ข้อมูลไม้ทั่วโลก

TAMBOOTIE

Tambootie

TAMBOOTIE

ชื่อสามัญ:  Tambootie (variously spelled as: Tambuti, Tambotie, etc.), Sandalo

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Spirostachys africana

การกระจายพันธุ์: แอฟริกาตอนใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 30-50 ฟุต หรือ 10-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-1.5 ฟุต หรือ 30-46 เซนติเมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  60 lbf/ft3 (955 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.81, 0.96

ความแข็ง :   2,480 lbf (11,010 N)

การแตกหัก : 14,890 lbf/in2 (102.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,487,000 lbf/in2 (9.08 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,920 lbf/in2 (61.5 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.8%, Tangential: 5.4%, Volumetric: 8.2%, T/R Ratio: 1.9

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:   สีมีตั้งแต่สีน้ำตาลทองไปจนถึงสีน้ำตาลแดงเข้ม มักจะมีริ้วสีดำ กระพี้มีสีเหลืองอ่อนถูกแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน บางครั้งจะเห็นลายเล็กๆ เป็นจุดๆ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: ไม้Tambootie เป็นเสี้ยนเนื้อไม้ตรง (แต่บางครั้งอาจเป็นคลื่นได้) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ที่ละเอียดและสม่ำเสมอ น้ำมันธรรมชาติในเนื้อไม้ช่วยให้ไม้มีความมันวาวเป็นธรรมชาติสูง

ความทนทาน: แก่นไม้Tambootie ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานสูง และยังทนทานต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้:  โดยรวมแล้วไม้Tambootie มีลักษณะการทำงานที่ดีและแม้จะมีความหนาแน่นสูง แต่ก็ตอบสนองต่อการตัดเฉือนได้ดี ผลกระทบจากการทื่อของใบมีดอยู่ในระดับปานกลางถึงรุนแรง นอกจากนี้เนื่องจากมีน้ำมันตามธรรมชาติอยู่ ไม้จึงขัดได้ยาก แต่ใช้งานได้ดีกับกาว งานกลึง ขัดเงาได้ดีเป็นธรรมชาติสูง

กลิ่น:  ไม้Tambootie มีกลิ่นที่คงอยู่ซึ่งได้รับการอธิบายว่าหอมหวานและน่าพึงพอใจ แม้ว่ามันจะค่อนข้างแรงก็ตาม

การแพ้/ความเป็นพิษ:  น้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อของต้นไม้จากต้นTambootie ที่ยืนต้นอยู่นั้นระคายเคืองต่อผิวหนังอย่างมาก มีรายงานว่าไม้และขี้เลื่อยก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตาและผิวหนัง ในกรณีที่ร้ายแรง มีรายงานการตาบอดอันเป็นผลมาจากการสัมผัสกับขี้เลื่อยของไม้Tambootie จากการทำงาน ควันที่เกิดจากการเผาฟืนยังเป็นพิษ และเป็นที่ทราบกันดีว่าปนเปื้อนเนื้อสัตว์ที่ปรุงด้วยฟืนดังกล่าว ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:   ไม้Tambootie เป็นต้นไม้ที่ค่อนข้างเล็ก และพบได้น้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูงสำหรับไม้แอฟริกันนำเข้า แม้ว่าจะไม่สูงเท่ากับไม้หายากอื่นๆ จากภูมิภาค เช่น ไม้ Pink Ivory  หรือไม้ African Blackwood

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  งานแกะสลัก เฟอร์นิเจอร์ งานกลึง และงานไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tambootie/

TAMO ASH

Tamo ash

TAMO ASH

ชื่อสามัญ: Tamo Ash, Japanese Ash, Manchurian Ash

ชื่อวิทยาศาสตร์: Fraxinus mandshurica (บางครั้งสะกด mandschurica)

การกระจายพันธุ์: เอเชียเหนือ (จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และรัสเซีย)

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 35 lbf/ft3 (560 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.50, 0.56

ความแข็ง : 1,010 lbf  (4,490 N)

การแตกหัก : 10,810 lbf/in2 (74.6 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,195,000 lbf/in2 (8.24 Gpa)          

แรงอัดแตก: ไม่มีข้อมูล

การหดตัว: ไม่มีข้อมูล

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง กระพี้สามารถมีขนาดกว้างมีสีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อนและไม่ได้แบ่งเขตจากแก่นไม้อย่างชัดเจน รูปร่าง/ลวดลายของไม้บางครั้งเรียกว่า "ถั่วลิสง"  เพราะแผ่นไม้อัดที่ถูกปอกเป็นชิ้น( rotary-sliced )มีลวดลายสามมิติที่ดูเหมือนเปลือกถั่วลิสง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง (หมายถึงเซลล์ไฟเบอร์เรียงตัวตรงในแกนตั้ง) มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบไม่สม่ำเสมอ

ความทนทาน: ไม้มีความทนทานถึงทนมานมาก ทนทานต่อการรุกรานของแมลงได้ดี

ความสามารถในการใช้: ง่ายต่อการทำงานด้วยมือและเครื่องมือ  และกาว

กลิ่น: มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ขณะทำงานระดับปานกลาง

การแพ้/ความเป็นพิษ:  ในสกุลไม้ Fraxinus  ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังและการทำงานของปอดลดลง ดูบทความ Wood Allergies , Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ชนิดนี้ขายเกือบทั้งหมดเป็นไม้แผ่นบาง และเกือบทุกครั้งจะมีลายบางประเภท ที่มีรายงานว่าค่อนข้างหายากและมีจำนวนจำกัด แผ่นไม้อัดส่วนใหญ่ส่งออกจากประเทศญี่ปุ่น ราคาสูงสำหรับแผ่นไม้ที่นำเข้าและรวมถึงรูปทรงของลาย: รูปทรงของลายที่สูงขึ้นหมายถึงราคาที่สูงขึ้นด้วย

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดถูกจัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา CITES แต่ไม่ได้อยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: ไม้แผ่นบาง เครื่องดนตรี (กลองและกีตาร์) เฟอร์นิเจอร์ งานฝังไม้ และรายการไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tamo-ash/

TANOAK

Tanoak

TANOAK

ชื่อสามัญ:  Tanoak

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Notholithocarpus densiflorus

การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   42 lbf/ft3 (675 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.56, 0.67

ความแข็ง :    1,420 lbf (6,290 N)

การแตกหัก : 16,650 lbf/in2 (114.8 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,071,000 lbf/in2 (14.29 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,250 lbf/in2 (56.9 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.9%, Tangential: 11.7%, Volumetric: 17.3%, T/R Ratio: 2.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:   กระพี้กว้างมากและไม่แตกต่างจากแก่นไม้อย่างชัดเจน ทั้งกระพี้และแก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงปานกลาง สีจะเข้มขึ้นตามอายุของไม้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้โดยทั่วไปจะเป็นเส้นตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงหยาบ

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าไม่คงทนต่อการเน่าเสียง่าย ความต้านทานต่อแมลงไม่ดี

ความสามารถในการใช้:  สามารถใช้เครื่องจักรหรือเครื่องมือช่างได้ดี แม้ว่าไม้ที่แห้งจะหายากที่ไม่มีข้อบกพร่องหรือการเปลี่ยนสี ใช้งานได้ดีในการติดกาว และการย้อมสี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   นอกจากความเสี่ยงต่อสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ไม้ Tanoak ยังไม่มีปฏิกิริยาด้านสุขภาพเพิ่มเติม ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  โดยทั่วไปแล้วการวางจำหน่ายจะจำกัดเฉพาะแหล่งที่มาในท้องถิ่น โดยทั่วไปจะเป็นแผ่นไม้ปูพื้นหรือแผ่นไม้อัด แม้ว่าบางครั้งจะมีไม้แปรรูปก็ตาม ราคาควรอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งในประเทศ

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ไม้วีเนียร์ พื้น รางรถไฟ และเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/eastern-redbud/

TASMANIAN MYRTLE

Tasmanian myrtle

TASMANIAN MYRTLE

ชื่อสามัญ:  Tasmanian Myrtle, Myrtle Beech

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Nothofagus cunninghamii

การกระจายพันธุ์:  ตะวันออกเฉียงใต้ของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์

ขนาดต้นไม้: สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 ฟุต 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  39 (lbf/ft3) 625(kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.50,0.63

ความแข็ง : 1,310 (lbf) 5,840 (N)

การแตกหัก :  14,230 lbf/in2 (98.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,830,000 lbf/in2 (12.62 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,160 lbf/in2  (49.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.4%, Tangential: 10.0%, Volumetric: 16.3 %, T/R Ratio: 1.9

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีชมพูหรือสีน้ำตาลแดงอ่อน ส่วนกระพี้มีขนาดแคบจะมีสีที่ซีดกว่าแก่นไม้ และมีการแบ่งเขตอย่างไม่ชัดเจนโดยส่วนพื้นที่ที่มีสีตรงกลาง มีรูปแบบลวดลายของเสี้ยนเนื้อไม้เช่น ลายหยักหรือลายคลื่น ซึ่งมีลักษณะเรียบลื่นมาก ไม้Tasmanian myrtle ยังสามารถมีริ้วลายสีดำเข้มในไม้ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “tiger myrtle”

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อมีลักษณะเป็นแนวตรง แต่อาจจะเป็นเสี้ยนสน เป็นคล้ายคลื่น หรือเป็นโค้งลอน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดและสม่ำเสมอ มีความมันวาวสูงอย่างเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: จัดอันดับว่าไม่คงทนถึงเน่าเปื่อยได้ง่ายในเรื่องความต้านทานต่อการผุกร่อน และยังไวต่อการเข้าทำลายของแมลง

ความสามารถในการใช้: ไม้Tasmanian myrtle โดยทั่วไปให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมกับทั้งผู้ทำงานและเครื่องจักร อย่างไรก็ตามพื้นที่ของรูปทรงไม้ที่มีเสี้ยนเนื้อไม้ผิดปกติอาจทำให้เกิดปัญหาในการตัดเลื่อยไม้ ในวิธีการกองไม้ซ้อนกันไว้กลางแจ้งเพื่อให้แก่นไม้แห้งทำได้ยากโดยไม่ให้ไม้มีตำหนิ  และไม้ยังตอบสนองการดัดด้วยไอน้ำได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้ในงานกลึงและติดกาวได้ดี

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่า ไม้Tasmanian myrtle ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อเมือก/เยื่อบุในช่องจมูกและปากที่สร้างน้ำเมือกหล่อลื่น(mucous membrane) ดูบทความเพิ่มเติม Wood Allergies and Toxicity and Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้Tasmanian myrtle มีจำหน่ายทั่วไปในออสเตรเลียในรูปแบบของไม้แปรรูปและไม้กลึง ไม่บ่อยนัก ที่ไม้จะถูกส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา คาดว่าราคาของไม้จะอยู่ในช่วงกลางถึงช่วงบน ขึ้นอยู่กับปริมาณของไม้

ความยั่งยืน: พันธุ์ไม้นี้ไม่ได้จัดอยู่ในบัญชีแนบท้ายอนุสัญญา (CITES) และไม่อยู่ในสถานภาพความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List)

การใช้งานทั่วไป: เป็นไม้ที่ใช้สำหรับไม้วีเนียร์ ไม้อัด ไม้ต่อเรือ งานกลึง งานแกะสลัก ไม้ปูพื้น และเฟอร์นิเจอร์


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood worldwide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tasmanian-myrtle/

TATAJUBA

Tatajuba

TATAJUBA

ชื่อสามัญ:  Tatajuba

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Bagassa guianensis

การกระจายพันธุ์: ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   50 lbf/ft3 (800 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.68, 0.80

ความแข็ง :   1,720 lbf (7,650 N)

การแตกหัก : 17,930 lbf/in2 (123.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,752,000 lbf/in2 (18.98 Gpa)

แรงอัดแตก:  11,440 lbf/in2 (78.9 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.4%, Tangential: 5.9%, Volumetric: 9.6%, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  สีของแก่นไม้ที่เพิ่งผ่ามีตั้งแต่สีเหลืองสดไปจนถึงสีเหลืองทอง เข้มขึ้นเป็นสีน้ำตาลทองหรือสีน้ำตาลแดงเมื่อได้รับแสง กระพี้สีเหลืองขาวซีดแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน พื้นผิวของไม้ผ่าสี่มีลายทางคล้ายกับแถบริบบิ้นของไม้Sapele แม้ว่าแถบจะกว้างกว่ามาก

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดปานกลาง มีความมันวาว

ความทนทาน: ไม้Tatajuba มีรายงานว่าทนทานถึงทนทานมากเกี่ยวกับความต้านทานการผุพัง ต้านทานการรุกรานของแมลงได้ดี แต่ทนต่อสภาพอากาศได้ค่อนข้างไม่ดี

ความสามารถในการใช้:  ความสามารถในการทำงานโดยรวมที่ดี แม้ว่าชิ้นงานที่มีเสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสนอาจเสี่ยงต่อการฉีกขาดระหว่างการไส นอกจากนี้ปริมาณซิลิกาสูงยังทำให้คมตัดทื่อเร็วกว่าปกติอีกด้วย ใช้งานได้กับการติดกาวและงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   มีรายงานว่าไม้Tatajuba ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  นี่คือสายพันธุ์อเมริกาใต้ที่รู้จักกันน้อย ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยตามธรรมชาติ ไม่น่าจะใช้ได้บ่อยนัก คาดว่าราคาจะอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้นำเข้าเขตร้อน

