Custom Product Layout - อะ-ลัง-การ 7891

Custom Product Layout

DSC07886

Angelique

DSC07867

ไม้ Angelique เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติพิเศษหลายประการ เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับไม้ Angelique แบบเจาะลึกในทุกด้าน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกใช้ไม้ชนิดนี้ มาดูคุณสมบัติเด่นๆ ที่ทำให้ไม้ Angelique เป็นที่นิยมกันดีกว่า

 

คุณสมบัติและข้อมูลสำคัญ

ไม้ Angelique เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติพิเศษหลายประการ เหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ในบทความนี้เราจะพาคุณมารู้จักกับไม้ Angelique แบบเจาะลึกในทุกด้าน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกใช้ไม้ชนิดนี้ มาดูคุณสมบัติเด่นๆ ที่ทำให้ไม้ Angelique เป็นที่นิยมกันดีกว่า

1. แหล่งที่มาของไม้ Angelique
ไม้ Angelique มีถิ่นกำเนิดในป่าดิบชื้นของอเมริกาใต้ โดยเฉพาะในประเทศอย่าง กายอานา บราซิล และเวเนซุเอลา ทำให้เป็นไม้ที่เติบโตในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง ส่งผลให้ไม้ชนิดนี้มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

2. ลักษณะเนื้อไม้
เนื้อไม้ Angelique เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีโครงสร้างหนาแน่น สีเนื้อไม้มีตั้งแต่สีน้ำตาลอมแดงไปจนถึงน้ำตาลเข้ม มีความมันวาวตามธรรมชาติเมื่อขัดเงา ซึ่งช่วยเสริมความหรูหราและเพิ่มความทนทานของเนื้อไม้

3. ลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์
ไม้ Angelique มีลวดลายสามมิติที่เป็นธรรมชาติ ดูราวกับภาพภูเขาสูงตระหง่าน ลวดลายมีทั้งเส้นตรงและเส้นโค้งที่คดเคี้ยวเล็กน้อย สลับกับเงาเข้มและอ่อนอย่างลงตัว เป็นไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน

 

4. ความทนทานสูงและการใช้งานภายนอก
ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทานต่อสภาพอากาศ ทำให้ไม้ Angelique สามารถใช้งานได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร เช่น เฟอร์นิเจอร์สนาม รั้วไม้ โครงสร้างอาคาร หรือแม้แต่พื้นภายนอกบ้าน เพราะทนต่อความชื้นและเชื้อรา

5. ป้องกันแมลงตามธรรมชาติ
ไม้ Angelique มีคุณสมบัติป้องกันแมลงตามธรรมชาติ เนื่องจากมีสารเคมีตามธรรมชาติในเนื้อไม้ที่ทำให้แมลงไม่ชอบ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการไม้ที่ไม่ต้องใช้สารเคลือบเพื่อป้องกันแมลง

6. สีสันที่เป็นธรรมชาติและโดดเด่น
สีของไม้ Angelique อยู่ในโทนน้ำตาลอมเหลืองไปจนถึงน้ำตาลแดง สร้างความอบอุ่นและเป็นมิตรต่อสายตา เหมาะสำหรับการตกแต่งทั้งแบบคลาสสิกและสมัยใหม่ สีที่ได้จากธรรมชาตินี้ช่วยให้ไม้ดูสดใสและเพิ่มเสน่ห์ให้กับทุกพื้นที่

7. เหมาะสำหรับการตกแต่งหลากหลายสไตล์
ไม้ Angelique สามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์หลากหลายรูปแบบ เช่น โต๊ะกลาง เคาน์เตอร์ ชั้นวางของ และงานตกแต่งผนัง ทั้งยังสามารถนำไปทำชิ้นงานขนาดใหญ่ได้ดี เนื่องจากมีขนาดที่กว้างและยาว มอบความหรูหราและน่าสนใจในทุกพื้นที่

8. เพิ่มมูลค่าทางศิลปะและพลังแห่งธรรมชาติ
ลวดลายที่สวยงามของไม้ Angelique ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานศิลปะจากธรรมชาติ ผสมผสานความสวยงามและความทนทานอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่าไม้ที่มีลายคล้ายภูเขานี้นำพลังบวกและเสริมความสำเร็จแก่ผู้ครอบครอง

