ทอง

Iroko

ชื่อสามัญ: Iroko

ชื่อวิทยาศาสตร์: Milicia excelsa, M. regia (syn. Chlorophora excelsa, C. regia)

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกาเขตร้อน

ความสูงลำต้น: 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 41 lbf/ft3 (660 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.55, 0.66

ความแข็ง: 1,260 lbf (5,610 N)

การแตกหัก: 12,700 lbf/in2 (87.6 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,360,000 lbf/in2 (9.38 Gpa)

แรงอัดแตก: 7,840 lbf/in2 (54.0 Mpa)

การหดตัว: Radial: 2.8%, Tangential: 3.8%, Volumetric: 8.8%, T/R Ratio: 1.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
 kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

แตะเพื่อดูรูปทั้งหมด

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มักมีสีเหลืองถึงทองหรือน้ำตาลปานกลาง โดยสีจะเข้มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป กระพี้มีสีเหลืองอ่อนแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ไม้ Iroko ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบ รูขุมขนของเนื้อไม้เปิดและเป็นเสี้ยนสน

ความทนทาน: ไม้ Iroko มีความทนทานมาก ทนต่อการเน่าเปื่อยและการรุกรานของแมลง บางครั้งใช้แทนไม้สัก(Teak)

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปใช้งานง่าย ยกเว้นเสี้ยนสนซึ่งอาจทำให้เกิดการฉีกขาดระหว่างการทำพื้นผิว นอกจากนี้บางครั้งยังมีคราบแคลเซียมคาร์บอเนตสะสมอยู่ซึ่งอาจมีผลทำให้ใบมีดทื่ออย่างเห็นได้ชัด ไม้ Iroko ใช้ได้ดีกับกาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างพบได้บ่อย แต่ไม้ Iroko ก็ถูกรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ โดยปกติแล้วปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดคือการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และการหายใจ ไม้ Iroko ยังสามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ ในบุคคลที่อ่อนไหว เช่น อาการคล้ายโรคหอบหืด ฝี และปอดอักเสบจากภูมิไวเกิน ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Iroko นำเข้าและจำหน่ายในราคาปานกลาง นอกจากนี้ยังสามารถเห็นแผ่นไม้อัดสำหรับขายและมีราคาย่อมเยาเช่นเดียวกัน

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่อยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากการลดลงของจำนวนไม้มากกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงของธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ พื้น เฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ การต่อเรือ งานกลึง และงานไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/iroko/

Sumac

ชื่อสามัญ:  Sumac, Staghorn Sumac

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Rhus spp. (Rhus typhina)

การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐอเมริกา

ขนาดต้นไม้:  สูง 30-40 ฟุต หรือ 10-12 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 6-12  นิ้ว หรือ 15-30 เซนติเมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   33 lbf/ft3 (530 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45, 0.53

ความแข็ง :   680 lbf (3,030 N)

การแตกหัก : 10,200 lbf/in2 (70.4 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,190,000 lbf/in2 (8.21 Gpa)

แรงอัดแตก:  5,940 lbf/in2 (41.0 Mpa)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  นอกจากไม้  Lignum Vitae แล้ว ไม้Sumac เป็นหนึ่งในไม้ไม่กี่ชนิดที่มีสีเหลืองถึงเขียวมะกอกอย่างสม่ำเสมอ กระพี้เป็นสีขาวอมเทา

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงถึงเสี้ยนสน มีผิวสัมผัวเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง ไม้Sumac มีความมันวาวตามธรรมชาติในระดับปานกลาง

ความทนทาน: ไม้Sumac ได้รับการจัดอันดับว่าไม่ทนทานถึงเน่าเสียง่ายในแง่ของความต้านทานการสลายตัว และยังไวต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้:  โดยทั่วไปแล้ว ไม้Sumac นั้นทำงานง่าย แต่ความหนาแน่นต่ำสามารถเกิดพื้นผิวที่ขรุขระซึ่งจำเป็นต้องทำให้ผิวเรียบด้วยการขัด

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ไม้Sumac ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง สปีชีส์ส่วนใหญ่ที่สร้างปฏิกิริยาทางผิวหนังอย่างรุนแรง (ส่วนใหญ่ผ่านการสัมผัสกับใบไม้) เช่นไม้ Posion Sumac อยู่ในสกุล Toxicodendron มากกว่าสกุล Rhus  ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  เนื่องจากขนาดที่เล็ก ไม้Sumac จึงไม่ใช่สายพันธุ์ที่มีความสำคัญทางการค้า ไม้Sumac ชิ้นเล็ก ๆ ถูกเก็บเกี่ยวเป็นครั้งคราวโดยผู้ชื่นชอบงานอดิเรกสำหรับงานไม้พิเศษ ราคาควรอยู่ในระดับปานกลาง

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  งานพิเศษขนาดเล็ก การแกะสลัก งานกลึง และการฝังไม้