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ปูพื้น พื้นระเบียง ต่อเรือ ตู้ เฟอร์นิเจอร์ ไม้วีเนียร์ และงานกลึง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tatajuba/

TEAK

Teak

TEAK

ชื่อสามัญ:  Teak, Burmese teak, genuine teak

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Tectona grandis

การกระจายพันธุ์: มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้ ปลูกกันอย่างแพร่หลายในพื้นที่เพาะปลูกทั่วเขตร้อนของแอฟริกา เอเชีย และละตินอเมริกา

ขนาดต้นไม้:  สูง 100-130 ฟุต หรือ 30-40 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   40.9 lbf/ft3 (655 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.55, 0.66

ความแข็ง :   1,070 lbf (4,740 N)

การแตกหัก : 14,080 lbf/in2 (97.1 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,781,000 lbf/in2 (12.28 Gpa)

แรงอัดแตก:  7,940 lbf/in2 (54.8 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.6%, Tangential: 5.3%, Volumetric: 7.2%, T/R Ratio: 2

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีแนวโน้มที่จะเป็นสีน้ำตาลทองหรือสีน้ำตาลปานกลาง โดยสีจะเข้มขึ้นตามอายุ

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง แม้ว่าบางครั้งอาจเป็นคลื่นหรือเป็นเสี้ยนสน เนื้อหยาบ ไม่สม่ำเสมอ มีความมันวาวตามธรรมชาติปานกลางถึงน้อย พื้นผิวไม้ที่ยังไม่ขัดเงาจะมีความรู้สึกมันหรือมันเยิ้มเล็กน้อยเนื่องจากน้ำมันธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม้สักได้รับการพิจารณาจากหลายๆคนว่าเป็นมาตรฐานที่สูงมากสำหรับการต้านทานการผุพัง และแก่นของไม้ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานมาก ไม้สักยังทนทานต่อปลวกแม้ว่าจะทนทานต่อเพรียงทะเลและแมลงปีกแข็งได้ในระดับปานกลางเท่านั้น

ความสามารถในการใช้:  ง่ายต่อการทำงานเกือบทุกด้าน โดยมีข้อแม้เพียงอย่างเดียวคือไม้สักมีซิลิกาในระดับสูง (สูงถึง 1.4%) ซึ่งมีผลทำให้ขอบคมตัดทื่ออย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีน้ำมันตามธรรมชาติ แต่ไม้สักมักจะติดกาวและเคลือบผิวได้ดี แม้ว่าในบางกรณีอาจจำเป็นต้องเช็ดพื้นผิวไม้ด้วยตัวทำละลายก่อนติดกาว/เคลือบเงา เพื่อลดน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวไม้

กลิ่น:  ไม้สักสามารถมีกลิ่นคล้ายหนังเมื่อโม่

การแพ้/ความเป็นพิษ:  มีรายงานว่าไม้สักเป็นสารกระตุ้นอาการแพ้ ปฏิกิริยาที่พบบ่อยที่สุดมักจะรวมถึงการระคายเคืองต่อดวงตา ผิวหนัง และทางเดินหายใจ รวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพอื่นๆ เช่น ตาแดง ผื่น คลื่นไส้ อาการคล้ายโรคหอบหืด และผลต่อการมองเห็น ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  แม้จะมีการปลูกอย่างแพร่หลายในพื้นที่เพาะปลูกทั่วโลก แต่ไม้สักก็มีราคาแพงมาก มันอาจเป็นหนึ่งในไม้ที่แพงที่สุดในตลาด สำหรับไม้ขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีรูปร่าง ไม้อื่นๆมีราคาแพงกว่า แต่โดยทั่วไปจะมีเป็นชิ้นเล็กๆ เท่านั้น (เช่น ไม้ Gaboon ebony หรือ ไม้ snakewood  ) หรือไม้เหล่านี้มีมูลค่าตามรูปทรงของเสี้ยนไม้เท่านั้น (เช่น ตาไม้/ปุ่มไม้ ไม้Pommele sapele หรือ ไม้ Waterfall bubinga)

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการยึดครองทางทหารของประเทศเมียนมาร์ (ซึ่งเป็นแหล่งไม้สักที่ใหญ่ที่สุดในโลก) เมื่อเร็วๆ นี้ (ก.พ. 2564) จึงมีการลงโทษต่อไม้สักนำเข้า เนื่องจากบริษัทหลักที่ส่งออกไม้สักเป็นของรัฐบาล การขายไม้จึงเชื่อมโยงกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการกดขี่อย่างต่อเนื่อง

การใช้งานทั่วไป:  การต่อเรือและการต่อเรือ ไม้วีเนียร์ เฟอร์นิเจอร์ การก่อสร้างภายนอก การแกะสลัก การกลึง และวัตถุไม้ขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/teak/

RHODESIAN TEAK

Teak, Rhodesian

RHODESIAN TEAK

ชื่อสามัญ:  Rhodesian Teak, Zambesi Redwood

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Baikiaea plurijuga

การกระจายพันธุ์: ส่วนใหญ่ซิมบับเว (เดิมคือโรดีเซีย) และประเทศอื่น ๆ ในแอฟริกาตอนใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   56 lbf/ft3 (890 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.73, 0.89

ความแข็ง :   2,990 lbf (13,300 N)

การแตกหัก : 12,220 lbf/in2 (84.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,230,000 lbf/in2 (8.48 Gpa)

แรงอัดแตก:  9,600 lbf/in2 (66.2 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 2.6%, Tangential: 4.5%, Volumetric: 6.9%, T/R Ratio: 1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดงปานกลาง โดยทั่วไปมีลายสีดำ กระพี้มีสีเหลืองอมชมพูอ่อน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:   เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด และมีความมันวาวตามธรรมชาติต่ำ

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานมาก ต้านทานแมลงได้ดีแม้ว่ากระพี้จะมีแนวโน้มที่จะถูกแมลงรุกราน

ความสามารถในการใช้:  อาจทำงานได้ยากเนื่องจากมีความต้านทานการตัดสูง เลื่อยช้า นอกจากนี้ เนื่องจากมีปริมาณซิลิกาสูงคมตัดจึงทื่ออย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามสามารถใช้งานได้ดีในทากาวและงาน กลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   มีรายงานว่าไม้ Rhodesian Teak ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  แม้ว่าไม้ Rhodesian Teak จะเป็นไม้ที่สำคัญ แต่ก็ไม่ได้ส่งออกไปทั่วไป บางครั้งก็ใช้เป็นพื้นหรือกระดานแคบ คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงกลางถึงสูงสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่ความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )ว่าใกล้จะถูกคุกคาม ในทางเทคนิคแล้ว มันไม่เป็นไปตามเกณฑ์ Red List เสี่ยงหรือใกล้สูญพันธุ์ แต่ใกล้จะผ่านคุณสมบัติหรืออาจมีคุณสมบัติในอนาคตอันใกล้นี้

การใช้งานทั่วไป:  พื้น ไม้วีเนียร์ งานตกแต่งภายใน ฟิงเกอร์บอร์ด และงานกลึง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/rhodesian-teak/

TEJOCOTE

Tejocote

TEJOCOTE

ชื่อสามัญ:  Tejocote, Mexican Hawthorn

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Crataegus mexicana

การกระจายพันธุ์: มีถิ่นกำเนิดในบริเวณภูเขาของเม็กซิโกและกัวเตมาลา ยังนำเข้าถึงอเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 16-30 ฟุต หรือ 5-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 นิ้ว หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   53.9 lbf/ft3 (865 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.69, 0.86

ความแข็ง :   2,000 lbf (8,910 N)

การยืดหยุ่น:  2,228,000 lbf/in2 (15.37 Gpa)

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  กระพี้มีสีครีม มีแก่นไม้ที่เปลี่ยนแปลงได้สูง (ทั้งความกว้างและสี) แก่นไม้มีตั้งแต่สีเข้มกว่ากระพี้ไปจนถึงสีน้ำตาล

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นสเยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียด และมีความมันเงาเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: เนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่ประกอบด้วยกระพี้ ไม้Hawthorn ถูกพิจารณาว่าเน่าเสียง่ายและมีความต้านทานต่อแมลงต่ำ

ความสามารถในการใช้:  โดยทั่วไปทำงานง่าย แต่อาจแห้งได้ยาก มีการบิดงอและบิดเบี้ยว อย่างไรก็ตาม ไม้จะค่อนข้างเสถียรกว่าเมื่อแห้งแล้ว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   นอกจากความเสี่ยงต่อสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ไม้tejocote ยังไม่พบปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ เพิ่มเติมอีก ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  โดยปกติจะเป็นไม้พุ่มหรือต้นไม้ขนาดเล็กเท่านั้น ไม้tejocote ไม่ใช่ไม้เพื่อการพาณิชย์ โดยทั่วไปแล้วต้นไม้มีค่าที่ผลมากกว่าเนื้อไม้ ดังนั้นควรมีจำกัดมาก

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  งานกลึง งานแกะสลัก และงานไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tejocote/

TEXAS EBONY

Texas ebony

TEXAS EBONY

ชื่อสามัญ: Texas Ebony

ชื่อวิทยาศาสตร์: Ebenopsis ebano

การกระจายพันธุ์: ทางใต้ของเท็กซัสและทางตะวันออกของเม็กซิโก

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-9 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง : 1-2ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 60 lbf/ft3 (956 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.77, 0.97

ความแข็ง : 2,820 lbf (12,560 N)

การแตกหัก : 22,090 lbf/in2 (152.3 Mpa)

การยืดหยุ่น: 2,398,000 lbf/in2 (16.54 Gpa)

แรงอัดแตก: 10,740 lbf/in2 (74.1 MPa)

การหดตัว: ไม่มีข้อมูล

 *หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ชื่อสามัญ: Texas Ebony

ชื่อวิทยาศาสตร์: Ebenopsis ebano

การกระจายพันธุ์: ทางใต้ของเท็กซัสและทางตะวันออกของเม็กซิโก

ขนาดต้นไม้: สูง 20-30 ฟุต หรือ 6-9 เมตร, เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-2ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร
น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 60 lbs/ft3 (956 kg/m3)
ความถ่วงเฉพาะ : 0.77, 0.97
ความแข็ง : 2,820 lbf (12,560 N)
การแตกหัก : 22,090 lbf/in2 (152.3 MPa)

การยืดหยุ่น: 2,398,000 lbf/in2 (16.54 GPa)

แรงอัดแตก: 10,740 lbf/in2 (74.1 MPa)

การหดตัว: ไม่มีข้อมูล


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/texas-ebony/

THUYA

Thuya

THUYA

ชื่อสามัญ: Thuya (burl)

ชื่อวิทยาศาสตร์: Tetraclinis articulata

ถิ่นกำเนิด: พื้นที่ภูเขา Atlas (ส่วนใหญ่เป็นโมร็อกโก เช่นเดียวกับในมอลตาและสเปนตอนใต้

ความสูงลำต้น: 20-50  ฟุต หรือ 6-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 42 (lbs/ft3) หรือ 680 (kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ: 0.56, 0.68

ความแข็ง: 1,160 (lbf) หรือ 5,140 (N)

การแตกหัก: 13,600 ( lbf/in2) (93.8 Mpa)

การยืดหยุ่: 1,800,000 (lbf/in2) (12.41 Gpa)

แรงอัดแตก: 7,750 lbf/in2 (53.4 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.5%, Tangential: 5.1%,Longitudinal: 3.3%, Volumetric: 12.9%, T/R Ratio: 1.1**

**ค่าการหดตัวสำหรับตาไม้

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf /ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีโดยทั่วไปจะเป็นสีน้ำตาลอมส้มหรือสีน้ำตาลแดง สีมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นตามอายุจนถึงสีน้ำตาลแดงปานกลางถึงเข้ม เกือบทุกครั้งจะมีการส่งออกและขายเป็นปมไม้จากรากของต้นไม้ โดยเป็นไม้ธรรมดาหรือไม้แปรรูปที่มีมูลค่าการค้าเพียงเล็กน้อย

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความถี่ละขนาดของตาไม้ที่มีลักษณะหมุนวน มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงละเอียดและมีความแวววาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: มีความทนทานดีและต้านทานแมลงหรือหนอนเจาะได้ดี

ความสามารถในการใช้: ไม้ Thuya Burl อาจทำงานได้ยาก และต้องใช้ความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการฉีกขาด การขึ้นรูป/ไสส่วนใหญ่จะทำให้ลายไม้ฉีกขาด และควรทำด้วยมือและเครื่องมือที่มีความคมมาก สามารถใช้งานกับกระดาษทรายได้ดี

กลิ่น:  ไม้ Thuya มีกลิ่นคล้ายไม้ cedar

การแพ้/ความเป็นพิษ: การเกิดการแพ้ของ ไม้ Thuya ได้แก่ อาการระคายเคืองตา
และผิวหนัง  ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ส่วนใหญ่ขายเป็นปมรากไม้คาดว่าราคาจะสูงมากโดยเฉพาะชิ้นงาน
ที่มีรูปทรงระดับพรีเมียม

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้จัดอยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) และได้รับรายงานจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ว่าเป็นพันธุ์ไม้
ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: งานแกะสลัก, แผ่นไม้อัด, กล่องตกแต่ง, งานกลึง, และงานไม้พิเศษขนาดเล็กต่างๆ


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/limber-pine/

TIETE ROSEWOOD

Tiete Rosewood

TIETE ROSEWOOD

ชื่อสามัญ:  Tiete Rosewood, Patagonian Cherry, Sirari

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Guibourtia hymenaeifolia (syn. G. chodatiana)

การกระจายพันธุ์: อเมริกาใต้

ขนาดต้นไม้:  สูง 130-165 ฟุต หรือ 40-50 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 ฟุต หรือ 1-2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  59 lbf/ft3 (945 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.76, 0.94

ความแข็ง :   2,790 lbf (12,410 N)

การแตกหัก : 15,830 lbf/in2 (109.2 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,030,000 lbf/in2 (14.00 Gpa)

แรงอัดแตก:  ไม่มีข้อมูล

การหดตัว:  Radial: 4.0%, Tangential: 7.0%, Volumetric: 9.7%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  โดยทั่วไปจะมีสีส้มถึงน้ำตาลอมชมพู สีจะเข้มขึ้นและแดงตามอายุ โดยทั่วไปแล้ว เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเส้นตรง แสดงสีและลักษณะที่สม่ำเสมอมาก

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นแนวตรงโดยมีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลางถึงละเอียด

ความทนทาน:  ไม่มีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความทนทานต่อการผุกร่อนของ ไม้Tiete Rosewood แต่จากการทดสอบพบว่าไม้ที่ไม่ผ่านกระบวนการซึ่งใช้ในงานภายนอกมีแนวโน้มที่จะบิดเบี้ยว

ความสามารถในการใช้:  ไม้Tiete Rosewood มีความแข็งและหนาแน่น ทำให้ทำงานได้ยากกว่าไม้ที่เบากว่า แต่ลายไม้ที่ตรงและสม่ำเสมอทำให้สามารถใช้งานได้พอสมควร นอกจากนี้ ไม้ในสกุล Guibourtia มักจะมีซิลิกาที่อาจทำให้ใบมีดทื่อก่อนเวลาอันควร

กลิ่น: มีกลิ่นอ่อนๆ ขณะใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ:  นอกจากความเสี่ยงต่อสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ไม่มีปฏิกิริยาต่อสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Tiete Rosewood ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  โดยทั่วไปจะมีจำหน่ายเป็นไม้กระดานปูพื้น (มักขายภายใต้ชื่อทางการค้า “Patagonian Cherry”) ไม้ Tiete Rosewood ยังหาซื้อได้ไม่บ่อยนักในรูปแบบไม้แปรรูป ควรมีราคาไม่แพงนักสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  พื้นภายใน งานกลึง และรายการไม้พิเศษขนาดเล็ก


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tiete-rosewood/

TIGRE CASPI

Tigre caspi

TIGRE CASPI

ชื่อสามัญ:  Tigre Caspi, Tiger Caspi

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Zygia cataractae

การกระจายพันธุ์: อเมริกากลางและใต้

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   66 lbf/ft3 (1,065 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.78, 1.06

ความแข็ง :   2,420 lbf (10,770 N)

การหดตัว:  Radial: 7.6%, Tangential: 10.2%, Volumetric: 17.9%, T/R Ratio: 1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีเหลืองถึงทองหรือน้ำตาลอมส้ม มีริ้วลายสีน้ำตาลหรือสีดำไม่สม่ำเสมอ กระพี้มีสีเหลืองอมเทามีสีซีดกว่าแก่นไม้เล็กน้อย และไม่มีลายเส้นที่ตัดกัน: ไม่สามารถแยกความแตกต่างจากแก่นไม้ได้ทันทีเสมอไป ลักษณะโดยรวมคล้ายกับไม้Marblewood

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง มีความมันวาวเป็นธรรมชาติ

ความทนทาน: ไม่มีข้อมูล

ความสามารถในการใช้:  ไม่มีข้อมูล

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   นอกจากความเสี่ยงต่อสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาทางสุขภาพใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับไม้ Tigre Caspi ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมันคลุมเครือมาก ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  มีไม่บ่อยนัก ไม้Tigre Caspi มักถูกมองว่าเป็นงานกลึงแท่งหรือกระดานงานฝีมือขนาดเล็ก คาดว่าราคาจะอยู่ในช่วงกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งจากต่างประเทศนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ปูพื้น (ภายในช่วงท้องถิ่น) งานกลึง และไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tigre-caspi/

TIMBORANA

Timborana

TIMBORANA

ชื่อสามัญ:  Timborana

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pseudopiptadenia suaveolens (syn. Piptadenia suaveolens)

การกระจายพันธุ์: อเมริกากลางและบราซิล

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-100 ฟุต หรือ 20-30 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   50 lbf/ft3 (800 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.66, 0.80

ความแข็ง :   1,550 lbf (6,880 N)

การแตกหัก : 17,410 lbf/in2 (120.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,380,000 lbf/in2 (16.41 Gpa)

แรงอัดแตก:  10,300 lbf/in2 (71.0 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 4.6%, Tangential: 6.9%, Volumetric: 10.8%, T/R Ratio: 1.5

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มักมีสีน้ำตาลทองถึงน้ำตาลแดง กระพี้เป็นสีน้ำตาลอ่อน และไม่แตกต่างจากแก่นไม้อย่างชัดเจนเสมอไป กระพี้อาจมีความหนามากกว่า 2.5 นิ้ว (8 ซม.)

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:   เสี้ยนเนื้อไม้มีแนวโน้มจะเป็นเสี้ยนสนหรือเป็นคลื่น รูขุมขนของเนื้อไม้เปิดขนาดใหญ่ที่มีระยะห่างสม่ำเสมอ มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ

ความทนทาน: ไม้ Timborana โดยทั่วไปถือว่าทนทานหรือทนทานปานกลางเกี่ยวกับความต้านทานการผุ แม้ว่าจะไวต่อการรุกรานของแมลงก็ตาม

ความสามารถในการใช้:  ไม้Timborana มีผลทื่อค่อนข้างสูงบนหัวกัดเนื่องจากมีปริมาณซิลิกา ไม้ยังเป็นพื้นผิวที่ค่อนข้างยากเนื่องจากเสี้ยนเนื้อไม้ที่เป็นเสี้ยนสนและความหนาแน่น ไม้ Timborana ใช้งานได้ดีกักาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   แม้ว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับไม้ Timborana แต่ก็มีรายงานว่าบางชนิดในสกุล Piptadenia ทำให้ตา จมูก และคอระคายเคือง ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  โดยทั่วไปแล้วไม้ Timborana จะขายเป็นแผ่นไม้หรือแผ่นกลึงเป็นครั้งคราว ราคาของ ไม้Timborana มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  ในสหรัฐอเมริกาไม้Timborana ใช้เป็นวัสดุปูพื้นเป็นหลัก นอกจากนี้ยังนำเข้าเป็นงานกลึงเป็นครั้งคราว ไม้Timborana ยังใช้สำหรับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ งานภายใน และเฟอร์นิเจอร์อีกด้วย


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/timborana/

Tineo

Tineo

Tineo

ชื่อสามัญ : Tineo

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Weinmannia trichosperma

การกระจายพันธุ์ : อเมริกาใต้ (ชิลีและอาร์เจนตินาเป็นหลัก)

ความสูงลำต้น : 65-100 ฟุต (20-30 ม.)

เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น : 2-3 ฟุต (.6-1.0 ม.)

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย : 44 lbf/ft3 (710 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : .55, .71

ความแข็ง (Janka) : 1,030 lbf (4,570 N)

โมดูลัสของการแตกร้าว : 13,050 lbf/in2 (90.0 Mpa)

โมดูลัสยืดหยุ่น : 1,568,000 lbf/in2 (10.81 Gpa)

แรงอัด : 6,400 lbf/in2 (44.1 Mpa)

การหดตัว :  Radial: ~4%, Tangential: ~8%, Volumetric: ~13%

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

TORNILLO

Tornillo

TORNILLO

ชื่อสามัญ:  Tornillo

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Cedrelinga catenaeformis

การกระจายพันธุ์: อเมริกาใต้เขตร้อน

ขนาดต้นไม้:  สูง 65-115 ฟุต หรือ 20-35 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-6 ฟุต หรือ 1-1.9 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   35 lbf/ft3 (555 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.47, 0.55

ความแข็ง :   950 lbf (4,230 N)

การแตกหัก : 9,870 lbf/in2 (68.1 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,574,000 lbf/in2 (10.86 Gpa)

แรงอัดแตก:   5,950 lbf/in2 (41.1 Mpa)

การหดตัว:   Radial: 3.8%, Tangential: 6.9%, Volumetric: 12.6%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:   แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลทอง รูขุมขนเนื้อไม้ที่เปิดกว้างและมีขนาดใหญ่มากยังทำให้ผิวหน้าของเสี้ยนเนื้อไม้ดูมีเส้นเลือดเด่นชัดอีกด้วย กระพี้มักไม่ค่อยพบเห็นและสีที่ซีดลงจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นแก่นไม้ที่เข้มขึ้น

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้ตรงถึงเสี้ยนสนเล็กน้อย ผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบ มีความมันวาวตามธรรมชาติปานกลาง

ความทนทาน: ได้รับการจัดอันดับว่าทนทานปานกลาง ความต้านทานต่อแมลงไม่ดี

ความสามารถในการใช้:  ง่ายต่อการทำงานด้วยมือหรือเครื่องจักร แต่เนื่องจากมีความหนาแน่นต่ำและเสี้ยนเนื้อไม้ที่เป็นเสี้ยนสน พื้นผิวที่เป็นขรุขระอาจเป็นผลมาจากการตัดเฉือนบางอย่าง อาจจำเป็นต้องใช้เครื่องมือขัดพิเศษหรือมีความคมมากเพื่อให้ได้ผิวที่เรียบ ไม้ชนิดนี้ใช้งานได้กับงานกลึงและกาว

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะ (แม้ว่าไม้สด(ไม้ดิบ) อาจมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์)

การแพ้/ความเป็นพิษ:   นอกจากความเสี่ยงต่อสุขภาพตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับฝุ่นไม้ชนิดใดๆ แล้ว ไม้Tornillo ยังไม่มีปฏิกิริยาด้านสุขภาพเพิ่มเติม ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  แม้ว่าต้นไม้จะมีขนาดใหญ่แต่ไม้ Tornillo จะมีจำหน่ายเป็นไม้แปรรูปเป็นครั้งคราวเท่านั้น และมักถูกมองว่าเป็นงานฝีมือขนาดเล็กหรืองานกลึงแท่ง ราคาอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  เฟอร์นิเจอร์ งานกลึง ไม้ก่อสร้าง/ไม้ใช้สอย และกระดาษ (เยื่อกระดาษ)


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tornillo/

TURKEY OAK

Turkey Oak

TURKEY OAK

ชื่อสามัญ: Turkey Oak, Turkish Oak

ชื่อวิทยาศาสตร์: Quercus cerris

การกระจายพันธุ์: ยุโรปและเอเชีย

ขนาดต้นไม้: สูง 80-120 ฟุต หรือ  25-37 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 4-6 ฟุต หรือ 1.2-2.0 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  45 lbf/ft3 (720 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.54, 0.72

ความแข็ :  1,200 lbf (5,340 N)

การแตกหัก: 16,570 lbf/in2 (114.3 Mpa)                  

การยืดหยุ่น: 1,568,000 lbf/in2 (10.81 Gpa)

แรงอัดแตก:  8,170 lbf/in2 (56.4 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 6.0%, Tangential: 10.0%, Volumetric: 16.0%, T/R Ratio: ~1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต
kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  มีสีน้ำตาลแดงอ่อนถึงปานกลาง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: มีเสี้ยนเนื้อไม้ที่ค่อนข้างหยาบและมี pores หรือ เนื้อเยื่อ/เซลลขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นรูๆอยู่ในเนื้อไม้

ความทนทาน: ไม้ Turkey Oak ได้รับการจัดอันดับว่ามีความทนทานปานกลาง

ความสามารถในการใช้:  ไม้ Turkey Oak ทำงานคล้ายกับต้นโอ๊กที่พบในสหรัฐอเมริกา

กลิ่น: ไม่มีข้อมูล

การแพ้/ความเป็นพิษ:  แต่ก็มีรายงานว่าต้นโอ๊กเป็นสารก่อภูมิแพ้ ปฏิกิริยาทั่วไปส่วนใหญ่มักรวมถึงการระคายเคืองตาและผิวหนัง รวมทั้งอาการคล้ายโรคหอบหืด ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม่มีข้อมูล

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป: ไม่มีข้อมูล


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/turkey-oak/

Turpentine

Turpentine

Turpentine

ชื่อสามัญ:  Turpentine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Syncarpia glomulifera

การกระจายพันธุ์: ออสเตรเลีย

ขนาดต้นไม้:  สูง 100-180 ฟุต หรือ 30-55 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-4 ฟุต หรือ 0.9-1.2 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   59 lbf/ft3 (940 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.70, 0.94

ความแข็ง :   2,750 lbf (12,230 N)

การแตกหัก : 21,600 lbf/in2 (149.0 Mpa)

การยืดหยุ่น:  2,245,000 lbf/in2 (15.50 Gpa)

แรงอัดแตก:  11,650 lbf/in2 (80.3 Mpa)

การหดตัว:  Radial: 5.7%, Tangential: 10.4%, Volumetric: 16.7%, T/R Ratio: 1.8

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีแดงหรือสีน้ำตาลแดง กระพี้เป็นสีชมพูอ่อน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  มีผิวสัมผัสเนื้อไม้ละเอียดถึงหยาบปานกลาง เสี้ยนเนื้อไม้สามารถเป็นได้ทั้งแบบตรง หยัก หรือเสี้ยนสน

ความทนทาน: มีรายงานว่าแก่นไม้มีความทนทานสูงและทนทานต่อการผุพังจากทั้งเชื้อราและแมลง

ความสามารถในการใช้:  อาจทำงานได้ยากเนื่องจากมีความหนาแน่นสูง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำให้คมตัดทื่อ เคลือบเงาให้ความมันวาวสูง ใช้งานได้ดีกับงานกลึง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   มีรายงานว่าไม้นี้ทำให้เกิดการระคายเคืองและบวมของเยื่อบุ ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ไม่มีข้อมูล

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:  การใช้งานภายนอก เช่น การต่อเรือ รางรถไฟ และพื้นระเบียง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/turpentine/

TZALAM

Tzalam

TZALAM

ชื่อสามัญ:  Tzalam, Caribbean Walnut, Sabicu, False Tamarind

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Lysiloma spp. (L. bahamense and L. latisiliquum)

การกระจายพันธุ์: เม็กซิโกและอเมริกากลาง

ขนาดต้นไม้:  สูง 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 2-3 ฟุต หรือ 0.6-1 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:   49 lbf/ft3 (780 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.63, 0.78

ความแข็ง :   1,400 lbf (6,230 N)

การแตกหัก : 12,800 lbf/in2 (88.3 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,900,000 lbf/in2 ( 13.10 Gpa)

การหดตัว:  Radial: 2.7%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 9.5%, T/R Ratio: 2.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ:  แก่นไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลปานกลาง บางครั้งมีสีแดงหรือม่วง มีแถบสีน้ำตาลเข้มกระพี้บางเป็นสีขาวอมเทา แบ่งเขตชัดเจนจากแก่นไม้ บางครั้งเห็นมีลายเป็นลอน

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง ผิวสัมผัสเนื้อไม้สม่ำเสมอ ความมันวาวปานกลาง

ความทนทาน: มีรายงานว่าทนทานมากและทนต่อการรุกรานของแมลงส่วนใหญ่

ความสามารถในการใช้:  คุณสมบัติการทำงานโดยรวมนั้นดี แม้ว่าไม้ Tzalam อาจทำให้ขอบเครื่องมือทื่อได้เร็วกว่าปกติ ใช้งานได้ดีกับงานกลึง กาว สามารถขัดเงาได้เป็นธรรมชาติสูง

กลิ่น: ไม่มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ:   แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างผิดปกติ แต่ก็มีรายงานว่าไม้ Tzalam ทำให้เกิดอาการคล้ายหวัด ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่:  ราคาน่าจะอยู่ในระดับปานกลางสำหรับพันธุ์ไม้เขตร้อนนำเข้า ไม้แผ่นกระดานที่มีลายหยักหรือรูปร่างอื่น ๆ มีแนวโน้มที่จะมีราคาแพงกว่ามาก

ความยั่งยืน:  ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES หรือความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List )

การใช้งานทั่วไป:   ปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ภายนอก ตกแต่งภายใน ไม้วีเนียร์ งานกลึง และรายการไม้พิเศษขนาดเล็กอื่นๆ


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/tzalam/

UTILE

Utile

UTILE

ชื่อสามัญ: Utile, Sipo, Sipo Mahogany

ชื่อวิทยาศาสตร์: Entandrophragma utile

การกระจายพันธุ์: ตะวันตกและแอฟริกากลาง

ขนาดต้นไม้: สูง 150-200 ฟุต หรือ 45-60 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 3-5 ฟุต หรือ 1-1.5 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 40 lbf/ft3 (635 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.53, 0.63

ความแข็ง : 1,180 lbf (5,260 N)

การแตกหัก : 15,060 lbf/in2 (103.8 Mpa)

การยืดหยุ่น: 1,689,000 lbf/in2 (11.65 Gpa)

แรงอัดแตก: 8,280 lbf/in2 (57.1 MPa)

การหดตัว: Radial: 4.9%, Tangential: 6.9%, Volumetric: 11.8%, T/R Ratio: 1.4

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้เป็นสีน้ำตาลแดงปานกลางสม่ำเสมอ กระพี้มีสีเหลืองอ่อนกว่า เสี้ยนเนื้อไม้ที่น่าทึ่งซึ่งพบได้ทั่วไปในไม้ Sapele

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนสน เนื้อไม้หยาบปานกลาง มีความมันวาวเป็นธรรมชาติปานกลาง

ความทนทาน: มีความทนทานปานกลางถึงทนทาน โดยมีรายงานการต้านทานแมลงหลากหลาย

ความสามารถในการใช้: ไม้ Utile อาจสร้างปัญหาในการทำงานในการตัดเฉือนบางอย่าง (เช่น การไส การกำหนดเส้นทางในการตัด ฯลฯ) ส่งผลให้เกิดการฉีกขาดเนื่องจากเสี้ยนสน นอกจากนี้ยังจะทำปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสโดยตรงกับเหล็ก ทำให้เปลี่ยนสีและมีรอยเปื้อน ใช้ได้ดีกับงานกลึงและกาว

กลิ่น: ไม้ Utile มีกลิ่นคล้ายไม้cedarอ่อนๆ ขณะใช้งาน

การแพ้/ความเป็นพิษ: แม้ว่าปฏิกิริยารุนแรงจะค่อนข้างพบได้บ่อย แต่ก็มีรายงานว่าไม้ Utile ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม่ได้มีจำหน่ายเป็นประจำ ราคาสำหรับ Utile ควรอยู่ในระดับปานกลางสำหรับไม้เนื้อแข็งนำเข้า

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES แต่อยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเนื่องจากการลดลงของจำนวนไม้มากกว่า 20% ในสามชั่วอายุคนที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากการลดลงของธรรมชาติและการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัว

การใช้งานทั่วไป: เฟอร์นิเจอร์ ตู้ไม้ ไม้วีเนียร์ การต่อเรือ พื้น และงานกลึง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/utile/

VERAWOOD

Vera

VERAWOOD

ชื่อสามัญ: Verawood, Argentine Lignum Vitae

ชื่อวิทยาศาสตร์: Bulnesia arborea, Bulnesia sarmientoi

การกระจายพันธุ์: อเมริกากลางและอเมริกาใต้ตอนเหนือ

ขนาดต้นไม้: สูง 40-50 ฟุต หรือ 12-15 เมตร

เส้นผ่านศูนย์กลาง: 1-2 ฟุต หรือ .3-.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย: 74 lbf/ft3 (1,190 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 1.01, 1.19

