บทความ - อะ-ลัง-การ 7891

บทความ

บทความ

03 2

ไม้ ทรัพยากรหมุนเวียนที่สำคัญ จากอดีต สู่ ปัจจุบัน และอนาคต

จากบันทึกประวัติศาสตร์โลกและวิวัฒนากรของมนุษย์ ถ้าเทียบมนุษย์กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ ก็สามารถพูดได้ว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และความก้าวหน้าในวิวัฒนาการของการใช้ทรัพยากรธรรมชาติมาให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

มนุษย์นับเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกๆบนโลกที่รู้จักการใช้ของรอบๆตัวมาเป็นอุปกรณ์และเครื่องมือในการช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อให้มีความสามารถในการดำรงชีวิตได้ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่มีความแตกต่างกันออกไป

ทรัพยากรธรรมชาติชนิดแรกๆ ที่มนุษย์รู้จัก ตั้งแต่มีการบันทึกตามหลักประวัติศาสตร์และชีวะวิทยา ตั้งแต่สมัยยุคหินเก่า ก็จะประกอบไปด้วย ทรัพยากรธรรมชาติที่หาได้รอบตัวเช่น หิน กระดูกสัตว์ และไม้ โดยเฉพาะไม้ เป็นทรัพยากรที่อยู่รอบๆตัวอย่างมหาศาลในยุคนั้นและสามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปในหลายกหลายภูมิประเทศ

ในยุคแรกๆ มนุษย์นิยมใช้กิ่งไม้เล็กๆ มาประกอบกับกระดูกสัตว์เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับล่าสัตว์มาเป็นอาหาร แต่เมื่อเวลาผ่านไปมนุษย์รู้จักเรียนรู้ในการนำเอาไม้มาแปรรูปเพื่อให้กลายเป็นอุปกรณ์และเครื่องอำนวยความสะดวกชนิดอื่นๆ ในทางการเกษตร รวมไปถึงการนำมาแปรรูปให้กลายเป็นส่วนประกอบในโครงสร้างของที่อยู่อาศัย

เนื่องจากไม้เป็นทรัพยากรที่พบเห็นได้โดยทั่วไปในทุกยุคสมัย อีกทั้งมีคุณสมบัติที่หลากหลายและสามารถแปรรูปมาใช้งานได้ง่าย ตามลักษณะและคุณสมบัติของไม้แต่ละชนิด

ทุกภูมิภาคในโลกเราจะพบเห็นไม้ที่มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกัน ทำให้ชนพื้นเมือง หรือคนท้องถิ่น มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำการศึกษาคุณสมบัติของไม้แต่ละชนิด จนสามารถสามารถนำไม้ในท้องถิ่นมาแปรรูปให้กลายเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์อื่นๆที่ใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการ

เมื่อมีทั้งอุปกรณ์ในการล่าสัตว์ และที่อยู่อาศัยแล้ว มนุษย์ก็เริ่มเรียนรู้ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีให้มากที่สุด เพราะไม้เป็นหนึ่งในทรัพยากรหมุนเวียนทางธรรมชาติที่มีความแข็งแรงและคงทน  ด้วยเหตุนี้มนษย์จึงได้มีความคิดริเริ่มที่จะ สร้างเฟอร์นิเจอร์ในการใช้งานพื้นฐานอย่างง่าย จากไม้ที่มีขนาดแตกต่างกันเพิ่มมากขึ้น เช่น เตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ ประตู และมีการพัฒนาไปสู่การประดิษฐ์เฟอร์นิเจอร์ไม้ชนิดอื่นๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันที่หลากหลายมากขึ้นในเวลาต่อมา

ตั้งแต่ยุคอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่ามนุษย์มีความผูกพันธ์กับการใช้ไม้เป็นวัถุดิบและทรัพยากรในการอำนวยความสะดวกสบายมาตลอด และในช่วงยุคประวัติศาสตร์ก็เริ่มมีการค้นพบหลักฐานทางทางโบราณคดีมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้ไม้แผ่นใหญ่ เป็นทรัพยากรหลักในการใช้เป็นวัตถุดิบในการตกแต่งบ้าน และการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ชนิดอื่นๆที่หลากหลายขึ้น เช่น ใช้ในการอุตสาหกรรมในครัวเรือน ใช้ในการประกอบกับอุปกรณ์เคลื่อน หรือล้อเลื่อนที่ในการขนส่งสินค้าและการคมนาคม

