ข้อเสียของ : ไม้ยมหอม
ไม้ยมหอม (Toona ciliata wood) ถือเป็นไม้เนื้อแข็งที่มีคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรง ลวดลายที่สวยงาม และกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่นิยมในตลาดเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน เช่น โต๊ะไม้ยมหอมแผ่นใหญ่ หรือ พื้นไม้ยมหอม อย่างไรก็ตาม ไม้ชนิดนี้ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้งานหรือสะสม มาดูกันว่าข้อเสียของไม้ยมหอมมีอะไรบ้าง
ความไวต่อสภาพอากาศและความชื้น
ไม้ยมหอมเป็นไม้ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและความชื้น หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม อาจเกิดปัญหาได้
– การบวมและหดตัว: เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ในห้องที่ไม่มีการควบคุมอากาศ ไม้ยมหอมอาจเกิดการบวม หดตัว หรือแตกร้าวได้
– เสี่ยงต่อเชื้อรา: หากไม้ยมหอมสัมผัสความชื้นบ่อยครั้งโดยไม่มีการเคลือบป้องกัน เชื้อราอาจเกิดขึ้นบนพื้นผิวของไม้ ทำให้สีและลวดลายของไม้เสียหาย
วิธีป้องกัน: การเคลือบน้ำยาป้องกันความชื้น และการติดตั้งไม้ในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศที่ดีช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหานี้ได้
ราคาสูงและหายาก
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและความนิยมที่เพิ่มขึ้นในตลาด ไม้ยมหอมจึงมีราคาสูงเมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่น
– ต้นทุนการผลิตสูง: ไม้ยมหอมที่มีคุณภาพสูง เช่น ไม้ยมหอมแผ่นใหญ่ มักมาจากแหล่งที่หาได้ยาก หรือเป็นไม้ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ไม้ยมหอมนำเข้า ซึ่งมีค่าขนส่งและภาษีเพิ่มเติม
– การเข้าถึงยาก: แม้จะมีการปลูกไม้ยมหอมในเชิงพาณิชย์ แต่ไม้ที่ได้จากป่าธรรมชาติยังคงมีมูลค่าสูง และอาจใช้เวลาหลายปีในการเพาะปลูกให้พร้อมใช้งาน
ความไวต่อรอยขีดข่วน
แม้ว่าไม้ยมหอมจะมีความแข็งแรงในแง่ของโครงสร้าง แต่พื้นผิวของไม้สามารถเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย โดยเฉพาะหากใช้งานในพื้นที่ที่มีการสัมผัสหรือกระแทกบ่อย
– การใช้งานในครัวเรือน: เช่น โต๊ะไม้ยมหอม ที่ใช้เป็นโต๊ะรับประทานอาหาร หรือโต๊ะทำงาน มักเกิดรอยขีดข่วนจากวัตถุมีคม เช่น มีดหรือปากกา
– พื้นไม้ในพื้นที่ใช้งานหนัก: พื้นไม้ยมหอมในพื้นที่ที่มีการเดินผ่านบ่อย เช่น ทางเดินหรือห้องนั่งเล่น อาจเกิดรอยลึกได้จากการลากเฟอร์นิเจอร์ หรือการใช้งานโดยไม่มีการป้องกัน
วิธีป้องกัน: การใช้แผ่นรองขาเฟอร์นิเจอร์และการหลีกเลี่ยงการลากวัตถุหนักบนพื้นไม้ช่วยลดความเสียหายได้
การดูแลรักษาที่ต้องใช้ความใส่ใจ
ไม้ยมหอมต้องการการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาความสวยงามและคุณสมบัติที่ดี
– การบำรุงด้วยน้ำมันหรือแว็กซ์: การรักษาเนื้อไม้ให้เงางามและทนต่อรอยขีดข่วน จำเป็นต้องลงน้ำมันหรือแว็กซ์อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง
– การทำความสะอาดเฉพาะทาง: ไม่สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปได้ เพราะอาจทำให้สีและลวดลายของไม้เสียหาย ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับงานไม้โดยเฉพาะ
เสี่ยงต่อแสงแดดและความร้อน
ไม้ยมหอมไวต่อแสงแดดและความร้อน ซึ่งอาจทำให้สีซีดจาง หรือเนื้อไม้แตกร้าวได้เมื่อใช้งานในพื้นที่ที่โดนแสงแดดจัด
– สีซีดและไม่สม่ำเสมอ: หากเฟอร์นิเจอร์ไม้ยมหอม เช่น โต๊ะไม้ยมหอมแผ่นใหญ่ หรือ พื้นไม้ยมหอม ถูกตั้งอยู่ในบริเวณที่ได้รับแสงแดดโดยตรง สีของไม้จะซีดลง และลวดลายอาจไม่เด่นชัดเหมือนเดิม
– การแตกร้าวจากความร้อน: ความร้อนจากแสงแดดหรือเครื่องทำความร้อนอาจทำให้เนื้อไม้แตกร้าว โดยเฉพาะในกรณีที่ไม้ไม่ได้ผ่านกระบวนการอบแห้งที่ดี
วิธีป้องกัน: วางเฟอร์นิเจอร์ในที่ร่ม หรือใช้ม่านกันแสงเพื่อช่วยลดผลกระทบจากแสงแดด
น้ำหนักมาก
ไม้ยมหอมมีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับไม้ชนิดอื่น เช่น ไม้สน หรือไม้เมเปิ้ล ซึ่งอาจเป็นปัญหาในบางกรณี
– การขนย้าย: เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ยมหอม เช่น โต๊ะไม้ยมหอมแผ่นใหญ่ หรือ พื้นไม้ยมหอม ต้องการแรงงานหรืออุปกรณ์พิเศษในการขนย้าย
– ข้อจำกัดในการติดตั้ง: สำหรับบ้านที่มีโครงสร้างไม่แข็งแรง การติดตั้งพื้นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้ยมหอมขนาดใหญ่ อาจเพิ่มน้ำหนักให้กับโครงสร้างจนเกิดปัญหาได้
ความเสี่ยงจากปลวกและแมลง
ถึงแม้ไม้ยมหอมจะมีความแข็งแรง แต่หากไม่มีการเคลือบป้องกันปลวกหรือแมลง อาจเกิดความเสียหายได้ในระยะยาว
– พื้นที่เสี่ยงต่อปลวก: หากติดตั้งไม้ยมหอมในพื้นที่ที่ใกล้กับดิน เช่น ห้องใต้ดิน หรือในบ้านที่ไม่มีการป้องกันปลวก ความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้
– การซึมลึกของแมลง: แมลงบางชนิดสามารถเจาะเข้าไปในเนื้อไม้ ทำให้เกิดโพรงภายในและลดความแข็งแรงของไม้
วิธีป้องกัน: ใช้สารเคลือบป้องกันปลวกและตรวจสอบสภาพไม้เป็นระยะเพื่อลดความเสี่ยง
การแปรรูปที่ยากลำบาก
ด้วยความหนาแน่นของเนื้อไม้ ไม้ยมหอมต้องใช้เครื่องมือและแรงงานที่มีความชำนาญในการแปรรูป
– ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง: การตัดหรือขัดไม้ยมหอมต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้เสียหายระหว่างการแปรรูป
–ใช้เวลาและแรงงานมาก: การทำเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะไม้ยมหอม หรือ พื้นไม้ยมหอม อาจใช้เวลานานกว่าปกติ ซึ่งเพิ่มต้นทุนการผลิต
สรุป
แม้ว่าไม้ยมหอม (Toona ciliata wood) จะมีคุณสมบัติเด่นด้านความแข็งแรงและความสวยงาม แต่ข้อเสีย เช่น ความไวต่อความชื้น แสงแดด รอยขีดข่วน และต้นทุนที่สูง ก็เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การดูแลอย่างเหมาะสมและการเลือกใช้งานในพื้นที่ที่เหมาะสมสามารถช่วยลดผลกระทบจากข้อเสียเหล่านี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง พื้นไม้ยมหอม หรือการเลือกใช้ โต๊ะไม้ยมหอมแผ่นใหญ่ เพื่อเพิ่มความสวยงามและความคุ้มค่าในระยะยาว