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:เสี้ยนเนื้อไม้มักจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าความทนทานมาก มีคุณสมบัติพิเศษทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี มักใช้เป็นเสารั้วเพื่อเป็นการยืดอายุในการใช้งานกลางแจ้ง

ความสามารถในการใช้: ลักษณะการใช้งานโดยรวมของ ไม้ Black locust แม้ว่าเสี้ยนเนื้อไม้มักจะมีลักษณะเป็นเส้นตรง แต่ความหนาแน่นและความแข็งสูงส่งผลกระทบต่อการใช้เครื่องมือ คมตัด ให้ทื่อได้ในระดับปานกลาง แต่สามารถใช้ได้ดีกับกาว การกลึง/เครื่องกลึง และตอบสนองได้ดีต่อการดัดด้วยไอน้ำ

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Black locust ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและผิวหนัง รวมทั้งมีอาการคลื่นไส้(พบได้น้อย) ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:
ราคาของไม้ Black locust ขึ้นอยู่กับสถานที่ แต่ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางภายในช่วงตามธรรมชาติผู้ที่อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศสหรัฐอเมริกามักจะคาดหวังว่าราคาจะพอเทียบได้กับ white oak ในพื้นที่อื่นที่มีการนำเข้าไม้แปรรูป ราคาอาจจะสูงขึ้นมาก

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) นอกจากนี้สายพันธุ์นี้แพร่หลายอย่างมาก

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเสารั้ว, อุปกรณ์ต่อเรือ, พื้น, เฟอร์นิเจอร์, โครงสร้างเหมือง, รางรถไฟ, ไม้กลึง และไม้วีเนียร์


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/black-locust/

beef

ชื่อสามัญ:  Beefwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Grevillea striata                                                   

การกระจายพันธุ์:  ออสเตรเลียตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 30-45 ฟุต หรือ 10-14 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  60 lbf/ft3 (965 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.78,0.96

ความแข็ง : 2,420 lbf (10,770 N)

การแตกหัก :  13,630 lbf/in2 (94.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,030,000 lbf/in2 (14.00 Gpa)      

แรงอัดแตก : 7,830 lbf/in2 (54.0 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.5%, Tangential: 5.8%, Volumetric: 9.3%, T/R Ratio: 1.

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: มีสีน้ำตาลแดงปานกลางถึงน้ำตาลเข้ม เส้นรัศมีของไม้มีสีเทาอมแดงอ่อนคล้ายกับลายของเนื้อดิบ (ตามชื่อของไม้) แสดงให้เห็นรูปร่างที่สุดในชิ้นไม้ที่ตัดผ่าสี่ (เช่น Sycamore ไม้จำพวกพวกมะเดื่อ)   Beefwood ยังมีรูปทรงที่เด่นชัดที่สุดและแสดงจุดด่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อถูกเลื่อยไม้ผ่าสี่ เป็นเพราะมีรัศมีเนื้อไม้ที่กว้างทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนที่สุด แสดงให้เห็นที่หน้าตัดหัวไม้ส่วนบน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง)และมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล

ความสามารถในการใช้: ค่อนข้างยากในการทำงานเนื่องจากไม้มีความหนาแน่นสูงและมีแนวโน้มที่จะฉีกขาดในระหว่างการไส สามารถใช้งานกับกาวและการกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานผลเสียต่อสุขภาพสำหรับไม้ Beefwood โดยเฉพาะ แต่มีรายงานว่า Southern Silky Oak (Grevillea robusta)ไม้ที่ใกล้เคียงกับไม้ Beefwood  ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาและผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำนวนจำกัดภายในออสเตรเลีย ไม้ Beefwood แทบไม่เคยมีจำหน่ายในตลาดอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ราคาเป็นไปได้ที่จะสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: งานฝังไม้ เครื่องไม้ประดับมุก งานกลึง และงานพิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/beefwood/

lead

ชื่อสามัญ:  Leadwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Combretum imberbe

การกระจายพันธุ์:  จากแอฟริกาใต้ทางเหนือจนถึง แทนซาเนีย

ขนาดต้นไม้: สูง 32-64 ฟุต หรือ 10-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 1-2 ฟุต 0.3-0.6เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  76 (lbf/ft3) 1220(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.96,1.22

ความแข็ง : 3,570 (lbf) 15,880 (N)

การแตกหัก :  20,960 lbf/in2 (144.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,494,000 lbf/in2 (17.20 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,950 lbf/in2  (68.6Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.0%, Tangential: 4.7%, Volumetric: 6.8 %, T/R Ratio: 2.4*

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงถึงสีน้ำตาลเข้ม สีของแก่นไม้จะเข้มขึ้นตามอายุของแก่นไม้ กระพี้แบ่งแยกอย่างชัดเจนเป็นสีเหลืองซีด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ปมไม้และจุดบกพร่องมองเห็นได้เป็นเรื่องปกติ ผิวสัมผัสเนื้อละเอียดสม่ำเสมอ

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ Leadwood มีความทนทานสูงทนทานต่อแมลงและทนต่อสภาพอากาศได้ดี

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไป Leadwood ถือว่ายากที่จะใช้งานเนื่องจากความหนาแน่นที่มีสูงของ ไม้Leadwood ต้องใช้เครื่องมือ คมตัดที่ต้องคมมากเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของเสี้ยนเนื้อไม้ และยังส่งผลให้เกิดปัญหาระหว่างการใช้กาวในการทำงานอีกด้วย แต่สามารถใช้ได้ดีกับงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานเฉพาะเกี่ยวกับ Combretum imberbe แต่พบว่าสายพันธุ์อื่นในสกุล Combretum (โดยเฉพาะ C. kraussii) ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Leadwoodไม่ได้มีขายมากนัก ในบางครั้งพบในรูปแบบไม้กลึง/แท่งและไม้ท่อนขนาดเล็ก ราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าพันธุ์นี้มีแนวโน้มที่จะราคาสูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้แกะสลัก, เฟอร์นิเจอร์, ไม้กลึง, และรายการสินค้าพิเศษขนาดเล็กๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/leadwood/

Indian laurel

ชื่อสามัญ:  Indian Laurel

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Terminalia elliptica (syn. T. tomentosa)

การกระจายพันธุ์:  เอเชียใต้ (โดยเฉพาะอินเดียและพม่า)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6 -1เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  54 (lbf/ft3) 855 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.73, 0.86

ความแข็ง : 2,340 (lbf) 10,390 (N)

การแตกหัก :  14,710 lbf/in2 (101.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,806,000 lbf/in2  (12.46 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,220 lbf/in2  (56.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.8%, Tangential: 7.4%, Volumetric: 13.2 %, T/R Ratio: 1.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม โดยมีริ้วลายสีเข้มเกือบเป็นสีดำ กระพี้เป็นสีชมพูอ่อน แบ่งแยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงหรือประสานกันเล็กน้อยไม่สม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบและมีความมันวาวในระดับต่ำเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ได้รับการจัดลำดับว่ามีความทนทานปานกลาง และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการใช้งาน แม้ว่าส่วนของเสี้ยนเนื้อไม้บิดตัวกันเป็นเกลียวประสานกันหรือไม่สม่ำเสมอจะมีปัญหามากกว่า และสามารถใช้ในงานกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Indian Laurel ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่เป็นไม้วีเนียร์ใช้สำหรับตกแต่ง คาดว่าราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้าชนิดนี้จะอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ ตู้โชว์ อุปกรณ์การต่อเรือ ไม้กลึง และงานพิเศษขนาดเล็กๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/indian-laurel/