จะเห็นได้ว่า มนุษย์ กับไม้นั้น มีประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการร่วมกันมาอย่างยาวนานในฐานะของผู้ใช้ประโยชน์และการจากการเป็นทรัพยากรหมุนเวียนทางธรรมชาติที่สำคัญ จึงทำให้เชื่อได้ว่าไม้จะยังคงเป็นส่วนสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ไปอย่างต่อเนื่องในอนาคต ถึงแม้จะมีการนำนวัตกรรมต่างๆเข้ามาเป็นทางเลือกเสริม แต่ไม้ก็ยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหลักที่น่าสนใจ

01 1

ลายของไม้ สุดยอดดีไซน์ จากธรรมชาติ

ธรรมชาติเป็นผู้สรรค์สร้างสรรพสิ่งในโลกให้มีเอกลักษณ์และลักษณะเด่นจากภายนอกเพื่อที่จะใช้ในการ จำแนกประเภท และประโยชน์เพื่อการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม ทำให้ต้นไม้หลายๆชนิดมีการวิวัฒนาการโครงสร้างของตัวเองขึ้นมาให้สามารถยืนต้นอยู่ได้ท่ามกลางสภาพแววล้อมที่ต่างกันออกไปในหลากหลายพื้นที่ในโลก

การวิวัฒนาการเหล่านี้ทำให้เกิดโครงสร้างและลักษณะของไม้แต่ละชนิดที่ต่างกันออกไป ทั้งในเรื่องของ ลักษณะภายนอกที่สังเกตุได้ชัดตั้งแต่ สี กลิ่น รูปร่าง รูปทรง หรือแม้กระทั่งลวดลายของเนื้อไม้ที่อยู่ภายในลำต้น 

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “ ลายไม้ก็ไม่ต่างอะไรจากลายนิ้วมือมนุษย์ ไม่มีไม้ชิ้นไหนที่ลายซ้ำกัน ไม่มีไม้ชิ้นไหนที่ลายเหมือนกัน ไม้ทุกชิ้นคืองานศิลปะจากธรรมชาติ ”

คำกล่าวนี้เป็นจริงอย่างมากเพราะไม้ทุกชิ้นจะถูกธรรมชาติและตัวแปรอื่นๆในสภาพแวดล้อมที่ต้นไม้แต่ละต้นได้เจอ สรรค์สร้างให้เกิดเป็นไม้ที่มีดีไซน์แบบเฉพาะตัว ไม้บางชิ้นมีเนื้อไม้ที่เรียบเนียน ไม้บางชิ้ มีกระพี้ที่หนา ไม้บางชิ้นมีตาไม้ที่สวย ไม้บางชิ้นมีร่องรายการกัดเซาะของแมลง และไม้บางชิ้นก็สวยงามแบบไร้ที่ติ

ราวกับว่าลวดลายบนแผ่นไม้กำลังสื่อสารบางอย่างกับเรา อาจเป็นได้ว่าธรรมชาติได้ให้คำบอกใบ้เชิงสัญลักษ์ว่า “ไม้ทุกชิ้นมีเรื่องราวในตัวมันเอง” หากเราเข้าใจลวดลายของไม้ที่เปรียบเสมือนงานศิลป์ที่มาจากธรรมชาติ เราก็จะเข้าใจข้อความที่ธรรมชาติกำลังสื่อสารกับเราจากทุกแผ่นไม้

ไม้แผ่นใหญ่ หลายชิ้น นอกจากจะเป็นงานศิลป์จากธรรมชาติที่งดงามแล้ว เรื่องของการอายุใช้งานและคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวของไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ทำให้ผู้คนหลายกลุ่มให้ความสนใจ 

ด้วยอายุการใช้งานของไม้แผ่น ที่มาจากไม้ใหญ่ในธรรมชาติที่ได้รับการฟูมฟักมาเป็นอย่างดีด้วยสภาพแวดล้อมที่จะต้องอุดมสมบูรณ์และเอื้อต่อการเจริญเติบโต ทำให้ไม้แผ่นใหญ่ แต่ละชิ้นจะมีพื้นฐานความแข็งแรงที่สูง และมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว เรียกได้ว่าไม้บางชิ้นอาจจะอยู่ได้ยาวนานกว่าอายุไขของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆเสียอีก

ดังนั้นไม้จึงกลายเป็นเป็นอีกหนึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันดับต้นๆ ที่ทรงคุณค่าทั้งในเชิงศิลปะ ประวัติศาสตร์ และมากไปกว่านั้นยังมีมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านของการเป็นทรัพยากรหมุนเวียนทางธรรมชาติที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและคุ้มค่า

03 1
03 3

เฟอร์นิเจอร์ไม้ ส่วนประกอบที่ลงตัวของบ้านสมัยใหม่

ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2022 ตลาดของเฟอร์นิเจอร์ในไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เรียกได้ว่าหลายๆครั้งเราไม่สามารถใช้การกำหนดพฤติกรรมแบบเดิมๆมาเป็นตัวชี้วัดในการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันได้เหมือนเมื่อก่อน 

เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการในการเลือกสินค้าและบริการที่ผันแปรไปตามทั้งกระแสนิยมและแนวคิดส่วนบุคคล และที่สำคัญสื่อ และโซเชียลมีเดีย เป็นส่วนที่สำคัญมากที่ทำให้ ผู้คนเกิดความกระตือรือล้นที่อยากจะเลือกใช้สินค้าที่ตนเองชื่นชอบและเกิดความประทับใจส่วนบุคคล

หลายปีที่ผ่านมาสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ไม้ กลายเป็นที่สินค้าที่ต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีอัตตราความต้องการที่สูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด 

ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ชอบจะผสมผสานให้พื้นที่ในบ้าน และที่ทำงาน ให้มีส่วนผสมระหว่างความทันสมัยและความคลาสสิก จึงทำให้การใช้ไม้แผ่นใหญ่มาใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ ทั้งในรูปแบบของการทำโต๊ะทำงาน โต๊ะอาหาร เก้าอี้ชุดรับแขก รวมไปถึงการนำไม้แผ่นใหญ่มาทำเป็นประตูทางเข้า กลายมาเป็นกระแสความนิยมที่น่าจับตามองอีกครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้มีบุคคลชั้นนำหลายท่านได้ออกมามาเปิดเผยว่าชื่นชอบและมีความนิยมในการใช้ไม้แผ่นใหญ่มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านเป็นพิเศษ ด้วยเหตุผลที่ว่าเฟอร์นิเจอร์ไม้เหล่านี้ นอกจากจะมีลักษณะที่สวยงามและบ่งบอกถึงรสนิยมชั้นสูงในการเลือกใช้วัสดุในการแต่งบ้านแล้ว ยังทำให้บ้านดูสบายตา เป็นธรรมชาติ ช่วยให้ผ่อยคลายและน่าอยู่ขึ้นอีกด้วย

เราจะสังเกตได้ว่าใน ภาพยนตร์ ซีรีย์ หรือแม้แต่โฆษณาหลายชิ้น จะนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้แผ่นใหญ่ มาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก เพราะนอกจากจะได้ความรู้สึกที่หรูหรา คลาสสิก และให้ความสบายตา เฟอร์นิเจอร์จากไม้แผ่นใหญ่ ยังมีความคงทนแข็งแรงและสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่มีนัยยะในบ่งบอกถึงความมั่นคงและแข็งแรงอีกด้วย

ถ้าจะให้เทียบกับอายุการของเฟอร์นิเจอร์จากไม้แผ่นใหญ่กับอายุการใช้งานในเฟอร์นิเจอร์ทั่วๆไปในท้องตลาด เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า เฟอร์นิเจอร์จากไม้แผ่นใหญ่มีอายุการใช้งานที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด และไม้บางชนิดก็มีคุณสมบัติพิเศษในการทนทานต่อปลวกและแมลงอีกด้วย 

ไม้แผ่นใหญ่ในตลาดที่นิยมใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ จะมีลักษณะรูปร่างที่หลากหลาย หลายเกรด หลายราคา ตั้งแต่ระดับไม้หาง่ายที่มีขายตามท้องตลาดไปจนถึงระดับไม้หายากที่บางชนิดก็ไม่สามารถหาได้แล้วในปัจจุบัน

 ยิ่งถ้าเป็นชนิดที่มีลักษณะพิเศษ มีลวดลายเฉพาะตัว ก็จะกลายเป็นไอเท็มที่น่าจับตามอง บวกกับคุณสมบัติหลักที่เป็นไม้หายาก มีขนาดและลักษณะที่ได้สัดส่วน ก็จะยิ่งเป็นที่สนใจสำหรับนักสะสมเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่การสะสมไม้หายากจะเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม  ไม้หายากหลายชนิดก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในทรัพย์สินมีค่า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าในตัวเองได้หลายเท่าตัวเมื่อระยะเวลาผ่านไป 

มีนักสะสมไม้หลายท่านที่เคยซื้อไม้แผ่นใหญ่เก็บสะสมไว้เมื่อหลายสิบปีก่อนในราคาหลักไม่กี่หมื่น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็ได้นำไม้ชิ้นที่เคยซื้อไว้มาทำการประเมินราคาในปัจจุบัน ก็พบว่าไม้แผ่นใหญ่ที่ซื้อไว้นั้นมีมูลค่าที่สูงขึ้นมากอย่างน่าตกใจ จนทำให้ไม้หายากบางชิ้นกลายเป็นที่จับตามองของนักสะสมไปในทันที

ไม่น่าแปลกใจที่ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม้แผ่นใหญ่จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่คนให้มูลค่าและให้ความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัย ด้วยมูลค่าของไม้ที่สูงและอายุการใช้งานและคุณสมบัติพิเศษที่มีที่ยาวนานและคุ้มค่า รวมไปถึงลักษระรูปร่างเฉพาะตัวของไม้หลายชนิด ทำให้เป็นปัจจัยที่ทำให้ไม้แผ่นใหญ่กลายเป็นทรัพย์สินที่สามารถเพิ่มมูลค่าในตัวเองได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

ขอบข้อมูลเพิ่มเติมจาก : ubersuggest.com

05 1 1
01

โต๊ะไม้แผ่นใหญ่ กับเทคนิคการแต่บ้านแบบ Minimalist

05 1 1

“What you see is what I see.” คุณเห็นอย่างที่ผมเห็น
 - Frank Stella Minimalist Artist -

ด้วยความเรียบง่ายแต่ชัดเจนของการเล่าเรื่องราวผ่านการตกแต่งสไตล์ Minimalist ของทีมงาน Frank Stella ทำให้เกิดเป็นกระแสนิยมในวงกว้างทันทีเพราะผู้คนในยุค 1960 หลายกลุ่มgริ่มจะมีความรู้สึกร่วม เข้าใจ และสนุกกับ งานศิลปะและการตกแต่งบ้านสไตล์นี้มากขึ้น

จึงทำให้ Minimalist กลายเป็นที่จับตามองในช่วงเวลาต่อมาจนสามารถขยายวงผู้ที่นิยมแต่งบ้านแบบ Minimalist เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่ทั่วโลก

การตกแต่งสไตล์ Minimalist จะชี้ให้เห็นความสำคัญในเรื่องที่การสื่อสารของ เรื่องราว สถานที่และวัตถุ ที่เน้นให้เห็นถึงความชัดเจนของรายละเอียด รูปร่าง ลักษณะ และการใช้งานแบบตรงไปตรงมา เน้นไปที่การใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่เสริมเทคนิคในการจัดวางที่จะเสริมให้เห็นความโดนเด่นของวัตถุกับการใช้งานที่เหมาะสมและคุ้มค่า

ช่วงเวลาต่อมา ศิลปิน Minimalist หลายท่านก็ได้ต่อยอดงานไปในทิศทางที่ให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติ และต้องการเสริมให้การแต่บ้านเป็นงานที่มีสุนทรียะมากขึ้น จึงได้มีการนำเอาเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้แผ่นใหญ่ มาช่วยเสริมให้การแต่งบ้านแลดูมีมิติและมีสุนทรียะในทางศิลปะ

การแต่งบ้านสไตล์ Minimalist แบบใหม่ที่ได้นำเอาความเป็นธรรมชาติเสริมเข้ามา ทำให้กลายเป็นกระแสนิยมในวงกว้างในทันทีในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพราะนอกจากจะเป็นการนำเสนอไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่ายและลงตัวแล้ว

ยังสามารถผสานความทันสมัยให้กลมกลืนไปกับความเป็นธรรมชาติได้อย่างงดงาม ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ใช้ร่วมในการแต่งบ้านสไตล์ Minimalist ดูโดดเด่นและตอบสนองการใช้งานได้ในทันทีที่กวาดสายตามอง

มีเฟอร์นิเจอร์ไม้หลายชิ้นที่นักตกแต่งบ้านสไตล์ Minimalist ให้ความนิยมนำมาเป็นชิ้นงานหลักในการแต่บ้าน เช่น ตู้ไม้ เตียงไม้ หรือแม้กระทั่งประตูไม้ รวมไปถึงชิ้นงานที่โดดเด่นที่สุดที่ขาดไม่ได้สำหรับการแต่งบ้านสไตล์นี้ ก็คือ โต๊ะไม้ 

