ไม้เมเปิ้ล : ข้อเสีย - อะ-ลัง-การ 7891

ไม้เมเปิ้ล : ข้อเสีย

ข้อเสียของ : ไม้เมเปิ้ล

ไม้เมเปิ้ล (Maple wood) เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในงานเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน เช่น โต๊ะไม้เมเปิ้ล (maple table) และพื้นไม้เมเปิ้ล (maple wood floors) ด้วยความแข็งแรงและลวดลายที่สวยงาม แต่เช่นเดียวกับวัสดุธรรมชาติอื่นๆ ไม้เมเปิ้ลก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้งานหรือสะสม มาดูกันว่าข้อเสียของไม้เมเปิ้ลมีอะไรบ้าง และส่งผลต่อการใช้งานอย่างไร

ไวต่อความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ

ไม้เมเปิ้ลมีความไวต่อความชื้นและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือความชื้นในอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม้เมเปิ้ลอาจเกิดการบิดเบี้ยวหรือแตกร้าวได้หากไม่ได้รับการป้องกันที่เหมาะสม

ปัญหาจากความชื้น: ความชื้นสามารถซึมเข้าไปในเนื้อไม้เมเปิ้ลได้ง่ายหากไม่ได้เคลือบสารกันน้ำไว้ ทำให้ไม้บวมและเสียรูปทรง สำหรับพื้นไม้เมเปิ้ลที่อยู่ในพื้นที่ชื้น เช่น ห้องน้ำ หรือห้องครัว อาจเกิดปัญหานี้ได้บ่อย
ผลกระทบจากอุณหภูมิ: เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การสลับระหว่างอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศและอากาศร้อนจากแดด ไม้เมเปิ้ลอาจเกิดการขยายตัวหรือหดตัวจนเกิดรอยแตกบนพื้นผิว

สีของไม้ที่ไวต่อแสงแดด

แม้ว่าไม้เมเปิ้ลจะมีสีอ่อนและลวดลายที่สวยงาม แต่สีของมันไวต่อแสงแดดและรังสียูวี (UV) เป็นอย่างมาก เมื่อได้รับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน สีของไม้เมเปิ้ลอาจจางลงหรือเปลี่ยนเป็นสีเหลืองที่ไม่น่าดู

ปัญหาจากแสงแดด: เฟอร์นิเจอร์ไม้เมเปิ้ล เช่น โต๊ะไม้เมเปิ้ล ที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง อาจเสื่อมความสวยงามไปตามกาลเวลา
การแก้ไข: การเคลือบไม้ด้วยสารป้องกันรังสียูวีสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้ แต่ยังต้องระวังการตั้งเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่แสงแดดส่องถึงโดยตรง

รอยขีดข่วนและการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน

แม้ว่าไม้เมเปิ้ลจะมีความแข็งแรงสูง แต่ผิวหน้าของมันค่อนข้างไวต่อรอยขีดข่วน หากใช้งานอย่างไม่ระมัดระวัง ไม้เมเปิ้ลอาจเกิดรอยขีดข่วนที่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะบนพื้นไม้เมเปิ้ลที่ต้องรองรับการเดินหรือการลากเฟอร์นิเจอร์

พื้นไม้เมเปิ้ล: สำหรับพื้นที่มีการใช้งานหนัก เช่น ห้องนั่งเล่น พื้นไม้เมเปิ้ลอาจเกิดรอยขีดข่วนจากรองเท้าหรือสิ่งของที่ลากไปมา
เฟอร์นิเจอร์ไม้เมเปิ้ล: โต๊ะไม้เมเปิ้ลที่ใช้งานประจำวัน เช่น โต๊ะอาหาร อาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายหากไม่ได้ใช้ผ้าปูโต๊ะหรือแผ่นรอง

การดูแลรักษาที่ต้องใช้ความใส่ใจ

ไม้เมเปิ้ลต้องการการดูแลรักษาที่เหมาะสมเพื่อคงความสวยงามและยืดอายุการใช้งาน การทำความสะอาดและการบำรุงรักษาไม้เมเปิ้ลต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากสารเคมีบางชนิดอาจทำให้เนื้อไม้เสียหาย

