การดูแลรักษา : ไม้เต็ง
ไม้เต็ง (Shorea wood) เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และใช้ในงานก่อสร้างและการผลิตเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะไม้เต็ง (Shorea tables) และพื้นไม้เต็ง (Shorea floors) ซึ่งได้รับความนิยมในด้านความทนทานและความสวยงามของลวดลายไม้ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นเหล่านี้ การดูแลรักษาไม้เต็งให้คงทนและสวยงามในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้จากไม้เต็งยังคงสภาพดีและใช้งานได้ยาวนาน โดยเฉพาะสำหรับไม้เต็งแผ่นใหญ่ (large Shorea boards) หรือไม้เต็งพารานำเข้า (imported Shorea wood) ที่มีราคาค่อนข้างสูง
การทำความสะอาดพื้นไม้เต็งและเฟอร์นิเจอร์
การทำความสะอาดไม้เต็งเป็นขั้นตอนแรกในการดูแลรักษาไม้ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและคงความสวยงามของลวดลายไม้ตามธรรมชาติ การทำความสะอาดพื้นไม้เต็งหรือโต๊ะไม้เต็งสามารถทำได้ดังนี้
การเช็ดทำความสะอาดเบื้องต้น: ใช้ผ้าสะอาดที่ไม่เป็นขุยหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดฝุ่นและคราบสกปรกที่สะสมอยู่บนผิวไม้ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ไม้ดูดซึมน้ำและเกิดการเสียรูปหรือบวมได้
การทำความสะอาดคราบที่ยาก: สำหรับคราบสกปรกที่ฝังแน่นหรือคราบน้ำมัน ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดที่อ่อนโยนสำหรับไม้โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีรุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวไม้เกิดความเสียหายและสีของไม้จางลง
การดูแลสิ่งตกค้าง: เมื่อทำความสะอาดไม้แล้ว ควรใช้ผ้าสะอาดที่แห้งเช็ดอีกครั้ง เพื่อไม่ให้พื้นไม้หรือเฟอร์นิเจอร์จากไม้เต็งมีน้ำค้างอยู่บนผิวไม้ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียหายจากความชื้น
การป้องกันรอยขีดข่วนและรอยบุบ
ไม้เต็งมีความทนทานพอสมควร แต่ยังคงเสี่ยงต่อการเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยบุบจากการใช้งานหนัก เช่น การวางของที่มีน้ำหนักมากหรือการลากวัตถุต่างๆ บนพื้นไม้ วิธีการป้องกันรอยขีดข่วนและรอยบุบที่มีประสิทธิภาพสามารถทำได้ดังนี้
1.การใช้แผ่นรองหรือพรม: การใช้แผ่นรองใต้ขาเฟอร์นิเจอร์ หรือการวางพรมบริเวณที่มีการเดินหรือเคลื่อนย้ายของหนัก เช่น บริเวณพื้นไม้เต็ง ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวหรือการวางของ
2.การระมัดระวังในการใช้งาน: เมื่อใช้โต๊ะไม้เต็งหรือเฟอร์นิเจอร์ไม้เต็ง ควรหลีกเลี่ยงการลากของหนักหรือลากวัตถุที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน ใช้แผ่นรองใต้ของหนักเพื่อกระจายแรงกดที่ขาเฟอร์นิเจอร์
การเคลือบและป้องกันความชื้น
การป้องกันความชื้นเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษาไม้เต็ง ไม้ชนิดนี้มีความไวต่อความชื้นสูงเกินไปซึ่งอาจทำให้เกิดการบวม การหดตัว หรือการเปลี่ยนรูปทรง วิธีการป้องกันความชื้นสามารถทำได้ด้วยการเคลือบผิวไม้และการจัดการสภาพแวดล้อม
1.การเคลือบด้วยสารป้องกันน้ำ: การเคลือบพื้นไม้เต็งหรือเฟอร์นิเจอร์จากไม้เต็งด้วยสารเคลือบที่มีคุณสมบัติป้องกันน้ำ เช่น น้ำยาเคลือบไม้ หรือแลคเกอร์ จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้าสู่เนื้อไม้และรักษาความคงทนของไม้
2.การเลือกสถานที่ที่เหมาะสม: การวางโต๊ะไม้เต็งหรือเฟอร์นิเจอร์ไม้เต็งในบริเวณที่ไม่มีความชื้นสูง เช่น ห้องที่มีการระบายอากาศดี จะช่วยลดความเสี่ยงจากการสัมผัสกับความชื้นที่อาจทำให้ไม้เสียรูปทรง
การป้องกันแสงแดด
แสงแดดโดยตรงอาจทำให้ไม้เต็งเปลี่ยนสีและซีดจางได้ โดยเฉพาะการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน สีของไม้เต็งจะเริ่มจางลงและทำให้ลวดลายของไม้เสียความชัดเจน วิธีการป้องกันแสงแดดสามารถทำได้ดังนี้:
1.การใช้ม่านหรือผ้าม่าน: การติดม่านหรือผ้าม่านกรองแสงเพื่อป้องกันแสงแดดโดยตรงที่กระทบกับโต๊ะไม้เต็งหรือพื้นไม้เต็ง จะช่วยลดการซีดจางและคงความสวยงามของไม้
2.การเคลือบสารป้องกันแสง UV: การเคลือบสารป้องกันรังสียูวี (UV) บนเฟอร์นิเจอร์ไม้เต็งหรือพื้นไม้เต็ง ช่วยป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายสีของไม้และลวดลายที่เป็นธรรมชาติของไม้เต็ง
การซ่อมแซมไม้เต็งที่เสียหาย
แม้ไม้เต็งจะเป็นไม้ที่ทนทาน แต่เมื่อใช้งานไปนานๆ อาจเกิดรอยขีดข่วนหรือความเสียหายอื่นๆ การซ่อมแซมไม้เต็งสามารถทำได้ดังนี้
1.การขัดผิวไม้: หากพื้นไม้เต็งหรือโต๊ะไม้เต็งมีรอยขีดข่วนหรือรอยบุบสามารถใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดเบาๆ เพื่อขจัดรอยขีดข่วนและทำให้พื้นผิวของไม้เรียบขึ้น
2.การเคลือบผิวใหม่: หลังจากขัดผิวไม้แล้ว ควรทาน้ำมันหรือแลคเกอร์เพื่อเคลือบไม้ใหม่ ทำให้พื้นไม้เต็งกลับมามีสีสันและความเงางามเช่นเดิม
สรุป
การดูแลรักษาไม้เต็งเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์หรือพื้นไม้เต็งคงทนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยการทำความสะอาดที่ถูกต้อง การป้องกันรอยขีดข่วนและการหดตัว การเคลือบป้องกันความชื้นและแสงแดด รวมถึงการดูแลรักษาและซ่อมแซมไม้ที่เสียหายจะช่วยให้ไม้เต็งคงสภาพดีและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว