Douglas Fir
ชื่อสามัญ: Douglas-Fir
ชื่อวิทยาศาสตร์: Pseudotsuga menziesii
ถิ่นกำเนิด: อเมริกาเหนือตะวันตก
ควาสูงลำต้น : 200-250 ฟุต หรือ 60-75 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 5-6 ฟุต หรือ 1.5-2 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 32 lbf/ft3 (510 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.45,0.51
ความแข็ง : 620 lbf (2,760 N)
การแตกหัก : 12,500 lbf/in2 (86.2 Mpa)
การยืดหยุ่น: 1,765,000 lbf/in2 (12.17 Gpa)
แรงอัดแตก: 6,950 lbf/in2 (47.9 Mpa)
การหดตัว: Radial: 4.5%, Tangential: 7.3%, Volumetric: 11.6%, T/R Ratio: 1.6
*หน่วย
lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
สี/ลักษณะ: สามารถเปลี่ยนสีได้ตามอายุและตำแหน่งของต้นไม้ มักจะมีสีน้ำตาลอ่อนปนสีแดง หรือสีเหลือง โดยวงปีจะมีสีเข้มกว่า ไม้ที่โดนตัดนั้นจะปรากฏเสี้ยนไม้ที่มีลักษณะตรงและเรียบ แต่ในไม้แผ่นเรียบ (โดยทั่วไปจะเห็นในแผ่นไม้อัดหรือไม้วีเนียร์แบบกลึง)
เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะมีลักษณะตรงหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบ มีความมันวาวเป็นธรรมชาติปานกลาง
ความทนทาน: ไม้ Douglas-Fir ได้รับการจัดอันดับให้มีความทนทานต่อการผุพังปานกลาง แต่แต่ไวต่อการรุกรานของแมลง
ความสามารถในการใช้: โดยทั่วไปใช้ด้วยเครื่องมือต่าง ๆได้ดี แต่อาจทำให้ใบมีดทื่อได้ปานกลาง ใช้กับงานกาวและการย้อมสีได้ดี
กลิ่น: มีกลิ่นยางชัดเจนเมื่อใช้งาน
การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าไม้ Douglas-Fir ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง คลื่นไส้ วิงเวียน น้ำมูกไหล พร้อมกับโอกาสที่เศษชิ้นส่วนจะติดเชื้อเพิ่มขึ้น ดูบทความ Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ราคา/การมีอยู่: ควรมีจำหน่ายทั่วไปในฐานะไม้แปรรูปในราคาย่อมเยา ไม้เก่าลายน้ำ รูปแบบลวดลายที่เฉพาะอาจมีราคาแพงกว่ามาก
ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และมีรายงานโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความน่ากังวลน้อยที่สุด
การใช้งานทั่วไป: ไม้วีเนียร์ ไม้อัด และไม้โครง/ก่อสร้าง
อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/douglas-fir/