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/sumac/

Mutenye

ชื่อสามัญ:  Mutenye, benge

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Guibourtia arnoldiana

การกระจายพันธุ์:  แอฟริกาตะวันตกกลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  49.8 (lbf/ft3) 800 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.64,0.80

ความแข็ง : 1,650 (lbf) 7,340 (N)

การแตกหัก :  22,090 lbf/in2 (152.3Mpa)

การยืดหยุ่น:   2,696,000 lbf/in2 (18.60 Gpa)

แรงอัดแตก:  11,590 lbf/in2  (79.9 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.2%, Tangential: 9.0%, Volumetric: 12.6 %, T/R Ratio: 1.7

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลทองถึงสีน้ำตาลแดง มักมีริ้วลายทางสีเข้ม บางครั้งอาจมีลวดลายเสี้ยนเนื้อไม้แนวคล้ายคลื่นหรือรูปแบบลวดลายของเสี้ยนเนื้อไม้ ส่วนกระพี้มีสีเหลืองอมเทาจะสว่างกว่าอย่างเห็นได้ชัด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อมีลักษณะเป็นแนวตรงจนถึงมีลักษณะเป็นเสี้ยนสน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดจนถึงหยาบปานกลาง และมีความมันวาวตามธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้ mutenye มีความทนทานต่อการผุกร่อน มีความทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง และทนทานต่อการกัดกินของปลวกได้ในระดับปานกลาง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการทำงานกับเครื่องจักรหรือผู้ทำงาน ส่วนที่มีเสี้ยนเนื้อไม้แนวตรง แม้ว่าเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสนอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของไม้ได้ระหว่างทำงาน ซิลิกาในเนื้อไม้ส่งผลให้คมตัดของเครื่องมือทื่อ ยางในเนื้อไม้บางครั้งอาจทำให้งานติดกาวทำได้ยากขึ้น

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ทุกประเภทแล้ว ไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับ ไม้mutenye อีกต่อไป
ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: เป็นไม้ที่ไม่พบบ่อยในอเมริกาเหนือ ไม้mutenye ควรมีราคาอยู่ในช่วงกลางถึงช่วงบนสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า มีความนิยมอย่างแพร่หลายในการใช้เป็นส่วนประกอบของกีตาร์อะคูสติกทั้งด้านหลังและด้านข้าง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับแผ่นไม้อัด ไม้ปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ ตู้ เครื่องดนตรี (หลังกีตาร์) งานกลึง และวัตถุไม้พิเศษอื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/mutenye/

Mimosa

ชื่อสามัญ:  Mimosa, silktree, pink siris

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Albizia julibrissin

การกระจายพันธุ์:  มีถิ่นกำเนิดในเอเชีย นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ

ขนาดต้นไม้: สูง 30-40 ฟุต หรือ 9-12 เมตร 

เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2 ฟุต 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  33.5 (lbf/ft3) 540 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.44, 0.54

ความแข็ง : 770 (lbf) 3,430 (N)

การแตกหัก :  ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่น:   ไม่มีข้อมูล

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีของแก่นไม้แตกต่างกันไปตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีทองเข้มหรือน้ำตาลแดง ส่วนกระพี้มีสีเหลืองซีดและแบ่งแยกจากส่วนของแก่นไม้ สีของแก่นไม้เข้มขึ้นตามอายุไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบค่อนข้างไม่สม่ำเสมอ มีความวาวตามธรรมชาติระดับปานกลาง

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม่คงทนถึงเน่าเปื่อย ผุพังได้ง่าย

ความสามารถในการใช้: ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า mimosa ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ปกติไม่ได้เก็บเกี่ยวในเชิงพาณิชย์สำหรับไม้แปรรูป ชิ้นส่วนไม้มีจำหน่ายเป็นครั้งคราวในรูปแบบงานอดิเรกหรือในโรงเลื่อยขนาดเล็กแบบกำหนดเอง ราคาควรจะอยู่ในช่วงกลางถึงช่วงบน สำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ งานฝีมือ และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/mimosa/

Ebiara

ชื่อสามัญ: Ebiara, Berlinia, Poculi, Red Zebrawood

ชื่อวิทยาศาสตร์: Berlinia spp. (B. auriculata, B. bracteosa, B. confusa, and B. grandiflora)

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 45 lbf/ft3 (725 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.58, 0.72

ความแข็ง : 1,280 lbf (5,690 N)

การแตกหัก : 15,890 lbf/in2 (109.6 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,616,000 lbf/in2 (11.14 Gpa)

แรงอัดแตก: 8,040 lbf/in2 (55.4 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.7%, Tangential: 8.7%, Volumetric: 13.2%, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีตั้งแต่น้ำตาลเหลืองทองไปจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม มักมีลวดลายและลายทางสีดำเข้ม กระพี้สีซีดมีการแบ่งเขตแยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ค่อนข้างจะเป็นเสี้ยนสนแม้ว่าจะสามารถเป็นเสี้ยนตรงได้ เนื้อไม้ค่อนข้างหยาบ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติดี

ความทนทาน: แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่โดยทั่วไปมีความทนทานปานกลาง ต้านทานแมลงได้ดี แม้ว่ากระพี้จะอ่อนแอต่อมอดขุย

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการใช้งานทั้งกับมือหรือเครื่องจักร แม้ว่าการไสไม้หรือการขัดแต่งพื้นผิวบริเวณเสี้ยนสนอาจส่งผลให้เกิดการฉีกขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนพื้นผิวไม้ผ่าสี่ ใช้ได้ดีกับกาวและการกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้แล้ว ยังไม่พบปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆกับไม้ Ebiara อีก ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ค่อนข้างใหม่สำหรับตลาดต่างประเทศ ไม้Ebiara มีจำหน่ายเป็นครั้งคราวในรูปแบบไม้แปรรูปหรือไม้วีเนียร์รวมถึงงานฝีมือขนาดเล็กและการกลึง ราคาอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)อย่างไรก็ตาม Berlinia บางชนิดถูกระบุว่าใกล้สูญพันธุ์ (B. hollandii) หรือมีความเสี่ยง (B. occidentalis และ B. orientalis) แม้ว่าจะไม่ปรากฏว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีการค้าขายกันทั่วไปในชื่อ Ebiara

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ ตู้ งานกลึง และชิ้นไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/ebiara/

Cheese

ชื่อสามัญ: Cheesewood, emien

ชื่อวิทยาศาสตร์: Alstonia congensis and A. boonei

การกระจายพันธุ์: แอฟริกากลางและตะวันตก

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 2-4 ฟุต หรือ 6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 23.6 lbf/ft3 (380 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.33, 0.38

ความแข็ง : 410 lbf (1,820 N)

การแตกหัก : 7,830 lbf/in2 (54.0 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,091,000 lbf/in2 (7.52 Gpa)

แรงอัดแตก : 4,400 lbf/in2 (30.3 Mpa)

การหดตัว : Radial: 3.8%, Tangential: 5.3%, Volumetric: 10.0%, T/R Ratio: 1.4

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลทอง ไม่ได้แบ่งเขตอย่างชัดเจนจากกระพี้บางครั้งมีท่อยางเป็นช่วงๆ และปรากฏเป็นรอยกรีดในไม้ ไม้ยังไวต่อการเกิดคราบเชื้อราหากไม่แห้งอย่างเหมาะสม

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มักเป็นเสี้ยนตรง หรือเสี้ยนคลื่นเล็กน้อย หรือเสี้ยนสน เนื้อไม้ละเอียดจนถึงหยาบปานกลาง มีความมันวาวเป็นธรรมชาติต่ำ

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่าเน่าเสียง่าย ความต้านทานแมลงไม่ดี

ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการใช้งานทั้งกับมือและเครื่องจักร มีคุณสมบัติดัดงอได้ไม่ดี ใช้ได้ดีกับงานกลึงและกาว

กลิ่น: สามารถมีกลิ่นไม่พึงประสงค์รุนแรงเมื่อเป็นไม้ดิบ/ไม้สด แต่ไม้แห้งไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่มีรายงานว่า ไม้ Cheesewood ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งอาจเป็นไปได้กับท่อน้ำยางที่พบในลำต้น บทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ปกติไม่มีการส่งออก ไม้ Cheesewood มักใช้ภายในประเทศสำหรับการก่อสร้าง ท่อน้ำยางในเนื้อไม้ (ทุกสองสามฟุต) สามารถจำกัดความพร้อมในการใช้งานชิ้นใสขนาดใหญ่ได้

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และถูกรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลน้อยที่สุด แต่อย่างไรก็ตามมีรายงานในระดับภูมิภาคว่า Alstonia congensis ใกล้สูญพันธุ์ในประเทศเบนินและไนจีเรีย

การใช้งานทั่วไป: การก่อสร้างภายใน เฟอร์นิเจอร์ (โดยเฉพาะเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิง) งานแกะสลัก และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/cheesewood/

Chanfuta

ชื่อสามัญ: Chanfuta, pod mahogany

ชื่อวิทยาศาสตร์: Afzelia quanzensis

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาตะวันออกไปถึงแอฟริกาใต้

ขนาดต้นไม้: ความสูง 66-82 ฟุต หรือ 20-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง :2-4 ฟุต หรือ 6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 52.1 lbf/ft3 (835 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.70, 0.84

ความแข็ง : 1,850 lbf (8,230 N)

การแตกหัก : 15,810 lbf/in2 (109.0 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,704,000 lbf/in2 (11.75 Gpa)

แรงอัดแตก : 9,570 lbf/in2 (66.0 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.3%, Tangential: 4.8%,Volumetric: 8.2%, T/R Ratio: 1.5

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีทองถึงน้ำตาลแดง กระพี้มีสีขาวอมเหลืองอ่อน สีมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นตามอายุ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน เนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ มันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่ามีความทนทานมาก ทนทานต่อปลวกในระดับปานกลาง และต้านทานต่อแมลงชนิดอื่นๆ ได้หลากหลาย แม้ว่าจะต้านทานเพรียงทะเลได้ดี

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปถือว่าค่อนข้างยากในการใช้งานเนื่องจากมีเสี้ยนสนทำให้เกิดการฉีกขาดระหว่างการตัดเฉือนได้ ไม้ยังเกิดความทื่ออย่างเห็นได้ชัดต่อใบมีด มีรายงานว่ามีค่าสมดุล pH และไม่กัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับใช้กับของเก่าและวัตถุที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ (แต่ควรระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นที่มากเกินไปหรือความชื้นที่มาจากสารสกัดจากแก่นไม้บางชนิดที่สามารถละลายน้ำได้)

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานเกี่ยวกับ ไม้ Chanfuta โดยเฉพาะ แต่มีรายงานว่าสปีชีส์อื่นในสกุล Afzelia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ตา และทางเดินหายใจ รวมถึงการจาม ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม่ค่อยส่งออกไปยังอเมริกาเหนือ บางครั้ง ไม้ Chanfuta ส่งออกไปยังยุโรป แต่ส่วนใหญ่ใช้ในท้องถิ่น (โดยเฉพาะในสาธารณรัฐโมซัมบิก) ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และถูกรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ไม้วีเนียร์ พื้น ท่าเทียบเรือ การต่อเรือ งานไม้สำเร็จรูปภายนอกและงานก่อสร้าง งานกลึง ไม้อินเลย์ และชิ้นไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from  https://www.wood-database.com/chanfuta/

Chakte viga

ชื่อสามัญ: Chakte Viga, Paela, Aripin

ชื่อวิทยาศาสตร์: Coulteria platyloba (=Caesalpinia)

การกระจายพันธุ์: พื้นที่เขตร้อนของเม็กซิโกและอเมริกากลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง :1-2 ฟุต หรือ 3-6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 58 lbf/ft3 (935 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.78, 0.93

ความแข็ง : 2,250 lbf (10,010 N)

การแตกหัก : ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่ : 2,574,000 lbf/in2 (17.76 Gpa)

แรงอัดแตก : ไม่มีข้อมูล

การหดตัว : Radial: 2.8%, Tangential: 8.2%, Volumetric: 10.6%, T/R Ratio: 2.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีส้มสดสว่างถึงสีน้ำตาลทอง กระพี้สีขาวซีดถึงเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มักตรง แม้ว่าบางครั้งเป็นเสี้ยนสน เนื้อไม้ละเอียดและมีความมันวาวธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้ Chakte Viga ถูกใช้เป็นวัสดุทำรั้ว โดยมีรายงานระบุว่าไม้มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 100 ปีในพื้นดิน

ความสามารถในการใช้: แม้จะมีความหนาแน่นสูง แต่โดยทั่วไป ไม้ Chakte Viga ก็ตอบสนองได้ดีกับการตัดเฉือนส่วนใหญ่ แม้ว่าเสี้ยนสนอาจส่งผลให้เกิดการฉีกขาดได้ ใช้ได้ดีกับกาว และงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าจะไม่มีรายงานผลเสียต่อสุขภาพโดยเฉพาะสำหรับ ไม้ Chakte Viga แต่สปีชีส์อื่นในสกุล Caesalpinia ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ปฏิกิริยาทั่วไปส่วนใหญ่มักรวมถึงการระคายเคืองตาและผิวหนัง ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Chakte Viga ชิ้นใหญ่ในรูปแบบไม้แปรรูปอาจหาได้ยาก แต่ชิ้นส่วนขนาดเล็กสำหรับงานกลึงจะมีพร้อมใช้มากกว่า ราคามีแนวโน้มที่จะค่อนข้างสูงสำหรับสายพันธุ์ที่นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: งานฝังไม้ เฟอร์นิเจอร์ พื้น และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/chakte-viga/

Catalpa

ชื่อสามัญ: Catalpa

ชื่อวิทยาศาสตร์: Catalpa spp. (C. speciosa and C. bignonioides)

การกระจายพันธุ์: มีถิ่นกำเนิดในอเมริกาตะวันออก แต่แปลงสัญชาติทั่วอเมริกาเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 50-100 ฟุต หรือ 15-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-4 ฟุต หรือ 6-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34.9 lbf/ft3 (560 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.38, 0.46

ความแข็ง : 550 (lbf)  2,450  (N)

การแตกหัก : 9,400 lbf/in2 (64.8 Mpa)

การยืดหยุ่ : 1,210,000 lbf/in2 (8.35 Gpa)

แรงอัดแตก : 2,740 lbf/in2 (18.9 Mpa)

การหดตัว : Radial: 2.5%, Tangential: 4.9%, Volumetric: 7.3%, T/R Ratio: 2.0

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีของแก่นไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมเทาที่เป็นไปจนถึงสีน้ำตาลทองที่เข้มกว่า เกือบทั้งลำต้นประกอบด้วย แก่นไม้ กระพี้แคบเป็นสีเทาอ่อน ลักษณะโดยรวมค่อนข้างคล้ายไม้ Ash

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงเปิด ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ

ความทนทาน: ไม้ CATALPA ได้รับการจัดอันดับว่ามีความคงทนในด้านความต้านทานการผุกร่อน และยึดเกาะได้ดีเมื่อสัมผัสกับพื้นดินโดยตรง

ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปง่ายต่อการทำงานด้วยมือและเครื่องจักร แม้ว่าจะต้องใช้ความระมัดระวังในระหว่างการขัดเพื่อหลีกเลี่ยงรอยเว้าและแนวสันที่บริเวณวงปีที่ผนังบางกว่า earlywood มักจะขัดได้ง่ายกว่าวงปีไม้ในฤดูแล้ง latewood (แนะนำให้ใช้บล็อกขัดแบบแข็ง) ใช้ได้ดีกับกาวและงานกลึง แม้ว่าการเติมรูพรุนในไม้จะจำเป็นเพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบ

กลิ่น: CATALPA มีกลิ่นฉุน และเผ็ด

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ก็มีรายงานว่า CATALPA บางชนิดทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง

ราคา/การมีอยู่: แม้ว่าจะมีการแพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริกา แต่ต้นไม้ก็มักจะไม่กระจัดกระจาย ดังนั้นไม้ CATALPA จึงไม่ใช่ไม้แปรรูปเสมอไป ราคามีแนวโน้มอยู่ในระดับปานกลาง หรืออาจสูงกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อยสำหรับบล็อกขนาดพิเศษ เช่น งานกลึง หรือการแกะสลัก

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เสารั้ว ไม้เอนกประสงค์ ตู้เก็บของ และงานแกะสลัก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/catalpa/

canary

ชื่อสามัญ: Canarywood, Canary

ชื่อวิทยาศาสตร์: Centrolobium spp.

การกระจายพันธุ์: อเมริกาใต้ (จากปานามาลงไปทางตอนใต้ของบราซิล)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 52 (lbf/ft3) 830 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.65, 0.83

ความแข็ง : 1,520 (lbf) 6,750  (N)

การแตกหัก : 19,080 lbf/in2 (131.6 Mpa)

การยืดหยุ่: 2,164,000 lbf/in2 (14.93 Gpa)

แรงอัดแตก : 9,750 lbf/in2 (67.2 Mpa)

การหดตัว : Volumetric: 8.4%, T/R Ratio: 2.3

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีของแก่นไม้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในปริมาณที่พอเหมาะ ตั้งแต่สีเหลืองอมส้มอ่อนไปจนถึงน้ำตาลแดงเข้ม ปกติแล้วจะมีริ้วลายเส้นสีเข้ม กระพี้สีเหลืองซีดถูกแบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้ สีมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นและเป็นเนื้อเดียวกันตามอายุ ดูบทความ Preventing Color Changes in Exotic Woods สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มักเป็นเส้นตรง แต่ในบางชิ้นอาจมีลักษณะผิดปกติ ไม่สม่ำเสมอ ผิวสัมผัสเนื้อไม้มีความละเอียดไปจนถึงหยาบปานกลาง มีความมันวาวโดยธรรมชาติ

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่ามีความคงทนมากในแง่ของการต้านทานการผุกร่อน รวมทั้งทนต่อการโจมตีของปลวก และเพรียงทะเล

ความสามารถในการใช้: ใช้งานง่ายทั้งด้วยมือ และเครื่องจักร แม้ว่ารอยฉีกขาดอาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างการไสชิ้นที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ผิดปกติ มีโครงสร้างที่มั่นคง ใช้ได้ดีกับกาวและงานกลึง

กลิ่น: ไม้ Canarywood มีกลิ่นเฉพาะตัวเมื่อทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ทุกประเภทแล้ว Canarywood ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ อีก ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายทั่วไปในขนาดของไม้แปรรูป ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แปรรูป, ทางข้ามรางรถไฟ, พื้น, ไม้วีเนียร์, การต่อเรือ, เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ และสิ่งของที่แปรรูป


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/canarywood/

Bosse

ชื่อสามัญ: Bosse, Guarea

ชื่อวิทยาศาสตร์: Guarea spp. (G. cedrata and G. thompsonii)

ถิ่นกำเนิด: แอฟริกาตะวันตกและแอฟริกากลาง

ความสูงลำต้น: 100-150 ฟุต หรือ 30-46 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 0.9-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 37 lbf/ft3 (600 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.48,0.60

ความแข็ง: 940 lbf (4,190 N)

การแตกหัก: 14,960 lbf/in2 (103.2 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,582,000 lbf/in2 (10.91 Gpa)

แรงอัดแตก: 7,910 lbf/in2 (54.5 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.4%, Tangential: 6.7%, Volumetric: 11.2%, T/R Ratio: 1.5

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอมชมพูอ่อน เข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีน้ำตาลทองถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้มีสีเหลืองซีด โดยมีลวดลายเสี้ยนไม้ เช่น Pommele (คล้ายคลื่นน้ำ) ที่เป็นที่ต้องการในรูปแบบไม้วีเนียร์

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเส้นตรง ประสานกัน เป็นคลื่น หรืออะไรก็ได้ที่อยู่ระหว่างนั้น (แผ่นวีเนียร์ยังแสดงลวดลายเสี้ยนเนื้อไม้ได้หลากหลาย) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบระดับปานกลางถึงละเอียด มีความมันวาวตามธรรมชาติที่ดี

ความทนทาน: แก่นไม้มีตั้งแต่ความทนทานปานกลางไปจนถึงความทนทานสูงมาก ทนตอการผุกร่อน ไม้ Bosse ยังมีความต้านทานต่อการรุกรานของแมลงและทนต่อสภาพอากาศได้ดี

ความสามารถในการใช้: ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามเนื้อไม้: ลายไม้ที่ประสานกันหรือไม้ผ่าสี่อาจก่อให้เกิดความยุ่งยากในการวางแผน โดยที่การฉีกขาดของไม้เป็นเรื่องที่พบได้ ซิลิกา(ความแข็งแรงของผนังเซลล์)ที่มีอยู่ในไม้นี้ทำให้คมตัดทื่อและทื่อในอัตราที่เพิ่มขึ้น แต่สามารถใช้งานได้ดีกับกาวและงานกลึง

กลิ่น: ไม้ Bosse สามารถมีกลิ่นคล้ายกับไม้Cedar ชัดเจนขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้Bosse ได้รับรายงานว่าเป็นสารกระตุ้นความรู้สึก ปฏิกิริยาทั่วไปส่วนใหญ่มักรวมถึงการระคายเคืองตา จมูก คอ และผิวหนัง รวมทั้งผลกระทบอื่นๆ เช่น อาการคล้ายโรคหอบหืด คลื่นไส้ และปวดศีรษะ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety for more information. สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งคราว โดยปกติจะอยู่ในรูปแบบแผ่นไม้อัด ราคาของไม้ Bosse จะขึ้นอยู่กับลวดลายและความหนาแน่นเป็นอย่างมาก โดยรวมแล้ว คาดว่าราคาจะสูงมากสำหรับแผ่นไม้อัดที่มีลายผ้านวมหรือลวดลายคล้ายคลื่นน้ำที่ขึ้นรูปอย่างแน่นหนา โดยมีรูปร่างเป็นลอนช่วงราคากลางถึงสูงสำหรับวีเนียร์นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) เนื่องจากประชากรลดลงกว่า 20% ในช่วงสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงของช่วงตามธรรมชาติ

การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์, เฟอร์นิเจอร์, ตู้เก็บของ, งานฝังไม้, พื้น, การต่อเรือ, และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/bosse/

Mansonia

ชื่อสามัญ:  Mansonia

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Mansonia altissima

การกระจายพันธุ์:  เขตร้อนทางตะวันตกของแอฟริกา

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  41 (lbf/ft3) 660 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.54, 0.66

ความแข็ง : 1,290 (lbf) 5,740(N)

การแตกหัก : 16,600 lbf/in2 (114.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,570,000 lbf/in2  (10.83 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,800 lbf/in2  (53.8 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.4%, Tangential: 7.3%, Volumetric: 10.2 %, T/R Ratio: 1.7

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอมเหลืองหรือน้ำตาลอมเทา สีมีแนวโน้มที่จะสว่างขึ้นและจางลงเมื่อสัมผัสกับแสง ส่วนกระพี้มีสีเหลืองถึงเกือบสีขาว กว้างประมาณ 1 ถึง 2 นิ้ว และมีการแบ่งแยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้จะมีลักษณะเป็นเส้นตรงไปจนถึงประสานกันในบางครั้ง ผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดจนถึงหยาบปานกลาง และมีความมันวาวเล็กน้อยตามธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้Mansonia มีความทนทานต่อการผุพังของไม้ และยังทนต่อการกัดกินของปลวกและเข้าทำลายของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้: ไม้Mansonia ใช้งานได้ง่ายทั้งกับผู้ทำงานและเครื่องจักร ยกเว้นเรื่องขี้เลื่อยของไม้ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ไม้สามารถใช้งานร่วมกับกาวและ งานกลึงได้ดีรวมถึงมีคุณสมบัติที่ดีในการดัดไม้ด้วยไอน้ำ

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้Mansonia อยู่ในรายชื่อว่าเป็นหนึ่งในพันธุ์ไม้ที่มีปฏิกิริยาการแพ้อย่างร้ายแรงและธรรมดา มีรายงานว่า ไม้Mansonia เป็นสารก่อภูมิแพ้แม้ว่าปฏิกิริยาที่พบมากที่สุดคือ การระคายเคืองตาและผิวหนัง ฝุ่นไม้ยังสามารถก่อให้เกิดผลกระทบอื่นๆ ได้มากมาย เช่น อาการคลื่นไส้ อาการวิงเวียนศีรษะ จาม ปวดหัว เลือดกำเดาไหล เสี้ยน/เศษชิ้นไม้สามารถทำให้ที่ติดเชื้อได้หากโดน และลักษณะอาการคล้ายโรคหอบหืด นอกจากนี้ยังพบว่าทั้งเปลือกไม้และแก่นไม้มีพิษต่อหัวใจซึ่งอาจทำให้เกิดความผิดปกติของหัวใจได้ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่มีอยู่ในรูปแบบแผ่นไม้อัด ไม้Mansonia สามารถพบในแบบไม้กระดานเป็นครั้งคราว ราคามักจะอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งเขตร้อนที่นำเข้า

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ ไม้วีเนียร์ ตู้เก็บของ เฟอร์นิเจอร์ ไม้ต่อเรือ และงานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/mansonia/

Mango

ชื่อสามัญ: Mango, Hawaiian mango

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Mangifera indica

การกระจายพันธุ์:  เขตร้อนของเอเชียและโอเชียเนีย

ขนาดต้นไม้: สูง 80-100 ฟุต หรือ 24-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต 1-1.2เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  42.1 (lbf/ft3) 675(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.52, 0.68

ความแข็ง : 1,070 (lbf) 4,780 (N)

การแตกหัก :  12,830 lbf/in2 (88.5 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,672,000 lbf/in2 (11.53 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,240 lbf/in2  (49.9 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.6%, Tangential: 5.5%, Volumetric: 8.9 %, T/R Ratio: 1.5

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เนื้อแข็งจะเป็นสีน้ำตาลทอง ในขณะเดียวกันยังมีสีอื่นๆ เช่น สีเหลืองและลายสีชมพูและ/หรือสีดำก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน ส่วนของกระพี้มีสีซีด ไม่ได้แยกจากแก่นไม้อย่างชัดเจนเสมอไป ลวดลายของเสี้ยนเนื้อไม้เป็นลอนคล้ายคลื่นหรือเป็นลายจุดกระดำกระด่างทั่วเสี้ยนเนื้อไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็นแนวเส้นตรง หรือประสานกัน ผิวสัมผัสเนื้อไม้มีหยาบปานกลางจนถึงหยาบ และเนื้อไม้มีความมันวาวตามธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้mango ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานต่อการเน่าเปื่อยระดับปานกลาง อย่างไรก็ตาม และไม้mango ยังอ่อนแอต่อการเข้าทำลายของเชื้อราและแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้: หากมีเสี้ยนเนื้อไม้ประสานกัน หรือมีลักษณะผิดปกติ เมื่อตัดเลื่อยไม้จึงเกิดการฉีกขาดของเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเรื่องปกติ ระหว่างการทำงานไม้สามารถเลื่อนไปมาได้อาจก่อให้เกิดการติด ขัดกับใบมีดได้  ตัวไม้มีปริมาณซิลิกา(ความแข็งแรงของผนังเซลล์)ค่อนข้างสูงส่งผลให้คมตัดทื่อ แต่ไม้สามารถใช้งานร่วมกับกาวได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:มีรายงานว่าไม้mango ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มักมาจากทางฮาวาย แม้ว่าทางเอเชียก็พบได้ทั่วไปเช่นกัน ไม้Mango มีจำหน่ายทั้งแบบไม้กระดานและไม้แบบแผ่นเช่นเดียวกับงานฝีมือและเครื่องมือ ราคาสำหรับไม้กระดานที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้า และโดยปกติจะมีราคาถูกกว่า ไม้Koa ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งฮาวายที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง ส่วนกระดานรูปที่มีรูปร่างโค้งลอน, ลวดลาย, และ/หรือสีสันสดใสมีราคาแพงกว่ามาก

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) แต่ได้รับการรายงานโดยแต่ได้รับการรายงานโดย IUCN ว่ามีข้อมูลไม่เพียงพอ เป็นเพราะการปลูกต้นไม้อย่างแพร่หลาย ทำให้ยากต่อการแยกแยะ ระดับจำนวนต้นไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติกับต้นไม้ที่ได้รับสัญชาติ

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้เฟอร์นิเจอร์, อูคูเลเล่, ไม้วีเนียร์, ไม้อัด, งานกลึง และพื้น


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/mango/

Lebbeck (ไม้จามจุรีทอง)

ชื่อสามัญ:  Lebbeck, kokko

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Albizia lebbeck

การกระจายพันธุ์:  มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ นิยมปลูกกันทั่วเขตร้อนเป็นไม้ประดับ

ขนาดต้นไม้: สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร     

เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ฟุต 0.6-1.0เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  39.5 (lbf/ft3) 635(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.51,0.63

ความแข็ง : 1,330  (lbf) 5,920 (N)

การแตกหัก :  13,730 lbf/in2 (94.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,836,000 lbf/in2  (12.66 Gpa)      

แรงอัดแตก:  8,390 lbf/in2  (57.8 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.9%, Tangential: 5.8%, Volumetric: 9.6 %, T/R Ratio: 2

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลทอง มักมีแถบ/ริ้วของไม้มีสีอ่อนกว่าหรือสีเข้มกว่า ส่วนสีของกระพี้มีสีเหลืองซีดและสีมีแนวโน้มที่จะคล้ำลงตามอายุ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนสน (Interlocked Grain) หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบและมีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: มีการจัดอันดับว่าไม้ชนิดนี้มีความคงทนในระดับปานกลาง และไม่ทนทานต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: มีแนวโน้มจะตัด เลื่อยได้ยากเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้ที่ประสานกัน
สามารถใช้ได้ดีกับงานกลึง และกาว แต่ควรจะตรวจสอบไม้ว่าแห้งสนิทดี เพราะหากไม้ยังไม่แห้งสนิทต้องระวังการแยกตัวของไม้

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Lebbeck  ได้แก่ ทำให้เกิดการระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: มักใช้เป็นไม้วีเนียร์/ไม้อัด หรืองานไม้กลึงเป็นแท่งหรือเป็นแผ่นในบางครั้ง ราคาสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้าพันธุ์นี้อยู่ในระดับกลาง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับเฟอร์นิเจอร์ ไม้วีเนียร์ ไม้กลึง แกะสลัก และรายการไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/lebbeck/

KOA

ชื่อสามัญ:  Koa, Hawaiian koa

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Acacia koa

การกระจายพันธุ์:  ฮาวาย

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  38 (lbf/ft3) 610(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.53,0.61

ความแข็ง : 1,170 (lbf)  5,180 (N)

การแตกหัก :  12,620 lbf/in2 (87.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:   1,503,000 lbf/in2  (10.37 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,060 lbf/in2  (48.7 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.5%, Tangential: 6.2%, Volumetric: 12.4 %, T/R Ratio: 1.1

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีแก่นไม้สามารถเปลี่ยนแปลงได้สูง แต่มีแนวโน้มที่จะเป็นสีทองระดับปานกลางหรือสีน้ำตาลแดง คล้ายกับไม้มะฮอกกานี  โดยปกติจะมีแถบสีของแก่นไม้ที่ตัดกันในวงเนื้อไม้ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นเนื้อไม้ที่มีแถบสีเหมือนริบบิ้น มีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเรียงตัวคล้ายคลื่นหรือลอนโค้งไปมา

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้มีลักษณะบิดตัวเป็นเกลียวประสานกันเล็กน้อย และในบางครั้งมีลักษณะเรียงตัวกันคล้ายคลื่น มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางจนถึงหยาบ

ความทนทาน: ถูกจัดอันดับว่าเป็นไม้ที่มีความทนทานต่อการเน่าเปื่อย ผุพัง และทนทานต่อแมลงได้ในระดับปานกลาง ถึงแม้ว่าจะไม่ทนทานต่อการรุกรานของปลวก

ความสามารถในการใช้: ไม้ Koa  ใช้งานง่ายและทำงานร่วมกับการขัดด้วยกระดาษทรายได้ดี อย่างไรก็ตามไม้ที่แปรรูปเป็นรูปทรง หรือชิ้นส่วนที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ลักษณะเป็นเกลียวประสานกันอย่างแน่นหนา อาจส่งผลให้ขณะตัดหรือเจาะไม้ทำให้เสี้ยนเนื้อไม้ ขาด/บิ่นไม่สวยงาม นอกจากนี้ไม้ Koa ยังสามารถทำให้เกิดปัญหาในการติดกาว แต่สามารถย้อมสี การกลึงได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: นอกจากความเสี่ยงด้านมาตรฐานสุขภาพเรื่องฝุ่นไม้  Koa ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพด้านใดอีก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าสายพันธุ์ Acacia หลายสายพันธุ์ รวมถึง Australian Blackwood ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ด้วย Koa เป็นต้นไม้เฉพาะถิ่นในฮาวายและมีการปลูกที่ลดลง ไม้ Koa จึงมีแนวโน้มที่ราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ไม้แผ่นทรงสูงหรือไม้แผ่นทรงคลื่นยังเป็นราคาที่สูง

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับ แผ่นไม้อัด เฟอร์นิเจอร์ ตู้ เครื่องดนตรี (โดยเฉพาะกีตาร์และอูคูเลเล่) เรือแคนนู ปืนกล ไม้แกะสลัก ชาม และวัตถุอื่น ๆ ที่ทำจากไม้กลึง/พิเศษอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/koa/