ความแข็ง : 3,710 lbf (16,520 N)

การแตกหัก : 25,730 lbf/in2 (177.4 Mpa)

การยืดหยุ่น: 2,272,000 lbf/in2 (15.67 Gpa)

แรงอัดแตก: 10,830 lbf/in2 (74.7 Mpa)

การหดตัว: Radial: ~6%, Tangential: ~8%, Volumetric: ~13%, T/R Ratio: ~1.3

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: สีของแก่นไม้มีตั้งแต่สีเหลืองมะกอกอ่อน ไปจนถึงสีเขียวเข้มหรือสีน้ำตาลเข้มจนถึงเกือบดำ สีมีแนวโน้มที่จะเข้มขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสกับแสง กระพี้สีเหลืองอ่อนแยกออกจากแก่นไม้อย่างชัดเจน เสี้ยนเนื้อไม้ผ่าสี่มีลวดลายขนนกอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อมองในระยะใกล้

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้: เสี้ยนเนื้อไม้ตรงไปจนถึงเสี้ยนบิด หรือเสี้ยนสนเล็กน้อย เนื้อไม้ละเอียด มีความมันวาวเป็นธรรมชาติสูงมาก

ความทนทาน: มีรายงานว่าไม้ Verawood มีความทนทานมากสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง และว่ากันว่าใช้งานได้ยาวนาน ไม้ Verawood ยังทนทานต่อการรุกรานของแมลงอีกด้วย

ความสามารถในการใช้: ไม้ Verawood มีแนวโน้มที่จะข้ามเครื่องไสไม้ด้านบนเนื่องจากความหนาแน่นสูงมาก นอกจากนี้ ไม้Verawood ยังทำให้ใบมีดทื่ออีกด้วย และโดยรวมถือว่าค่อนข้างยากในการใช้งาน  เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันและความแข็งสูง จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะใช้ได้ดีต่อกาว อย่างไรก็ตาม ไม้Verawood เป็นไม้ที่มีลักษณะพิเศษสำหรับการกลึงและเคลือบผิวได้ดี

กลิ่น: ไม้ Verawood มีกลิ่นหอมคล้ายน้ำหอมที่แตกต่างและคงอยู่แม้ผ่านการตัดเฉือนแล้วก็ตาม

การแพ้/ความเป็นพิษ: มีรายงานว่าขี้เลื่อยไม้Verawood ทำให้จาม และมีรายงานว่าไม้ Lignum Vitae ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดทำให้ผิวหนังระคายเคือง ดูบทความ  Wood Allergies and Toxicity และ Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ควรตั้งราคาไม้ต่างประเทศนำเข้าระดับกลางถึงสูง แผ่นกลึงและชิ้นส่วนขนาดเล็กอื่น ๆ มักจะหาได้ เมื่อเทียบกับไม้เนื้อแข็งเขตร้อนอื่น ๆ เช่นไม้ Cocobolo หรือ Bocote ไม้ชิ้นใหญ่มีน้อยแต่ก็มีจำหน่ายเช่นกัน

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ถูกจัดให้อยู่ในบัญชีแนบท้ายที่ 2 ของสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และอยู่ในความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในโลกโดยองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN Red List) ว่าขึ้นอยู่กับการอนุรักษ์ การยุติโครงการอนุรักษ์ใด ๆ ในปัจจุบันอาจส่งผลให้เกิดสถานะที่เปราะบางหรือใกล้สูญพันธุ์

การใช้งานทั่วไป: ด้ามเครื่องมือ หัวค้อน ตลับลูกปืน ปลอก การต่อเรือ รอก งานก่อสร้างที่หนัก (ในพื้นที่ที่ต้นไม้ขึ้นในพื้นที่) และงานกลึง


อ้างอิง
Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/verawood/

VIRGINIA PINE

Virginia Pine

VIRGINIA PINE

ชื่อสามัญ:  Virginia Pine, Scrub Pine

ชื่อวิทยาศาสตร์:  Pinus virginiana

ถิ่นกำเนิด:  ทางตะวันออกของสหรัฐอเมริกา

ความสูงลำต้น: 50-65 ฟุต หรือ 15-20 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 ฟุต หรือ 0.3-0.6 เมตร

น้ำหนักแห้งเฉลี่ย:  32 lbf/ft3 (515 kg/m3)

ความถ่วงเฉพาะ : 0.45, 0.51

ความแข็ง : 740 lbf (3,290 N)

การแตกหัก : 13,000 lbf/in2 (89.7 Mpa)

การยืดหยุ่น:  1,520,000 lbf/in2 (10.48 Gpa)

แรงอัดแตก:   6,710 lbf/in2 (46.3 Mpa)

การหดตัว: Radial: 4.2%, Tangential: 7.2%, Volumetric: 11.9%, T/R Ratio: 1.7

*หน่วย

lbf/in2 = ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

lbf/ft3 = ปอนด์ต่อลูกบาศก์ฟุต

kg/m3 = กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สี/ลักษณะ: แก่นไม้มีสีน้ำตาลแดง กระพี้กว้าง มีสีขาวอมเหลือง

เสี้ยนเนื้อไม้/ผิวสัมผัสเนื้อไม้:  เสี้ยนเนื้อไม้เป็นเสี้ยนตรง มีผิวสัมผัสเนื้อไม้หยาบปานกลาง

ความทนทาน: แก่นไม้มีความต้านทานการผุกร่อนในระดับปานกลางถึงต่ำ

ความสามารถในการใช้: : โดยรวมแล้วไม้ Virginia Pine ทำงานได้ดีกับเครื่องมือส่วนใหญ่ แม้จะมียางติดเครื่องมือและกระดาษทราย ใช้ในงานกาวได้ดี

กลิ่น: มีกลิ่นเฉพาะตัว

การแพ้/ความเป็นพิษ: ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนัง หรืออาการคล้ายโรคหอบหืดในบางคน ดูบทความ Wood Allergies และ Toxicity Wood Dust Safety สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ราคา/การมีอยู่: ไม้ Virginia Pine  จำหน่ายและผสมกับสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น Southern Yellow Pine ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ขายในรูปแบบไม้สำหรับงานก่อสร้างในราคาย่อมเยา

ความยั่งยืน: ไม้ชนิดนี้ไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัญญาสายพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์ CITES และได้ถูกรายงานจาก IUCN ว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่ากังวลน้อยที่สุด

การใช้งานทั่วไป: สำหรับงานก่อสร้างหนัก เช่น สะพาน คาน เสา รางรถไฟ ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้ทำไม้อัด เยื่อไม้ และแผ่นไม้อัด


อ้างอิง

Eric Meier ( November 2021). Wood identifying and using hundreds of wood world wide Retrieved September 10, 2022, from https://www.wood-database.com/virginia-pine/