9. อายุการใช้งานที่ยาวนานและคุ้มค่า
ไม้ Angelique มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ผุกร่อนง่าย จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว ใช้งานได้หลายสิบปีและมีความทนทานต่อสภาพอากาศมากกว่าไม้ชนิดอื่นๆ

10. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การใช้ไม้ Angelique ซึ่งเป็นไม้ที่มีอายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องการการดูแลซ้ำซ้อน ช่วยลดการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน ไม้ที่มีความทนทานสูงทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมบ่อย ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

bals 1
a 2
DSC07865

ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์

Family FABACEAE-CAESALPINIOIDEAE (angiosperm)
Scientific name(s) Synonymous CITES: IUCN:
Dicorynia guianensis
Dicorynia paraensis
Not listed NE

ชื่อท้องถิ่น

ATIBT Pilot Name
Basralocus
Brazil
Angelica Do Para
Brazil
Basralocus
Brazil
Tapaiuna
French Guiana
Angelique
Suriname
Barakaroeballi
Suriname
Basralokus
China
圭亚那双柱苏木

ลักษณะทางกายภาพ

Grain Straight
Interlocked Grain Absent
Sapwood Clearly demarcated
Texture Medium
Typical Color Brown

คำอธิบายทางกายภาพ

Crushing Strength 70 MPa +/- 3
Specific Gravity (at 12% MC) 0.79 g/cm3 +/- 0.05
Stability Moderately stable
Static bending strength 121 MPa +/- 46

ข้อมูลเชิงเทคนิค

สี: สีน้ำตาลแดงถึงน้ำตาลแดงหรือเหลือง
ขนาดลำต้น: 30 – 45 เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลางของลำต้น : 60 – 90 เซ็นติเมตร
ค่าความแข็ง Janka  : 1,270 ปอนด์ (หรือประมาณ 5,650 นิวตัน)
แรงอัด (Mpa แห้ง) : 67 – 73 Mpa
ความถ่วงจำเพาะ : 0.74 – 0.84
ความหนาแน่น(kg/m3 dry): 1.08 กก./ลบ.ม.
ANIGRE

ANIGRE

ANIGRE

ชื่อสามัญ: Anigre, Anegre, Aniegre, Aningeria (and variant spellings)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Pouteria spp. (เดิมชื่อสกุล Aningeria)

การกระจายพันธุ์: แอฟริกา (พบมากในพื้นที่เขตร้อนของแอฟริกาตะวันออก)

ขนาดต้นไม้: สูง 100-180 ฟุต หรือ 30-55 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 1.0-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 34 lbf/ft3 (550 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.44, 0.55

ความแข็ง : 990 lbf (4,380 N)

การแตกหัก : 12,040 lbf/in2 (83.0 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,588,000 lbf/in2 (10.95 Gpa)

วามสามารถในการบด: 6,920 lbf/in2 (47.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.8%, Tangential: 7.0%, Volumetric: 11.8%, T/R Ratio: 1.8

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอมเหลืองอ่อน บางครั้งก็มีเฉดสีชมพู สีจะเข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลทองมากขึ้นตามอายุของไม้ กระพี้สีซีด มีลวดลายปรากฏบนไม้ให้เห็นเป็นบางครั้ง เช่น ลายหยักหรือลายจุด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง และเป็นมันวาว

ความทนทาน: ไม่ทนทาน ไม่ทนต่อการรุกรานของแมลง กระพี้ของไม้ไวต่อการเกิดคราบเชื้อราสีน้ำเงินในระหว่างการอบแห้งเริ่มแรก

ความสามารถในการใช้: ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่ใช้  แต่ในสายพันธุ์ Anigre มีผนังเซลล์ที่มีความแข็งแรงมากจึงมีผลกระทบต่อเครื่องมือ

กลิ่น: ไม้ Anigre มีกลิ่นจาง ๆ คล้ายกับไม้ Cedar (ไม้สน)

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Anigre ไม่มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพ

ราคา/การมีอยู่: Anigre มักถูกตัดและขายเป็นไม้แผ่น ไม้แผ่นบาง มีราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) แต่ถูกประเมินให้อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง ไม้อัด และเฟอร์นิเจอร์ภายใน ใช้สำหรับต่อเรือ งานไม้ทั่วไป และงานโครงสร้างเบาๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/anigre/

ANJAN

ANJAN

ANJAN

ชื่อสามัญ: Anjan

ชื่อวิทยาศาสตร์: Hardwickia binata

การกระจายพันธุ์: อินเดีย

ขนาดต้นไม้: สูง 50-80 ฟุต หรือ 15-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 46 lbf/ft3 (745 กก./ลบ.ม.)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.61, 0.74

ความแข็ง : 1,460 lbf  (6,490 N)

การแตกหัก : -

การยืดหยุ่: 2,177,000 lbf /in2 (15.01 Gpa)

วามสามารถในการบด: 8,170 lbf/in2 (56.4 Mpa)

การหดตัว: Radial: 3.0%, Tangential: 4.0%, Volumetric: 8.0%, T/R Ratio: 1.3

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีน้ำตาลแดงเข้มถึงเกือบดำ กระพี้บางมีสีขาว

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  :  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน(ลายไม้เรียงตัวคล้ายเครื่องหมายวงเล็บ)

ความทนทาน: ไม้ Anjan มีความทนทานมาก

ความสามารถในการใช้:  ใช้งานได้ค่อนข้างยากเนื่องจากในการตัด ไม้มีความต้านทานต่อการตัดสูง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Anjan ไม่มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพ

ราคา/การมีอยู่:  ไม่มีข้อมูล

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม่มีข้อมูล


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, fromhttps://www.wood-database.com/anjan/

APPLE

APPLE

APPLE

ชื่อสามัญ: Apple, Crab Apple, Wild Apple

ชื่อวิทยาศาสตร์: Malus spp. (Malus domestica, Malus sieversii, Malus sylvestris, etc.)

การกระจายพันธุ์: พบได้ทั่วไปในสภาพอากาศที่ร้อนปานกลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 13-30 ฟุต หรือ 4-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1 ฟุต หรือ 0.3 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 52 lbf/ft3 (830 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.61, 0.83

ความแข็ง : 1,730 lbf (7,700 N)

การแตกหัก : 12,800 lbf/in2 (88.3 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,270,000 lbf/ in2 (8.76 Gpa)

วามสามารถในการบด:  6,030 lbf/in2 (41.6 Mpa)

การหดตัว:  5.6%, Tangential: 10.1%, Volumetric: 17.6%, T/R Ratio: 1.8

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: เป็นไม้เนื้อแข็ง มีตั้งแต่สีแดงอ่อนหรือน้ำตาลอมเทาไปจนถึงสีแดงเข้ม/น้ำตาลเข้ม ลายของไม้ Apple บางครั้งจะเห็นเป็นสีที่เข้มกว่าและสีอ่อนกว่า คล้ายกับไม้ Olive กระพี้เป็นสีครีมซีด

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด คล้ายกับไม้ Cherry.

ความทนทาน: ไม้ Apple ทนทานต่อการผุผังสำหรับไม้เนื้อแข็ง

ความสามารถในการใช้:  อาจทำงานได้ค่อนข้างยากเนื่องจากไม้มีความหนาแน่นสูง และสามารถเผาไหม้ได้ง่ายเมื่อไม้นั้นถูกกลึง แต่ก็สามารถใช้งานกับกาว การย้อมสี ได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นอ่อนๆ หวานๆ ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม่มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพ

ราคา/การมีอยู่: Apple แทบจะไม่มีจำหน่ายในรูปแบบไม้ตัดท่อน และมักจะเห็นจำหน่ายได้ในไม้Apple ที่ขนาดเล็ก มีราคาค่อนข้างสูง มักจะมีไว้สำหรับงานขนาดเล็กและการใช้งานเฉพาะทางเท่านั้น

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) แต่มีคุณสมบัติการสูญพันธุ์ในอนาคตอันใกล้

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์ ที่จับเครื่องมือ แกะสลัก หัวค้อน งานกลึง และงานไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022,from https://www.wood-database.com/apple/

APRICOT

Apricot

APRICOT

ชื่อสามัญ: Apricot

ชื่อวิทยาศาสตร์: Prunus armeniaca

การกระจายพันธุ์: มีถิ่นกำเนิดในยุโรปตะวันออกและเอเชีย; ปลูกทั่วโลก

ขนาดต้นไม้: สูง 20-40 ฟุต หรือ 6-412 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-1.5  ฟุต หรือ  0.3-0.4 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 46 lbf/ft3 (745 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.58, 0.74

ความแข็ง : 1,390 lbf (6,200 N)

การแตกหัก : ไม่มีข้อมูล

การยืดหยุ่: ไม่มีข้อมูล

วามสามารถในการบด: ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  ไม่มีข้อมูล

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: : แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอ่อน บางครั้งมีสีแดงหรือสีส้ม ริ้วลายมีสีน้ำตาลเข้มเป็นปกติ กระพี้บางและมีสีซีดกว่าแก่นไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด และเป็นมันวาวปานกลาง

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล

ความสามารถในการใช้: ใช้งานได้ง่ายกับทั้งมือ เครื่องมือ กาว และงานกลึง แต่ต้องใช้ความระมัดระวังกับพื้นผิวไม้ที่ไม่สม่ำเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาดของไม้

กลิ่น:  ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม่มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพ

ราคา/การมีอยู่: ไม่มีจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ในรูปแบบไม้ท่อนเนื่องจากขนาดต้นไม้ที่เล็ก ไม้ Apricot มักพบเห็นได้ทั่วไปในหมู่ผู้ที่ชอบทำงานอดิเรกและช่างไม้ขนาดเล็กอื่นๆ และร้านค้าปลีก ราคามีแนวโน้มที่จะสูงสำหรับไม้ในประเทศ

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: งานกลึง, เครื่องดนตรี, งานแกะสลัก และด้ามมีด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/apricot/

ARARACANGA

Araracanga

ARARACANGA

ชื่อสามัญ: Araracanga, Volador

ชื่อวิทยาศาสตร์: Aspidosperma megalocarpon

การกระจายพันธุ์: เม็กซิโก อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ตอนเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 100-120 ฟุต หรือ 30-37 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง :3-4 ฟุต หรือ 1-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 59 lbf/ft3 (935 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.75, 0.94

ความแข็ง : 2,450 lbf (10,900 N)

การแตกหัก : 22,060 lbf/in2 (152.1 Mpa)

การยืดหยุ่: 3,041,000 lbf/in2 (20.97 Gpa)

วามสามารถในการบด: 12,830 lbf/in2 (88.5 Mpa)

การหดตัว: Radial: 5.8%, Tangential: 9.3%, Volumetric: 16.5%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นของไม้มีสีเหลืองทองไปจนถึงสีน้ำตาลแดง บางครั้งมีริ้วลายสีม่วง/ชมพู กระพี้มีสีเหลืองไม่ได้แบ่งเขตอย่างชัดเจนจากแก่นไม้ สีมีแนวโน้มที่จะคล้ำขึ้นตามอายุของไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: ความทนทานแตกต่างกันไปตามสถานที่ปลูก ไม้ Araracanga จัดอันดับมีความทนทานปานกลางไปจนถึงความทนทานสูงสำหรับการผุผังของไม้ แต่ง่ายต่อการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: โดยรวมแล้วใช้งานง่าย แต่ไม้ Aararacanga จะมีผลทำให้ความคมของใบตัดทื่อสูง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ: ไม้ Araracanga ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและทางเดินหายใจ รวมถึงอาการคล้ายโรคหอบหืด

ราคา/การมีอยู่: ไม้ชนิดนี้มีขายในประเทศสหรัฐอเมริกา ราคาอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับสายพันธุ์ที่นำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่ถูกประเมินให้อยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง, ไม้อัด, ตู้เก็บของ, เฟอร์นิเจอร์, พื้น, ตกแต่งภายใน และ งานกลึง


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/araracanga/

ARGENTINE OSAGE ORANGE

Argentin Osage orange

ARGENTINE OSAGE ORANGE

ชื่อสามัญ: Argentine Osage Orange, Fustic

ชื่อวิทยาศาสตร์: Maclura tinctoria (syn. Chlorophora tinctoria, Morus tinctoria)

การกระจายพันธุ์: อเมริกาเขตร้อน (หมู่เกาะอินเดียตะวันตก อเมริกากลาง และอเมริกาใต้)

ขนาดต้นไม้: สูง 60-80 ฟุต หรือ 18-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง:2-3 ฟุต หรือ 0.6-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   57 lbf/ft3 (910 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.75, 0.91

ความแข็ :  2,380 lbf (10,590 N)

การแตกหัก : 19,560 lbf/in2 (134.9 Mpa)                         

การยืดหยุ่น: 2,160,000 lbf/in2 (14.90 GPa)

แรงอัดแตก:  11,710 lbf/in2 (80.8 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 3.4%, Tangential: 5.4%, Volumetric: 7.8%, T/R Ratio: 1.6

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีทองถึงสีเหลืองสดใส มีถึงสีน้ำตาลเข้มปานกลางเมื่อเวลาผ่านไป สาเหตุหลักมาจากการสัมผัสกับแสงยูวี ดูบทความ  Preventing Color Changes in Exotic Woods รายละเอียดเพิ่มเติมเพิ่มเติม ในประเทศกัวเตมาลาบางครั้งเรียกว่า "กัวเตมาลาไทเกอร์วูด" หรือ "โมรา" (เพื่อไม่ให้สับสนกับโมราเอ็กเซลซา ซึ่งมีชื่อสามัญว่าโมรา) ซึ่งมีสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงน้ำตาลแดงปานกลาง โดยมีเส้นริ้วสีอ่อนกว่าและสีเข้มกว่า

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรงถึงเสี้ยนสน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง

ความทนทาน: ไม้ Argentine Osage Orange มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่ดี นอกจากนี้ยังทนต่อปลวก

ความสามารถในการใช้:  การทำงานไม้ชนิดนี้อาจเป็นเรื่องยากเนื่องจากความแข็งและความหนาแน่น แม้ว่าจะมีรายงานว่ามีผลทื่อเล็กน้อยต่อใบมีด ใช้งานได้กับการย้อมสี และกาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ

การแพ้/ความเป็นพิษ:  มีรายงานว่า SAP ทำให้เกิดโรคผิวหนัง ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม้ Argentine Osage Orange ควรมีราคาปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งที่นำเข้า ราคาน่าจะเทียบได้กับพันธุ์ Osage Orange ในประเทศ

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป: โครงสร้างหนัก พื้น เฟอร์นิเจอร์ งานกลึง และรายการไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/argentine-osage-orange/

PINK ASH

Ash, pink

PINK ASH

ชื่อสามัญ : Oregon Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Fraxinus latifolia

ถิ่นกำเนิด : อเมริกาเหนือตะวันตก

ความสูงลำต้น : 65-80 ฟุต หรือ 20-25 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 1-3 ฟุต หรือ 0.3-1.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 38 lbf/ft3 (610 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.50, 0.61

ความแข็ง : 1,160 lbf (5,160 N)

การแตกหัก : 12,700 lbf/in2 (87.6 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,360,000 lbf/in2 (9.38 Gpa)          

แรงอัดแตก:  6,040 lbf/in2 (41.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.1%, Tangential: 8.1%, Volumetric: 13.2%, T/R Ratio: 2.0

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นของไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างมีสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนและไม่ได้แบ่งเขตจากแก่นไม้อย่างชัดเจน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบคล้ายกับไม้โอ๊ค เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) บางครั้งอาจพบแผ่นไม้ที่เป็นคลื่นหรือหยัก

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานต่ำทั้งการผุพังและการรุกรานของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้ Oregon Ash ใช้งานค่อนข้างง่ายทั้งด้วยมือ เครื่องมือ กาว และเทคนิคการใช้ไอน้ำดี

กลิ่น: มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Ash เป็นหนึ่งในไม้เนื้อแข็งที่มีราคถูกที่สุดในประเทศ

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES และความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ปูพื้น, กล่อง/ลัง, ไม้เบสบอล และงานกลึง เช่น ด้ามจับเครื่องมือ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/oregon-ash/