โต๊ะไม้ที่ผลิตจากไม้แผ่นใหญ่ ที่นักตกแต่งบ้านสไตล์ Minimalist เลือกใช้จะต้องเป็นโต๊ะที่มีหน้าท๊อปเป็นไม้แผ่นใหญ่ไม้ที่เป็นไม้ชิ้นเดียวแบบเต็มแผ่นและมีขาของโต๊ะที่เป็นเหล็ก หรือเหล็กผสมไม้ สามารถเป็นได้ทั้งไม้สีเข้มและไม้สีอ่อน ขึ้นอยู่กับสไตล์และโทนสีในการตกแต่งที่ต้องการ

Minimalist เป็นหนึ่งในสไตล์การแต่งบ้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงปี 2000 - 2022 และยังคงได้รับความนิยมาอย่างต่อเนี่อง ด้วยเหตุผลที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความซับซ้อนหรือเน้นรายละเอียดที่มากมาย ทำให้ผู้คนส่วนมากเทใจให้กับการแต่งบ้านสไตล์ Minimalist ได้อย่างไม่ยากเย็น

Minimalist เป็นสไตล์การตกแต่งแบบ อเมริกันแท้ๆ โดยเริ่มมาจากช่วงปี 1960 ศิลปินกลุ่มหนึ่งในเมือง นิวยอร์ค ที่นำทีมโดย Frank Stella ได้มีความสนใจทำการฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆที่เคยมีมาในงานศิลปะ การตกแต่งบ้าน และสถานที่ ให้มีความแตกต่างแต่ยังคงมีระดับและโดดเด่น ซึ่งในขณะนั้นศิลปะและการแต่งบ้านที่เน้นเล่ารายละเอียดในการตกแต่งที่ซับซ้อนและดูรกตาเป็นกระแสหลักที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง

เหตุผลหลักที่จะต้องใช้หน้าท๊อปของโต๊ะเป็นไม้แผ้นใหญ่ และขาของโต๊ะเป็นเหล็กหรือไม้ผสมเหล็กก็เพราะ นักตกแต่งต้องการที่จะให้เกิดการผสมผสานกันระหว่างความทันสมัยของบ้านและความเป็นธรรมชาติของวัสดุที่นำมาใช้งาน เพื่อให้การสื่อสารตรงตามคอนเซ็บของการเป็น Minimalist ให้ได้มากที่สุดจากการมองเห็นตั้งแต่ครั้งแรก รวมไปถึงได้คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และความแข็งแรงทนทานในการรับน้ำหนักของเฟอร์นิเจอร์ไปด้วยในตัว 

หากใครที่กำลังสนใจที่จะแต่งบ้านสไตล์ Minimalist ก็สามารถเลือกดูสินค้าภายใน Website ของเราได้จากหน้า Catalog ของสินค้า หรือสารมารถติดตามข้อมูลข่าวสารที่อัพเดทผ่าน Social Media ต่างๆ ของ อะ-ลัง-การ ได้ทุกช่องทาง

ที่มา :http://www.theartstory.org/movement-minimalism.htm

02 2

วะบิ ซะบิ จิตวิญญาณที่อยู่ใน เฟอนิเจอร์ไม้สไตล์ ญี่ปุ่น

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราคงเคยได้ยินว่าคนไทยเริ่มมีความสนใจในการแต่บ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์ญี่ปุ่นกันมากขึ้น และหนึ่งในสไตล์การแต่งบ้านที่คนพูดถึงกันมากที่สุดก็คือสไตล์เรียบง่าย ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจนที่เรียกว่า “วะบิ ซะบิ” 

ศิลปะการแต่งบ้านแบบ วะบิ ซะบิ มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อความคิดและมุมมองของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้ชัดผ่านสถาปัตยกรรม และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะมีหลายจุดสังเกตุที่สามารถสื่อสารได้อย่างชัดเจน

หากเราเอาคำว่า “วะบิ ซะบิ” ไปถามถึงความหมายของศิลปะแนวนี้กับคนญี่ปุ่น ก็จะได้คำตอบเป็นนัยๆกลับมาว่า มันไม่มีความหมายแบบตรงตัวที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจ แต่ วะบิ ซะบิ จะเป็นเรื่องของสิ่งที่เราจะสัมผัสได้ด้วยใจเราถึงจะเข้าใจมัน

หนังสือหลายเล่มในท้องตลาดได้ให้คำนิยามกับศิลปการแต่งบ้านแบบ วะบิ ซะบิ ว่ามันคือ  “ความงามของความไม่สมบูรณ์แบบในธรรมชาติ”

เพราะคนญี่ปุ่นเชื่อว่าความไม่แน่นอน หรือความไม่ยั่งยืนถาวรในสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นรอยแตก รอยบิ่น รอยไหม้ หรือแม้กระทั่งลายของไม้แผ่นหรือสีของโต๊ะที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา มักจะมีเรื่องราวและปรัชฌาที่น่าสนใจสอดแทรกอยู่ในนั้นเสมอ

“ ทุกอย่างในโลกล้วนเป็นร่องรอยของความงามในอดีต ที่ยิ่งผ่านเวลายิ่งทรงคุณค่ามากขึ้นในทุกวินาที”

อีกนัยหนึ่ง วะบิ ซะบิ เป็นมิติของมุมมองทางธรรมของศาสนา พุทธ นิกาย Zen ในลักษณะของรูปธรรมวัตถุที่ชี้ให้เห็นถึงมุมมองที่เป็นสัจธรรมของทุกสรรพสิ่งว่าทุกสิ่งนั้นล้วนไม่เที่ยง เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบนี้มาไว้ครอบครอง เพราะนอกจากจะเป็นการสอดแทรกถึงแนวปรัชญาในทางศาสนาแล้ว

เฟอร์นิเจอร์ไม้ชิ้นที่เหมาะสมยังเป็นตัวช่วยในการบ่งบอกถึงตัวตน มุมมอง แนวคิดและสไตล์แต่งบ้านแบบญี่ปุ่นสไตล์ วะบิ ซะบิ ที่ชัดเจน

1.ความไม่คงทนถาวร : ต้องเป็นโต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ แจกัน หรือแก้วชาดินเผา ที่เหลือไว้ซึ่งร่องรอยที่บิ่น แตกหัก หรือพื้นผิวที่มีริ้วรอยความเสียหายต่างๆ เพราะเชื่อว่าทุกร่องรอยคือตัวแทนของเหตุการณ์สำคัญในช่วงเวลาที่เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นได้ผ่านและได้พบเจอ

2.ความไม่สมบูรณ์แบบ : ยิ่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีความไม่สมมาตร ไม่เรียบเนียน หรือมีจุดสังเกตุที่สะดุดตา ที่สามารถชี้ให้ไม่สามรถเห็นถึงความสมบูรณ์แบบที่หาได้แบบทั่วไปหรือที่สวยเป๊ะทุกอณู จะยิ่งทำให้ผู้ที่ชอบการแต่งบ้านสไตล์นี้มีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อว่าทุกความไม่สมบูรณ์พร้อมคือความสมบูรณ์พร้อมที่ลงตัวที่สุด

3.ความงดงามที่สัมผัสได้ด้วยใจ : การแต่งบ้านสไตล์วะบิ ซะบิ จะเน้นย้ำให้ โต๊ะไม้ เก้าอี้ไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ เป็นตัวแทนของเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของเจ้าของ ยิ่งเฟอร์นิเจอร์ไม้เหล่านั้นมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ความเป็นมาที่ยาวนานหรือ ผ่านการใช้งานมามากเท่าไหร่ยิ่งเกิดความประทับใจเป็นเท่าตัว

จะเห็นได้ชัดว่า วะบิ ซะบิ คือ ศิลปะแขนงหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นสไตล์การแต่งบ้านที่ไม่ใช่เป็นการตกแต่งเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นการผสานส่วนประกอบสำคัญในเชิงสัจธรรม ที่มีความลึกซึ้งผ่าน 3 โสตสัมผัสหลักของมนุษย์ คือ

การมองเห็นด้วยตา สัมผัสด้วยมือ และรู้สึกได้สุนทรียะภายในใจ ทำให้เกิดเป็นการเล่าเรื่องชั้นยอดโดยใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แต่งบ้านที่ถูกผสานเข้ากับกับคำสอนทางศาสนา ปรัชฌาที่แยบยล และตัวตนที่ชัดเจนได้อย่างลงตัว         

ที่มา : หนังสือ วาบิ ซาบิ งดงามในความไม่สมบูรณ์

04 1 2
02 1