การทำความสะอาด: การใช้สารทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม เช่น น้ำยาฟอกขาวหรือแอลกอฮอล์ อาจทำให้ผิวไม้เมเปิ้ลเสื่อมสภาพและสูญเสียความเงางาม
การบำรุงรักษา: การเคลือบผิวไม้ด้วยน้ำมันหรือแว็กซ์ต้องทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสียหายจากความชื้นหรือรอยขีดข่วน ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้ผู้ใช้งาน

ต้นทุนสูงในงานระดับพรีเมียม

แม้ว่าไม้เมเปิ้ลจะมีหลายเกรด แต่ไม้เมเปิ้ลที่ใช้ในงานเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียม เช่น ไม้เมเปิ้ลแผ่นใหญ่ (large maple wood) หรือไม้เมเปิ้ลนำเข้า (imported maple wood) มีราคาสูง ซึ่งอาจไม่เหมาะกับงบประมาณของทุกคน

ราคาสูงสำหรับงานพิเศษ: หากต้องการใช้ไม้เมเปิ้ลในงานที่ต้องการความหรูหรา เช่น โต๊ะไม้เมเปิ้ลแผ่นใหญ่ ราคาของไม้เมเปิ้ลชนิดนี้อาจเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากไม้เกรดทั่วไป
การแปรรูป: ไม้เมเปิ้ลที่ผ่านการแปรรูปเพื่อให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การอบแห้งหรือการเคลือบเงา ก็มีราคาสูงกว่าปกติ

ความซับซ้อนในการแปรรูป

ไม้เมเปิ้ลมีความหนาแน่นสูง ทำให้การแปรรูปไม้ เช่น การตัดหรือการขัด ต้องใช้เครื่องมือที่มีคุณภาพสูงและช่างที่มีความชำนาญ การทำงาน DIY กับไม้เมเปิ้ลอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์

เครื่องมือที่ต้องใช้: การตัดหรือขัดไม้เมเปิ้ลด้วยเครื่องมือที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เนื้อไม้แตกหรือเสียหายได้
ความต้องการช่างมืออาชีพ: การผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้เมเปิ้ลที่มีคุณภาพสูงมักต้องพึ่งพาช่างไม้มืออาชีพ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการผลิต

ไม่เหมาะกับการใช้งานในบางสภาพแวดล้อม

ไม้เมเปิ้ลอาจไม่เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น พื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือความร้อนจัด ซึ่งอาจทำให้ไม้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

สภาพแวดล้อมชื้น: การใช้ไม้เมเปิ้ลในห้องน้ำหรือพื้นที่ใกล้ทะเลอาจทำให้ไม้เกิดปัญหา เช่น การบวม หรือการขึ้นราจากความชื้น
สภาพแวดล้อมร้อน: ความร้อนจัดอาจทำให้ไม้เมเปิ้ลแห้งและเกิดรอยแตกบนพื้นผิว

สรุป

ไม้เมเปิ้ล (Maple wood) แม้จะเป็นไม้ที่มีความสวยงามและทนทาน แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณา เช่น ความไวต่อความชื้นและแสงแดด การเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย และการดูแลรักษาที่ต้องใช้ความใส่ใจ นอกจากนี้ การใช้ไม้เมเปิ้ลในงานเฟอร์นิเจอร์ระดับพรีเมียมยังมีต้นทุนสูง รวมถึงความซับซ้อนในการแปรรูปที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญ อย่างไรก็ตาม หากสามารถจัดการข้อเสียเหล่านี้ได้ ไม้เมเปิ้ลก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาไม้เนื้อแข็งคุณภาพสูงสำหรับงานเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน

icon story 1 1
icon story 2
icon story 3
icon story 4
icon story 5
icon story home
หน้าหลัก เมนู แชร์